ภาวะตลาดสินค้ายางรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 26, 2010 15:17 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ภาพรวมโดยทั่วไป

ผู้ผลิตยางรถยนต์ญี่ปุ่นเริ่มย้ายฐานการผลิตสู่ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกนำหน้าสหรัฐอเมริกาแล้ว จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่นระบุว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจีนกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดส่งผลให้ความต้องการใช้ยางรถยนต์ในประเทศไม่ว่าจะเป็นยางรถยนต์สำหรับรถใหม่หรือยางรถยนต์สำหรับรถเก่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าตลาดยางรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ (2010) จะได้รับการคาดการณ์ว่าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2009 แต่ผู้ผลิตทุกรายเห็นตรงกันว่าในระยะยาวนั้น ตลาดในประเทศญี่ปุ่นกำลังหดตัวลง

2. ความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตยางรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น

2.1 บริษัท Toyo Tire & Rubber ของญี่ปุ่นจะลงทุนร่วมกับบริษัทไต้หวัน เพื่อสร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ ที่จังหวัด Jiangsu ใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้ มูลค่าโครงการสูงถึง 9 พันล้านเยนหรือประมาณ 3.2 พันล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จในปี 2012 เมื่อเริ่มการผลิตคาดว่าจะสามารถผลิตยางรถยนต์ได้ถึง 2 ล้านเส้นต่อปี

2.2 บริษัท Sumitomo Rubber Industrial (ผู้ผลิตยาง Dunlop) คาดการณ์ว่าในปี 2010 ยอดขายของบริษัทในเอเซียจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปี 2009 และบริษัทกำลังเพิ่มการลงทุนที่ประเทศไทย (จ.ระยอง) เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ประเทศที่ต้องให้ความสำคัญลำดับแรกคือจีน โดยบริษัทก็มีโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัด Jiangsu ประเทศจีนเช่นเดียวกันกับ Toyo Tire ซึ่งเดิมทีบริษัทใช้โรงงานดังกล่าวผลิตยางรถยนต์เพื่อส่งออกให้ตลาดอเมริกาเหนือ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาผลิตเพื่อขายในประเทศจีนอย่างเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ของประเทศจีนนั้นมีปริมาณมหาศาล ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย (TAPMA)ที่มีความกังวลว่าหากจีนสามารถผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้มากกว่าอุปสงค์แล้วเริ่มส่งออกมายังต่างประเทศ ประเทศจีนจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากสำหรับทุกๆประเทศที่ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์

2.3 บริษัท Bridgestone Corp. ผู้ผลิตยางรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ก็จะเพิ่มการลงทุนในโรงงานที่ จังหวัด Jiangsu ประเทศจีน เป็นมูลค่าถึง 10 พันล้านเยนหรือประมาณ 3.57 พันล้านบาท ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยางรถยนต์สำหรับรถโดยสารส่วนบุคคลทั้งหมด หากโครงการแล้วเสร็จในปี 2011 Bridgestone คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกร้อยละ 50 จากเดิมในปัจจุบัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครโอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ