ชนิดสินค้า ปี 2549 ปี 2550 ปี 2551 ปี 2551 ปี 2552 +/-% กิจการ ม.ค.-มิ.ย. ม.ค.-มิ.ย. ม.ค.-มิ.ย. ปี 2552 - ยางรถใหม่และหล่อดอก 4,031.3 4,273.6 3,989.5 2,125.5 1,639.3 -22.87 25 - ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 6,718.9 7,275.5 7,266.1 3,900.6 2,773.2 -28.95 333 - รวมทั้งสิ้น 10,750.2 11,549.1 11,255.6 6,028.9 4,412.5 -26.81 358 ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ เยอรมัน
ในช่วง 11 เดือนแรกปี 2552 เยอรมนีนำเข้าผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 8,446.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 24.6 แหล่งนำเข้าที่สำคัญๆ ได้แก่ ฝรั่งเศส สาธารณรัฐเช็ก อิตาลี เป็นต้น สำหรับไทยมีการนำเข้าเป็นอันดับที่ 23 มูลค่า 107 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.6
ล้านเหรียญสหรัฐ +/- แหล่งนำเข้าสำคัญ และส่วนแบ่ง % มูลค่านำเข้าโดยเฉลี่ยปีละ 10,509.6 ฝรั่งเศส (13.8) เช็ก (9.4) อิตาลี (6.9) โปแลนด์ (6.3) ไทย (1.3) - ปี 2552 (ม.ค.-พ.ย.) 8,446.6 -24.6% ประกอบด้วย - ยางยานพาหนะ 4,696.2 -17.7% ฝรั่งเศส (16.0) เช็ก (7.3) เนเธอร์แลนด์ (7.1) สโลเวเกีย (6.7) ไทย (0.7) - ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 1,304.3 -30.9% ฝรั่งเศส (16.5) อิตาลี (12.3) เช็ก (7.1) อังกฤษ (7.6) ไทย (0.12) - ยางรัดของ 758.9 -44.2% เช็ก (10.9) โปแลนด์ (9.99) สเปน (8.9) อิตาลี (8.3) ไทย (0.66) - ท่อยาง สายยาง 553.4 -31.5% เช็ก (13.7) อิตาลี (12.2) ฮังการี (11.7) โปแลนด์ (9.3) ไทย (0.48)
ในช่วง 11 เดือนแรกปี 2552 เยอรมนีส่งออกผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางไปยังตลาดในต่างประเทศมูลค่า 9,366.6 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงร้อยละ 20.1 ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรและ อิตาลี เป็นต้น
ล้านเหรียญสหรัฐ +/- ตลาดส่งออกและส่วนแบ่ง % มูลค่าส่งออกโดยเฉลี่ยปีละ 11,250.1 ฝรั่งเศส (11.6) อังกฤษ (7.1) อิตาลี (6.8) สเปน (6.3) ออสเตรีย (6.2) - ปี 2552 (ม.ค.-พ.ย.) 9,366.6 -20.1% ประกอบด้วย - ยางยานพาหนะ 4,160.1 -16.5% ฝรั่งเศส (13.3) อิตาลี (9.1) อังกฤษ (7.8) สเปน (7.3) - ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ (ปะเก็น) 1,719.5 -19.7% ฝรั่งเศส (11.0) โปแลนด์ (8.3) เช็ก (8.0) อังกฤษ (6.0) - ยางรัดของ 1,205.4 -25.7% ฝรั่งเศส (8.2) สหรัฐ (8.1) จีน (7.5) อังกฤษ (6.3) - ท่อยาง สายยาง 775.2 -32.4% ฝรั่งเศส (8.4) ออสเตรีย (8.3) อังกฤษ (6.6) จีน (6.5) ที่มา: Eurostat
ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมาไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางไปยังตลาดเยอรมนีเป็นมุลค่าโดยเฉลี่ยปีละ 151.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2552 มีการส่งออกมูลค่า 149.4 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงร้อยละ 6.6 สินค้าส่งออกสำคัญๆ ได้แก่
ปี 2549 ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 +/- % - ยางยานพาหนะ 26.9 58.2 58.4 56.0 -4.0 - ถุงมือยาง 45.5 51.9 61.2 53.1 -13.2 - ผลิตภัณฑ์ใช้ทางเภสัช 19.3 21.1 25.4 30.7 +21.1 - หลอดและท่อยาง 4.5 4.1 6.4 3.4 -46.3 ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ, กรมศุลกากรไทย
5.1 การนำเข้าสามารถทำได้อย่างเสรี ไม่มีข้อจำกัด
5.2 อัตราภาษีนำเข้าระหว่างร้อยละ 2 — 6.5 ของมูลค่าสินค้าที่นำเข้า โดยมีอัตราสำคัญๆ สำหรับสินค้าแต่ละชนิด ดังนี้
- ถุงมือยางใช้ทางการแพทย์ ร้อยละ 2.0
- ถุงมือยางอื่นๆ “ 2.7 - ยางรถยนต์ “ 4.5 - ยางใน “ 4.0 - ท่อยาง “ 3.0
- แท่นยาง หรือที่ใช้ทางเทคนิค “ 3.5
- สายพาน “ 6.5
นอกจากนี้จะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ร้อยละ 19 ของมูลค่าสินค้าที่นำเข้า ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับสินค้าอื่นๆ
5.3 สินค้าที่จะนำเข้าสู่ตลาดเยอรมนีจะต้องได้มาตรฐาน มีคุณภาพถูกต้อง และเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน ในกรณีที่มีความผิดพลาด ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้ โดยสามารถพิสูจน์ได้ว่า เกิดจากความผิด ความบกพร่องของผู้ผลิต ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจะต้องรับผิดชอบ ชดใช้ความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น
5.4 สารเคมีที่ใช้ในการผลิต จะต้องเป็นสารที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วตามระเบียบ Reach
6.1 ในเยอรมนี สินค้าต่างๆ ที่ทำด้วยยางกว่าครึ่งหนึ่งจะเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ได้แก่ ยางยานพาหนะ ชิ้นส่วนและและส่วนประกอบรถยนต์ ผลของการใช้มาตรการกระตุ้นการขายรถยนต์ทำให้ในปี 2552 ที่ผ่านมามีการขายรถยนต์ใหม่ในเยอรมนีรวมทั้งสิ้น 3.8 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.2 ทำให้มูลค่าตลาดสินค้าทำด้วยยางสูงขึ้น แต่สำหรับปี 2553 นี้ เนื่องจากจะมีการซื้อขายรถใหม่ลดน้อยลงมาก โดยคาดว่าจะลดลงอยู่ที่จำนวน 3.2 — 3.5 ล้านคัน จะส่งผลให้ความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ลดลงด้วยในปี 2553 นี้
6.2 สินค้าทำด้วยยางในเยอรมนีส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงในการผลิต และมีการใช้ยางเทียมเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้ามากขึ้น โดยในปี 2551 มีการใช้ยางธรรมชาติ 240,000 ตัน และยางเทียม 430,000 ตัน สินค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ถุงมือยางที่ปัจจุบันมีปัญหาในการใช้งาน ผู้ใช้บางรายจะเกิดอาการแพ้ คัน เป็นต้น การผลิตโดยใช้ยางเทียมจะไม่ทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ แต่เนื่องจากยังมีราคาสูงกว่าถุงมือทำด้วยยางธรรมชาติ การผลิตโดยใช้ยางเทียมจึงยังไม่แพร่หลาย
6.3 สินค้าสำคัญทำด้วยยางของไทยที่ส่งออกไปเยอรมนี นอกจากยางรถยนต์แล้วจะเป็นถุงมือยาง ที่มีส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 35 ยังคงครองอันดับต้นๆ ในตลาดเยอรมนี เนื่องจากมีคุณภาพดี มีราคาที่เหมาะสมตลาดจึงยังคงมีความต้องการต่อเนื่อง การควบคุมการผลิต ดูแลด้านคุณภาพ คุณสมบัติของสินค้าให้สม่ำเสมอจะช่วยทำให้ตลาดมีความต้องการสินค้าของไทยสืบต่อไป
7. ราคาจำหน่ายของถุงมือยางในปัจจุบันจะมีความแตกต่างกันไป ตามแหล่งที่มา ยี่ห้อของสินค้า และแหล่งจำหน่าย ดังนี้
- ถุงมือยางใช้ครั้งเดียว 5 — 7 เซ็นต์/คู่ (2.45 — 3.43 บาท) - ถุงมือใช้ในครัวเรือน 50 เซ็นต์/คู่ (22 — 34 บาท) - ถุงมือมียี่ห้อ 1.10 ยูโร/คู่ (54 บาท) - ถุงมือใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม/เคมี 2.85 ยูโร/คู่ (140 บาท)
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th