อิหร่านเป็นประเทศที่มีประชากรกว่า 70 ล้านคน และสามารถเพาะปลูกผลไม้ภายในประเทศเพื่อบริโภคทั้งภายในและส่งออกไปต่างประเทศได้หลายชนิด เช่น เชอรี่ ถั่วพิถาชิโอ ทับทิม อินทพาลัม มะเดือ และกีวี เป็นต้น อย่างไรก็ดี ประชาชนชาวอิหร่านก็นิยมรับประทานผลไม้เมืองร้อนด้วย เช่น กล้วย มะม่วง ส้มโอ มะขาม เป็นต้น ทั้งนี้ ชาวอิหร่านนิยมรับประทานผลไม้ทุกวัน และมีวัฒนธรรมนำผลไม้เพื่อรับรองแขกในทุกโอกาส ตลาดผลไม้อิหร่านจึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ และมีศักยภาพสูง
ทั้งนี้ ชาวอิหร่านนิยมผลไม้ออกรสเปรี้ยว เช่น มะนาว มะขาม และมะม่วง โดยชาวอิหร่านจะเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาลจากห้างสรรพสินค้าและร้านขายผลไม้ขนาดเล็กที่มีทั่วไปในอิหร่าน การขายผลไม้จะขายตามน้ำหนักและไม่ยินยอมให้ลูกค้าคัดเลือกผลไม้แต่อย่างใด ลูกค้าจึงจำต้องซื้อผลไม้สดจากร้านที่มักจะช้ำและเน่าเสียบางส่วน นอกจากนี้ กระบวนการขนส่ง การบรรจุหีบห่อ และการถนอมผลไม้ในอิหร่านยังไม่ดีนักทำให้ผลไม้สดมักเน่าเสียจากการขนส่งก่อนถึงมือผู้บริโภคเสมอ
ขณะนี้ ผลไม้สดไทยที่ทางการอิหร่านอนุญาตให้นำเข้าได้ มี 7 ชนิด ได้แก่
1. ลองกอง
2. เงาะ
3. สินจี่
4. มังคุด
5. ทุเรียน
6. มะขาม
7. ลำใย
อุปสรรคสำคัญในการเปิดตลาดสินค้าผลไม้ไทยในอิหร่านคือเรื่องการตรวจสอบคุณภาพผลไม้ตามมาตรฐานและระเบียบการนำเข้าของทางการอิหร่านที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และเสียค่าใช้จ่ายสูงนอกจากนี้ ผู้นำเข้าอิหร่านที่นำเข้าผลไม้สดจากประเทศอื่นอยู่แล้ว มักจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะกีดกันไม่ให้ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าผลไม้ชนิดเดียวกันจากไทย แม้ว่าผลไม้ไทยจะมีคุณภาพดีกว่าอย่างมากก็ตาม
ทั้งนี้ จากการที่ชาวอิหร่านเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของชาวอิหร่าน ผู้ส่งออกไทยที่ต้องการส่งออกผลไม้ไปอิหร่าน จึงควรเริ่มจากการแสวงหาผู้นำเข้าผลไม้สดชาวอิหร่านที่เชื่อถือได้ และร่วมมือกันฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้สามารถเปิดตลาดผลไม้ไทย ในอิหร่านให้ได้ โดยเมื่อสินค้าผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดอิหร่านแล้ว ก็จะควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวอิหร่านตระหนักถึงคุณภาพของผลไม้ไทย โดยผลไม้ไทยที่น่าจะมีโอกาสส่งออกไปอิหร่านเพิ่มเติมจากที่ทางการอิหร่านกำหนดได้แก่ มะม่วง สัปปะรดสด และส้มโอ
รายงานจาก สคร ณ กรุงเตหะราน
ที่มา: http://www.depthai.go.th