สถานะการณ์ภัยแล้งในอินเดียรุนแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้ในปีนี้มีแนวโน้มที่อินเดียจะต้องนำเข้าข้าวและน้ำตาล ล่าสุดเอกชนอินเดียได้เริ่มวิ่งหาซื้อข้าวและน้ำตาลไทยกันจ้าละหวั่นแล้ว
ในระหว่างการประชุมสุดยอดด้านการธนาคาร (Banking Summit) เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่กรุงนิวเดลี นายอนันต์ ชาร์มา รัฐมนตรีพาณิชย์ของอินเดียได้ออกมายอมรับว่าอินเดียกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำตาล ถั่ว และธัญพืชหลักอื่นๆในการบริโภคของชาวอินเดีย หลังจากที่ในปี 2552 ที่อินเดียต้องเผชิญภัยแล้งหนักที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ในปีก่อนราคาอาหารพิ่มสูงขึ้นถึง 19%
ในเดือนมกราคม 2552 ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าและตลอดปีราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับมันฝรั่งราคาในเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับเดือมมกราคมปีก่อน ส่วนสินค้าในกลุ่มถั่วราคาเพิ่มขึ้น 42.21% ขณะที่ผักราคาเพิ่มขึ้น 30% นับจากเดือนตุลาคม 2552 เป็นต้นมารัฐบาลอินเดียได้นำเข้าน้ำตาลแล้ว 3.65 ล้านตัน และกำลังจะนำเข้าอีก 2.3 ล้านตันในเร็วๆนี้ ทั้งนี้มีความเป็นไปได้มากที่อินเดียจะมีการนำเข้าน้ำตาลอีกหลายล้านตันก่อนสิ้นเดือนกันยายน 2553
แม้ว่านายชาร์มาจะปฏิเสธเรื่องที่อินเดียจะต้องนำเข้าข้าวและข้าวสาลีในปีนี้ อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงสินค้าอาหารทดแทนอื่นๆ ของอินเดียก็ขาดแคลนเช่นกัน อีกทั้งมื้ออาหารของคนอินเดียส่วนใหญ่ก็มีแป้งข้าวจ้าวเป็นส่วนผสม จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากที่ปีนี้อินเดียจะต้องนำเข้าข้าวเป็นครั้งแรกนับแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา
ล่าสุดมีรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน —อินเดีย แจ้งว่าเอกชนอินเดียหลายรายเริ่มมองหาข้าวและน้ำตาลจากไทยกันแล้ว อาทิเช่น นาย Sri.APPURAJ SIVASUBRAMANIAN CEO แห่งบริษัท DCD Trade Services ได้แจ้งความประสงค์จะซื้อข้าว 5-10% จากไทยจำนวนเดือนละ 20,000 ตัน และน้ำตาลเดือนละ 70,000 ตัน ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผอ. ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ paisanm@depthai.go.th หรือ thaitcchennai@gmail.com
ที่มา: http://www.depthai.go.th