อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม และยาสูบ รวมทั้งวัตถุดิบทางเกษตร (เช่น เมล็ดพืชน้ำมัน น้ำมันพืช เป็นต้น) มีสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นจากปี 2007 และมีผลทำให้ดุลการค้าดีขึ้น
ในช่วง 10 ปีมานี้การส่งออกและนำเข้ามีแนวโน้มที่แตกต่างกัน ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (โดยเฉพาะหลังจากเข้าเป็นสมาชิกของอียู) แต่การส่งออกกลับลดลง จนกระทั่งปี 2007 และ 2008 ที่การส่งออกเพิ่มขึ้น และมาคงที่ในปี 2009 โดยที่มีกลุ่มสินค้าที่สำคัญ 2 กลุ่ม คือ ธัญพืช และน้ำมันพืช
โครงสร้างการค้าสินค้าเกษตรของฮังการีเปลี่ยนไปเมื่อเป็นสมาชิกอียู การส่งออกไปยังอียูเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการนำเข้า
ในปี 2009 ฮังการีค้าสินค้าเกษตรกับ 150 ประเทศทั่วโลก มีจำนวน 97 ประเทศที่เป็นการค้าสองฝ่าย มีการส่งออกไป 33 ประเทศ และฮังการีนำเข้าจาก 20 ประเทศ
การส่งออกส่วนใหญ่เท่าๆ กัน แต่การนำเข้ามีมูลค่าสูงกับบางประเทศ การส่งออกร้อยละ 80 ไปยัง 13 ประเทศ ซึ่งมี 11 ประเทศที่เป็นสมาชิกอียู ในขณะที่ การนำเข้าร้อยละ 80 มาจาก 10 ประเทศสมาชิกอียู
ประเทศที่เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของฮังการี คือ เยอรมนี อันดับสองคือ โรมาเนีย ที่มีการนำเข้าหมู เมล็ดทานตะวัน น้ำตาล ผักและผลไม้แปรรูป เครื่องดื่ม
อิตาลีมีการนำเข้า แกะ หมู และไก่ นม ข้าวสาลีและข้าวโพด ทางด้าการนำเข้า ฮังการีนำเข้าจากโปแลนด์และเนเธอร์แลนด์เป็นอันดับสองและสาม สินค้าที่นำเข้า ได้แก่ หมู นมและผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ อาหารแปรรูป
ตารางข้างล่างนี้ แสดงถึงดุลการค้าสินค้าเกษตร เนื่องจากสินค้าเกษตรมีความสำคัญในโครงสร้าง GDP และทำให้ฮังการีได้เปรียบดุลการค้า และในขณะเดียวกันก็แสดงถึงความสามารถในการเลี้ยงตนเอง (self-supply) ที่แต่ละประเทศให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกด้วย
ที่มา: http://www.depthai.go.th