ส่งออกเดือนกุมภา 53 ยังโตต่อเนื่องมูลค่า 14,404 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.1 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน “พาณิชย์” ย้ำปีนี้โต 14% ตามเป้าแน่
ตัวเลขส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ขยายตัวต่อเนื่องถึงร้อยละ 23.15 เชื่อสถานการณ์ทางการเมืองจะไม่กระทบการส่งออกแน่นอน
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ว่า มีการขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ร้อยละ 23.15 มูลค่าการส่งออกกว่า 14,404 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญเพิ่มขึ้นในทุกหมวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรหรืออุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 38.4 เช่นเดียวกับสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่เพิ่มขึ้นทุกรายการ ยกเว้นทองคำที่ลดลงร้อยละ 88.5 โดยสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ได้แก่ สินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เครื่องอิเล็คทรอนิกส์ ส่วนการส่งออกในระยะ 2 เดือนแรก (มกราคม—กุมภาพันธ์) มีมูลค่า 28,127 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตลาดส่งออกที่สำคัญทั้งในตลาดหลักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 38.8 และตลาดใหม่ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคาดการณ์ว่า การส่งออกในเดือน มี.ค.จะมีมูลค่า 14,000-15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกไตรมาสแรกในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 42,000-43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นไปตามเป้าหมาย 170,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน
“ซึ่งขณะนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์เอง กำลังเร่งแก้ไขปัญหาการส่งออกตามข้อเสนอของที่ประชุมหัวหน้ากลุ่มสินค้า (Chief of Product) ที่เป็นผู้ดูแลสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ร่วมกับภาคเอกชน โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น ต้องหารือกับแบงก์ชาติว่า อัตราแลกเปลี่ยนควรอยู่ระดับใด หรือมีแนวทางอย่างไรที่จะให้ความช่วยเหลือในกลุ่มสินค้าใดที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และการประสานเพื่อแก้ไขปัญหาค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ตู้แช่แข็งที่เพิ่มจาก 2,800 เป็น 4,300 เหรียญสหรัฐ/ตู้ และตู้ปกติเพิ่มจาก 900 เป็น 4,000 เหรียญสหรัฐฯ” นางพรทิวา กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์ ตัวเลขการส่งออกในปีนี้ ว่าจะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 14 ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ พร้อมที่จะชี้แจงกับประเทศคู่ค้าทุกประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะไม่กระทบต่อการส่งออก และเชื่อว่า เหตุการณ์จะไม่รุนแรงไปถึงขั้นปิดสนามบิน หรือปิดท่าเรือขนส่ง โดยที่ปัจจัยลบต่อการส่งออก ยังคงเป็นเรื่องของค่าเงินบาท และสถานการณ์ทางการเมือง ที่เชื่อว่าจะไม่กระทบในระยะสั้นๆ แต่หากยืดเยื้อ ก็อาจจะกระทบต่อคำสั่งซื้อบ้าง
ที่มา: http://www.depthai.go.th