มณฑลหูเป่ย ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศจีน ทิศตะวันออกติดกับมณฑลอันฮุย ทิศใต้ติดกับมณฑลเจียงซีและมณฑลหูหนาน ทิศตะวันตกติดกับนครฉงชิ่ง ทิดเหนือติดกับมณฑลเหอหนาน มณฑลหูเป่ยมีพื้นที่ 185,900 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองเป็น 12 เมือง 1 อำเภอเมือง 24 อำเภอ และ 38 เขต เมืองสำคัญๆ ในมณฑลหูเป่ย คือ เมืองอู่ฮั่น เมืองหวงสือ เมืองหยีชาง เป็นต้น
สิ้นปี 2551 มณฑลหูเป่ยมีประชากร (ประชากรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ภายในมณฑลหูเป่ยเป็นระยะเวลาครึ่งปีขึ้นไป) จำนวน 57.11 ล้านคน มีอัตราการเกิดของประชากรร้อยละ 9.21 อัตราการตายของประชากรร้อยละ 6.5 และอัตราการขยายตัวของประชากรร้อยละ 2.71 ส่วนประชาการที่มีงานทำมีจำนวน 36.07 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 2.3 แสนคน สำหรับอัตราการว่างงานของประชากรเท่ากับร้อยละ 4.2 ลดลงจากปี 2550 ร้อยละ 0.01
เมืองอู่ฮั่น
เมืองเอกของมณฑลเหอเป่ยตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่น และตั้งอยู่บริเวณใจกลางของประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 8,494.41 ตร.กม. เมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า การธนาคาร การคมนาคม เทคโนโลยี และการศึกษาในภาคกลางของประเทศจีน โดยมีจุดเด่นคือเป็นเมืองอุตสาหกรรมการผลิตสมัยใหม่ ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ , Optic — electronic manufacturing นอกจากนั้น ยังมีอุตสาหกรรมเหล็กกล้า เภสัชกรรม Biology engineering , อุตสาหกรรมวัสดุสมัยใหม่ การปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยมีบริษัทที่ลงทุนในเมืองนี้ ได้แก่ Wuhan Iron & Steel Co.Ltd. , Dongfeng — Citroen Automobile Co.,Ltd
เขตพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลหูเป่ย
เขตพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติ เป็นเมืองที่เน้นในอุตสาหกรรมซิลิคอน โดยพยายามพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านซิลิคอนของประเทศจีน ทั้งในอุตสาหกรรมด้าน Optical Cable Communication , Laser Industry อุตสาหกรรมซอฟแวร์ โดยในพื้นที่นี้มีสถาบัน Wuhan Post and Telecommunications Science Research Institute เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ศึกษาค้นคว้าในอุตสาหกรรมด้าน Electronic Information ในประเทศจีน นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของ Wuhan Changfei Optical Fiber and Cable company เป็นหนึ่งในบริษัทเคเบิ้ลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Wuhan Huaruan Software Park ซึ่งเป็นฐาน Multi — media Software ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนนอกจากนี้ เมืองหวู่ฮั่นยังเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจำนวน 23 แห่ง ได้แก่ Wuhan University, Huazhong Sceince and Engineering University และสถาบันการวิจัยอีก 56 แห่ง
ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติ โดยมีบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเขตนี้ ได้แก่ Citroen Co. and Ecia Co. จากประเทศฝรั่งเศส Coca Cola Co. และ General Motor Co. จากประเทศสหรัฐอเมริกา Pilkington PLC และ T&N Group จากประเทศอังกฤษ Hyundai Co. จากประเทศเกาหลีใต้ Marubeni Co. จากญี่ปุ่น Golden lion Group จากมาเลเซีย นอกจากนั้น มีเขตพัฒนาเศรษฐกิจอื่นๆที่สำคัญ ได้แก่
1) Xiangfan Hi — tech Development Zone
2) Optie Valley Development Zone
3) Wujiashan Business Investment Zone
GDP ปี 2552 มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของมณฑลหูเป่ยเท่ากับ 1,283,152 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 13.2 ซึ่งนับเป็นอัตราขยายตัวด้วยตัวเลขสองหลักติดต่อกันเป็นปีที่ 6 โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.82 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ของทั้งประเทศซึ่งมีมูลค่า 33,535,300 ล้านหยวน
ปี มูลค่า GDP อัตราขยายตัว(%) 2549 749,717 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12.1% 2550 915,001 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 14.5% 2551 1,133,038 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 13.4% 2552 1,283,152 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 13.2%
1. อุตสาหกรรมเหล็ก โดยมีบริษัท Wuhan Iron and Steel (Group) Corporationในเมืองอู่ฮั่น (Wu Han) เป็นตัวนำ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเหล็กใหญ่อันดับ 3 ของประเทศจีน
2. อุตสาหกรรมรถยนต์ โดยมีบริษัทDongfeng Motor Corporation ในเมืองเอ้อโจว(Er Zhou) เป็นตัวนำในปี 2551 บริษัทดังกล่าวได้จำหน่ายรถยนต์ทั้งสิ้น 1.32 ล้านคัน มูลค่ารวม 196,900 หยวน อยู่อันดับต้นของจีน
3. อีเล็คโทรนิคส์และสื่อสาร โดยมี Optics Valley of China ในเมืองอู่ฮั่น(Wu Han) เป็นตัวนำ นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมอีเล็คโทรนิคส์ที่เมืองจิงโจว (Jing Zhou)
4. น้ำมันปิโตรเลียมและเคมี สาขาของบริษัท China Petrochemical Corporation ที่ตั้งอยู่ในเมืองจิงเหมิน(Jing Men) และเมืองอู่ฮั่น(Wu Han) รวมทั้งนาน้ำมันเจียงฮั่น (Jiang Han) เป็นตัวนำ
5. อาหารและเครื่องดื่ม ในปี 2552 มูลค่าการผลิตด้านอุตสาหกรรมอาหารรวมทั้งหมด 58,048 ล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5 ส่วนอุตสาหกรรมใหม่ที่รัฐบาลมณฑลหูเป่ยให้ความสำคัญในระยะต่อไปได้แก่
1. อุตสาหกรรมอีเล็คทรอนิคส์และสารสนเทศ
2. อุตสาหกรรมชีวภาพ
3. อุตสาหกรรมพลังงานใหม่
4. อุตสาหกรรมที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม
5. รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า
1. ธุรกิจด้านเสริมความงาม
ปัจจุบันธุรกิจเสริมความงานในประเทศจีนได้รับความนิยมมาก และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ลดน้ำหนัก ศูนย์ศัลยกรรมเสริมความงาม การนวดแผนโบราณ และสปา ซึ่งเมืองไทยมีชื่อเสียงในด้านนี้เป็นอย่างมาก โดยในปัจจุบันเมืองอู่ฮั่นยังไม่มีธุรกิจการนวดแผนโบราณแบบไทย และในปัจจุบันกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ก็ได้เร่งผลักดันในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการลงทุนในมณฑลหูเป่ยอีกทางหนึ่งด้วย
2. ธุรกิจด้านร้านอาหารไทย
อาหารของมณฑลหูเป่ยเป็นอาหารที่มีรสเผ็ดคล้ายอาหารไทย และธุรกิจร้านอาหารไทยในมณฑลหูเป่ยมีน้อยมาก และยังไม่มีคนไทยเปิดร้านอาหารไทยในมณฑลหูเป่ย ธุรกิจร้านอาหารไทยน่าจะมีศักยภาพค่อนข้างสูงในมณฑลหู่เป่ย
3. ธุรกิจผลไม้ไทย
ผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมของคนในมณฑลหูเป่ย ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด เงาะ มะม่วง ชมพู่ ฯลฯ แต่ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่สั่งซื้อจากตลาดขายส่งผัก-ผลไม้เจียงหนานในนครกวางโจว ไม่มีการนำเข้าโดยตรงซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับผู้ส่งออกผลไม้ไทย
4. ธุรกิจด้านการศึกษา
มณฑลหูเป่ยเป็นมณฑลที่มีจำนวนมหาวิทยาลัยมากติดอันดับ 3 ประเทศจีน รองลงมาจากกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ โอกาสที่มหาวิยาลัย/สถาบันของไทยมาร่วมมือกับมณฑลหูเป่ย หรือจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนจึงมีความเป็นไปได้สูงมาก
สคร. กวางโจว
ที่มา: http://www.depthai.go.th