"ส่งออก" เตรียมจัดงาน BIFF & BIL 2010 คาดดึงเงินเข้าประเทศกว่า 2 หมื่นล้านบาทพร้อมชูแฟชั่นไทยรุกตลาดโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 9, 2010 14:16 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ไทยมีรายได้จากการส่งออกสินค้าแฟชั่น 1.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 2.24 และคาดว่าจะสูงเกิน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึงร้อยละ 9-13

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2553 นายยรรยงค์ พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงข่าวงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง ปี 2553 หรือ BIFF & BIL 2010, ASEAN Integration Textiles — Apparel — Leather นำเสนอความยิ่งใหญ่และครบครันของอุตสาหกรรมแฟชั่นในอาเซียน ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ไปถึงปลายน้ำอีกครั้งต้นเดือนเมษายนนี้ ภายใต้แนวคิด “Look East” โดยมีนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นายปิลันธน์ ธรรมมงคล ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย และนางปรานี คุรุเวฬุกรณ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย และรองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีเปิดงานดังกล่าว

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออก ร่วมกับภาคเอกชน เตรียมจัดงานแสดงสินค้าแฟชั่น และงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง หรือ BIFF & BIL 2010 ระหว่างวันที่ 1 - 4 เมษายนนี้ ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “Look East” ที่จะนำเสนอความยิ่งใหญ่ และความครบครันของอุตสาหกรรมแฟชั่นในอาเซียน ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำไปถึงปลายน้ำ โดยมีนำผู้ประกอบการจากชาติสมาชิกอาเซียน ใน 10 ประเทศสมาชิก มาร่วมแสดงขีดความสามารถด้านแฟชั่นร่วมกันใน ASEAN Fashion Plus Pavilion เพื่อให้อุตสาหกรรมแฟชั่น และเครื่องหนังเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ไม่เฉพาะอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วย โดยกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน จะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย การแสดงแฟชั่นโชว์ นิทรรศการสร้างนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก และการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้ง การผลงานแฟชั่นต่างๆ ซึ่งในปีนี้ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 700 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้ประกอบการจากประเทศสมาชิกอาเซียนถึง 114 ราย และมีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานจาก 37 ประเทศ

“ในปี 2552 ไทยมีรายได้จากการส่งออกสินค้าแฟชั่น 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 51 ร้อยละ 2.24 โดยคาดว่าในปี 2553 จะมีรายได้มูลค่าเกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 52 ร้อยละ 9 - 13 และจากข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ อาฟต้า เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วนั้น คาดว่า จะส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่ค้าจะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว” นางยรรยงค์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวภายในงานว่า อุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งประกอบด้วยสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้เดินทาง เครื่องหนังและรองเท้า ถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของภาคส่งออกของไทยที่เติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยหนุนการเติบโตดังกล่าวมาจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย เพื่อก้าวเป็นศูนย์กลางแฟชั่นในอาเซียน สำหรับงาน BIFF & BIL ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 25 โดยยังคงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อตอกย้ำให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง งานนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ไม่เฉพาะแต่อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนได้อีกด้วย

“ในปี 2552 มีผู้ประกอบการร่วมแสดงสินค้ากว่า 700 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนถึง 114 ราย สำหรับงานในปีนี้มุ่งต่อยอดความร่วมมือดังกล่าวภายใต้กรอบ ASEAN Integration เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมแฟชั่นในอาเซียนที่พร้อมจะประสานพลังความคิดสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญ และการผลิตแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดส่งออกสำคัญๆ โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง สำหรับงาน BIFF & BIL 2010 จะเป็นแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นจากผู้ผลิตชั้นนำในอาเซียนที่หลากหลายและครบวงจรที่สุด ภายใต้แนวคิด “Look East” ทั้งสินค้าตามเทรนด์ล่าสุดของตลาดโลกและสินค้าในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ โดยปีนี้มีผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย” นางศรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม

งาน BIFF & BIL 2010 , ASEAN Integration Textiles — Apparel — Leather จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 4 เมษายน 2553 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 1 - 2 เมษายน สำหรับนักธุรกิจ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และในสำหรับประชาชนในวันที่ 3 - 4 เมษายน เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ