ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาวะการค้าปี 2553 และ 2554 ณ เดือนกุมภาพันธ์
สัญญาณของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอิตาลีเริ่มต้นจากช่วงไตรมาส 3 ของปีก่อน โดย The Institute for Studies and Economic Analyses คาดการณ์ว่าปี 2553 เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในช่วงไตรมาส 1 และจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 2
โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เศรษฐกิจอิตาลีกลับมาฟื้นตัว ได้แก่
- การกลับมาฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของเศรษฐกิจโลก (โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม)
- ความต้องการสินค้าของตลาดในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าจานวนคนว่างงานยังคงเพิ่มขึ้น
- การกลับมาฟื้นตัวด้านการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม กับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลให้บริษัทที่มีระบบการดาเนินงานที่ไม่ทันสมัยต้องปิดตัวลงเป็นจานวนมาก ในทางตรงกันข้าม บริษัทที่มีรูปแบบเทคนิค/เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการดาเนินงานมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* GDP (%) -4.9 1.0 1.4
ปี 2553 และ 2554 มีการคาดการณ์ตัวเลข GDP จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นบวก สืบเนื่องจากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศกลับมาฟื้นตัว ความต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น การส่งออกและนาเข้าที่มีตัวเลขดีขึ้น รวมทั้งการนาสินค้าคงคลังที่เหลือออกมาใช้
(%) ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* การผลิตภาคอุตสาหกรรม 17.4 - - ราคาการผลิต -5.4 1.9 2.4
ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* การบริโภคของชาวอิตาเลียน (%) -1.7 0.8 1.1
ปี 2553 การบริโภคจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2552 ที่มีผลติดลบ โดยมีปัจจัยมาจากตัวเลข GDP เพิ่มขึ้นกอปรกับความต้องการของตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นส่งผลให้การบริโภคดีขึ้น
ปี 2554 การบริโภคจะกลับมาฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด
ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* การลงทุน (%) -12.7 0.9 2.8
ปี 2553 การลงทุนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งมีปัจจัยมาจากการปล่อยกู้เพิ่มขึ้นจากธนาคาร เศรษฐกิจการค้าโลกที่ดีขึ้น การให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐบาลอิตาลี (การลดภาษีซื้อรถยนต์) โดยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นคือ การลงทุนในยานยนต์พาหนะสาหรับขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 แต่การลงทุนในการก่อสร้างบ้าน อาคาร ลดลงร้อยละ 1.3
ปี 2554 การลงทุนมีแน้วโน้มฟื้นตัวดีขึ้น โดยการลงทุนในยานยนต์พาหนะสาหรับขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 และการลงทุนในการก่อสร้างบ้าน อาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4
การส่งออกอิตาลีมีความสาคัญเป็นอย่างมากในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดูเหมือนว่าอิตาลีเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดีในตลาดลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสินค้าที่อิตาลีเน้นส่งออก
ปัจจุบันการส่งออกของประเทศอื่นๆในยุโรปเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นเพราะประเทศดังกล่าวเน้นส่งออกสินค้าไปยังตลาดเอเชีย แต่ตลาดส่งออกอิตาลีส่วนใหญ่เป็นตลาดในแถบยุโรป โดยตลาดแถบเอเชียอิตาลียังส่งออกในปริมาณไม่มากนัก ดังนั้น อิตาลีควรเน้นส่งออกสินค้าไปยังตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น
(%) ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* การส่งออก -18.8 3.8 3.9 การนาเข้า -14.9 3.2 3.5
ปี 2553 และ 2554 การส่งออกและการนาเข้า จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น อันมีปัจจัยมาจากความต้องการจากตลาดภายในและตลาดต่างประเทศการเพิ่มขึ้นของ GDP และการนาเข้าวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิต
6.1 การส่งออกมาไทย
ในระหว่างเดือนมกราคม-พฤศิจกายน 2552 ไทยเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 58 ของอิตาลี อิตาลีส่งออกมาไทยมีมูลค่า 703 ล้านยูโร (-19.2%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
สินค้าที่อิตาลีส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่
- รัตนชาติ มูลค่า 35 ล้านยูโร +14.5%
- ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม มูลค่า 25 ล้านยูโร +82.8%
- หนังดิบและหนังฟอก มูลค่า 15 ล้านยูโร +18.5%
สินค้าที่อิตาลีส่งออกลดลง ได้แก่
- เครื่องจักร มูลค่า 257 ล้านยูโร -31.9%
- เครื่องจักรไฟฟ้า มูลค่า 55 ล้านยูโร -5.1%
- เหล็กและเหล็กกล้า มูลค่า 39 ล้านยูโร -20.2%
6.2 การนาเข้าจากไทย
ในระหว่างเดือนมกราคม-พฤศิจกายน 2552 ไทยเป็นแหล่งนาเข้าอันดับที่ 48 ของอิตาลี ซึ่งอิตาลีนาเข้าจากไทยมีมูลค่า 930 ล้านยูโร(-31.4%) เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
สินค้าที่อิตาลีนาเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่
- ปลาและอาหารทะเล มูลค่า 102 ล้านยูโร +5.3%
- ของปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์ มูลค่า 58 ล้านยูโร +64.2%
- อาหารสาหรับสัตว์เลี้ยง มูลค่า 36 ล้านยูโร +14.3%
สินค้าทิ่อิตาลีนาเข้าลดลง ได้แก่
- เครื่องจักร มูลค่า 123 ล้านยูโร -49.7%
- เครื่องจักรไฟฟ้า มูลค่า 79 ล้านยูโร -27.4%
- ยาง มูลค่า 78 ล้านยูโร -48.1%
ที่มา: World Trade Atlas
(%) ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* อัตราเงินเฟ้อ 0.8 1.6 2.0 ปี 2553 อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2552 อันมีปัจจัยมาจากการราคาน้ามันเพิ่มขึ้น ปี 2554 อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาการบริโภคทั้งในและต่างประเทศ 8. ตลาดแรงงาน จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตลาดแรงงานอิตาลีมีการปลดพนักงานออกเป็นจานวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทพยายามหลีกเลียงการปลดพนักงานออก แต่จะใช้หลักการดังนี้ - Cassa integrazione การให้พนักงานหยุดอยู่บ้านในช่วงระยะเวลาหนึ่งและได้รับเงินเดือน - การใช้วันหยุด อนุญาตให้พนักงานใช้วันหยุดแทนที่จะจ่ายเป็นเงิน ปี 2552* ปี 2553* ปี 2554* การจ้างงาน -2.5 -0.6 0.7 การว่างงาน 7.8 8.8 8.8
ปี 2552 สถาบัน ISAE ได้คาดการณ์ว่าตาแหน่งว่างงานจะมีถึง 633,000 ตาแหน่ง โดยภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม (400,000 ตาแหน่ง) และภาคการก่อสร้าง
โดยพนักงานที่ตกงานส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่มีสัญญาทางานปีต่อปี หรือสัญญาตามโครงการ นอกจากนี้ จากไตรมาส 3 ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เริ่มปลดพนักงานที่มีสัญญาทางานตลอดชีพออก
ปี 2553 และ 2554 การจ้างงานและการว่างงานจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยการลดลงของการว่างงานจะหยุดปลดพนักงานออกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2553
- คาดการณ์จากISAE
ที่มา: สานักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี (ISTAT)
The Institute for Studies and Economic Analyses ( ISAE)
ธนาคารแห่งชาติอิตาลี, European Central Bank
Federal Reserve, IMF, HWWA
สานักงานส่งเสริมการค้าในระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th