การลงทุนที่น่าสนใจสำหรับชาวไทยในเขตแคนาดาตะวันตก

1.1 การลงทุนด้านศูนย์วิจัยประเภท Research & Development (R&D)

1.2 การลงทุนด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม (Cultural Business)

1.3 การลงทุนด้านการเพาะปลูกอาหาร Organic

1.1 การลงทุนด้านศูนย์วิจัยประเภท Research & Development (R&D)

• รัฐบาลแคนาดา (ทั้งส่วนกลางและส่วนมณฑล) มีนโยบายให้การสนับสนุนการวิจัย ค้นคว้าความรู้ใหม่ อยู่เสมอ โดยผู้ลงทุนมักได้รับการสนับสนุนทั้งในรูป การกู้ยืมเงิน (Government Loan) และการคืนภาษี (Tax Break) ขึ้นอยู่กับแต่ละมณฑล

1.2 การลงทุนด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม (Cultural Business)

• รัฐบาลแคนาดามีนโยบายสร้างภาพลักษณ์ให้แคนาดาเป็นศูนย์รวมของชาวต่างชาติ โดยแคนาดาเปิดรับชาวต่างชาติ (ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม) ให้โอนสัญชาติมาอยู่ในแคนาดาได้อย่างเสรี โดยรัฐบาลให้ทุน สนับสนุนการประกอบธุรกิจ/ โครงการที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมอื่นในแคนาดาเสมอๆ (Cultural grant programs)

1.3 การลงทุนด้านการเพาะปลูกอาหาร Organic

• รัฐบาลแคนาดามีนโยบายส่งเสริมความอยู่ดี กินดี ของประชาชน จึงมีการสนับสนุนแนวคิดด้านอาหาร Organic ทั้งนี้ แคนาดามีอณาเขตกว้างขวางมาก รัฐบาลในแต่ละมณฑลจึงประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนแนวคิด "Think Local, Eat Local" ซึ่งหมายถึงการเลือกซื้อ และรับประทานอาหาร Organic ที่ผลิตจากแหล่งผลิตที่มีที่มาชัดเจน (ภายในเขตใกล้เคียง พื่อความสดใหม่) เท่านั้น

1.1 การลงทุนด้านศูนย์วิจัยประเภท Research & Development (R&D)

• ธุรกิจ R&D ในแคนาดาแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ การค้นคว้าด้าน Natural Science & Engineering และด้าน Social Science & Humanities โดยในปี 2551 มูลค่าการลงทุนด้าน R&D ในแคนาดาประมาณ 2.89 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นการลงทุนด้าน Natural Science & Engineering 2.67 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และด้าน Social Science & Humanities 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ4

1.2 การลงทุนด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม (Cultural Business)

• รัฐบาลส่วนมณฑล โดยมากจะมีเงินทุนสนับสนุนด้าน Diversity Support & Grants แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแต่ละเขต นักลงทุนต้องติดต่อและกรอกแบบฟอร์มเสนอรายละเอียดการลงทุนของตนเป็นรายกรณีไป

1.3 การลงทุนด้านการเพาะปลูกอาหาร Organic5

• แคนาดามีผู้ประกอบการในลักษณะ Producer ด้านอาหาร Organic ประมาณ 3600 ราย มีพื้นที่เพาะปลูกอาหาร Organic ประมาณ 5.3 แสนเฮคเตอร์
• ธุรกิจอาหาร Organic ในแคนาดามียอดขายประเภท Annual Retail Sales ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี

1.1 การลงทุนด้านศูนย์วิจัยประเภท Research & Development (R&D)

• นักลงทุนไทยควรตรวจสอบดูนโยบายของรัฐบาลแต่ละมณฑล ว่าสนับสนุนการค้นคว้าด้านใด เพื่อความถูกต้องในการหาบริษัทต่างชาติที่จะร่วมลงทุนด้วย ทั้งนี้ บางรัฐบาลส่วนมณฑลอาจมีโครงการ หรือเงินทุนที่สามารถร่วมกับนักลงทุนไทยได้ ในลักษณะ Crown Corporation Joint Venture

1.2 การลงทุนด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม (Cultural Business)

• นักลงทุนไทยสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มหรือสมาคมเพื่อการพาณิชย์ได้ ขึ้นอยู่กับกฏระเบียบในแต่ ละเขต

1.3 การลงทุนด้านการเพาะปลูกอาหาร Organic

• นักลงทุนไทยสามารถลงทุนร่วมกับเกษตรกรชาวแคนาดาได้ เนื่องจากมีความชำนาญด้านสภาพดินฟ้าอากาศ ตลอดจนช่องทางการจัดจำหน่ายในแคนาดามากกว่า

• ชาวต่างชาติอื่นในแคนาดา โดยเฉพาะนักธุรกิจจาก Developing Countries ซึ่งรัฐบาลแคนาดามักมีนโยบายช่วยเหลือ เป็นกรณีพิเศษ

• นักลงทุนไทยควรศึกษาและเข้าใจการดำเนินธุรกิจ ตลอดจน Business Environment ของแคนาดาให้ละเอียด

• ประเทศแคนาดามีกฏระเบียบที่เกี่ยวกับอาหาร และสุขภาพของผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก นักลงทุนไทยควรตรวจสอบ อัพเดทกฏระเบียบใหม่ เสมอๆ

ธุรกิจอื่นที่น่าลงทุนในแคนาดาตะวันตก:

• อุตสาหกรรมด้าน เทคโนโลยีระดับสูง ( High Technology Industries) อุตสาหกรรมที่มีอัตราการขยายตัวสูง ได้แก่ อุตสาหกรรม ซ้อฟแวร์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ ร้อยละ 31 ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา นอกจากนั้น Data Processing และ Computer system design ก็เป็นภาคธุรกิจที่มีการเติบโตในอัตราสูง บริติชโคลัมเบีย ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจคอมพิวเตอร์ โดยสนับสนุนการสร้างระบบการประกอบการที่สามารถแข่งขันได้ ในภาคธุรกิจการพัฒนาระบบซ้อฟแวร์ และการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
• ฟิลม์ และ ภาพยนต์ ( Film & Movie ) ภาพยนต์และงานผลิตโทรทัศน์ เป็นภาคธุรกิจที่มีจุดแข็ง และ มีอัตราการเติบโตสูง แม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากค่าเงินเหรียญแคนาดา ที่แข็งเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
• ภาคการสำรวจพลังงาน( Extraction of Energy Industry) ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นด้านงานวิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านเครื่องมืออุปกรณ์และวิธีในการกลั่นน้ำมัน/ขุดเจาะ สำรวจ สกัดแร่ธาตุ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้ต้นทุนต่ำกว่า ทั้งนี้ อุตสาหกรรม ก๊าซ ของบริติชโคลัมเบีย อยู่ระหว่างช่วงการเติบโตในอัตราสูง
• Alberta Innovates-Bio Solution : ธุรกิจด้าน Bio-Solution ในมณฑลอัลเบอร์ต้า จากความเป็นผู้นำด้านเกษตรกรรม การป่าไม้ และงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ (Life sciences) และเทคโนโลยี เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้แอลเบอร์ตา มีการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการนำทรัพยากรชีวภาพจากแหล่งธรรมชาติมาใช้ใหม่ ( renewable bio-resources) ในขณะที่หลายแห่งได้ตระหนักถึงเรื่อง "the bioeconomy" แต่ยังไม่ได้ริเริ่มดำเนินการใดๆ แต่ แอลเบอร์ตา ได้มีการพัฒนาโอกาสใหม่ๆ ที่ท้าทายในเรื่องนี้แล้ว และอยู่ระหว่างการนำประเด็นเรื่อง การแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน สู่ความสนใจขององค์กรต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทผู้ประกอบการในแอลเบอร์ตาหลายราย มีศักยภาพทางด้านเกษตรกรรมและการป่าไม้ในลักษณะการผลิตในเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่สามารถให้ผลผลิตได้แบบยั่งยืนต่อเนื่อง ( sustainable production), ที่มีการพัฒนาขบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, วัสดุที่ผลิตจากวัตถุดิบหลากหลายประกอบกัน อาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และ วัสดุ nanoenabled ซึ่งแอลเบอร์ตา ได้ตั้งเป้าหมายในการเป็น global gateway และแหล่งทรัพยากรเพื่อการวิจัยที่มีพื้นฐานด้านชีวภาพ (bio-based research) ตลอดทั้ง เพื่อการลงทุน และ การแก้ไขปัญหา
• Alberta Innovates-Health Solutions: ธุรกิจด้านการจัดการด้านสุขภาพแอลเบอร์ตา มีการสนับสนุนงานวิจัยด้านการแพทย์ โดย The Alberta Heritage Foundation for Medical Research Endowment Fund ผ่านโครงการ Alberta Innovates-Health Solution ภายใต้ความช่วยเหลือมูลนิธิดังกล่าว ได้สนับสนุนการจัดทำวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านการดูแลสุขภาพ โดยได้ดึงดูดนักวิจัย 10 อันดับแรก ด้านการดูแลรักษาสุขภาพ (healthcare) ผู้ที่ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีแนวคิดใหม่ ๆ ในแอลเบอร์ตา โดยสาขาสุขภาพที่แอลเบอร์ตา มีความชำนาญได้แก่ สาขาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ การพัฒนาสมอง เบาหวาน เทคโนโลยีด้านการแพทย์ทางเลือก โรคติดเชื้อ และกระดูกและข้อต่อ ( Cardiovascular health, brain development and health, diabetes, biomedical technologies, infectious diseases, and bone and joint health) ทั้งนี้แอลเบอร์ตา ได้ทุ่มเท และลงทุน ด้านงานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านรักษาสุขภาพมาเป็นเวลานาน และประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมีการร่วมมือที่ประสานสอดรับกัน ระหว่างการทำงานด้านวิจัย และการนำมาใช้ ในภาคปฏิบัติ ซึ่งความร่วมมือได้เน้นองค์ความรู้ใหม่ และกระตุ้นการค้นคว้า ทำให้ได้เครื่องมือ แนวทางปฏิบัติงาน และ เทคโนโลยี เพื่อการรักษาสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม

การลงทุนด้านธุรกิจพลังงานในมณฑล Saskatchewan :

• มณฑล Saskatchewan เป็นแหล่งวัตถุดิบทรัพยากรที่สำคัญด้านแร่ธาตุ โดยแร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ Potash, Kaolin, Sodium, Sulphite และ Bentonite ตลอดจนเป็นแหล่งพลังงานประเภท Natural Gas และมี Oil Sand ที่ทอดยาวมาจากมณฑล Alberta ทั้งนี้ เขตสำคัญทางเศรษฐกิจที่สำคัญของมณฑล Saskatchewan ได้แก่เมือง Saskatoon และ Regina (เมืองหลวงของ Saskatchewan) แหล่งน้ำมันดิบประเภท Heavy Crude Oil ที่สำคัญของมณฑล ได้แก่ เขต Lloydminister และ Kindersley/ แหล่งน้ำมันดิบประเภท Light Crude Oil ที่สำคัญของมณฑล ได้แก่ เขตตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑล โดยเฉพาะในเขต Weyburn และ Estevan
• ปัจจุบัน มณลฑล Saskatchewan ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดอันดับสองของประเทศ รองจากมณฑล Alberta โดยมีกำลังการผลิตต่อปี ประมาณร้อยละ 17 ของกำลังการผลิตมวลรวมของแคนาดา
• มหาวิทยาลัย University of Regina เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก ที่สามารถพัฒนาระบบผลิต Ultra-Pure Hydrogen ในลักษณะ "Aplliance Size" สำหรับ Fuel Cell Application จาก Hydrocarbons และ Oxygenated Hydrocarbons และยังเป็นศูนย์วิจัยแห่งแรกของโลกที่สามารถผลิตไฮโดรเจนจาก Crude Ethanol อีกด้วย

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์

ที่มา: http://www.depthai.go.th