สถานการณ์รถยนต์ใช้แล้วในกัมพูชา

จากการที่กัมพูชาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประชาชนมีฐานะทางการเงินไม่สู้ดีนัก ทำให้รัฐบาลไม่เข้มงวด เรื่องอายุของรถยนต์ใช้แล้ว และปริมาณที่นำเข้า แต่ใช้อัตราภาษีนำเข้าอัตราเดียวกันทั้งรถยนต์เก่าและใหม่ เพื่อจูงใจให้มีการนำเข้ารถใหม่

สถิติการนำเข้ารถยนต์ของกัมพูชาในแต่ละปี ไม่ปรากฎ แต่อาจทราบจำนวนรถยนต์ที่ใช้ในประเทศได้จากการจดทะเบียนของกรมการขนส่งกระทรวง คมนาคม

(1) ประเภท Light Vehicles ได้แก่ Minibus, Pickups, Tourism cars, State own cars และ รถยนต์ขององค์กรเอกชน สถิติการจดทะเบียนในแต่ละปี

(2) ประเภท Heavy Vehicles ได้แก่รถ Bus, Truck, Trailer, Special Vehicle, State own truck สถิติการจดทะเบียนในแต่ละปี

ยี่ห้อรถที่เป็นที่นิยมและขายดีที่สุดในกัมพูชาคือ ยี่ห้อ Toyota โดย Toyota Camery ถือว่าเป็น The Best Selling และประเภท No. 1 Luxury car brand คือ Lexus (Model Lx 470-570 รองลงมาคือ Rx 300-330-350)

ผลจากการสำรวจประชากรกัมพูชาต่อยี่ห้อรถที่ตัดสินใจซื้อปรากฎว่า

                    ร้อยละ 18       เลือก           Toyota Camery
                    ร้อยละ 16       เลือก           Toyota Lexus Rx
                    ร้อยละ 14       เลือก           Toyota Corolla
                    ร้อยละ 13       เลือก           Honda Accord
                    ร้อยละ 13       เลือก           Honda  CR-V
                    ร้อยละ 9        เลือก           Lexus Lx
                    ร้อยละ 9        เลือก           Misubishi Pajero
                    ร้อยละ 4        เลือก           Toyota Hilux Vigo
3. การตัดสินใจซื้อรถยนต์ใช้แล้ว

(1.) ราคาเหมาะสมกับเงินที่มีอยู่ เนื่องจากไม่มีระบบไฟแนนช์เข้ามาช่วยผู้ซื้อ

(2.) คำนึงถึงราคาอะหลั่ยในการซ่อมว่าสมเหตุผลหาได้ง่ายสะดวก

(3.) มีอู่ซ่อมที่ชำนาญในยี่ห้อนั้น ๆ

(4.) สภาพถนนที่ไม่อยู่ในขั้นดี จึงเหมาะแก่รถเก่า เพราะผู้ขับจะไม่เสียดายรถยนต์ที่ขับ

(5.) สภาพการจราจรบนท้องถนนที่ติดขัดทำให้ไม่สามารถขับรถเร็วได้ รถใหม่ หรือเก่า ก็วิ่งได้ความเร็วเท่ากัน

(6.) สภาพของถนน ตรอกซอยขนาดเล็กรถ Daewoo Tico หรือ City Car จึงเหมาะในการใช้งาน

1. ไม่ทราบประวัติที่ แท้จริง - เพราะรถใช้แล้วที่นำเข้าจะแจ้งสาเหตุว่าเป็นรถที่ได้รับความเสียหายจากสาเหตุดังต่อไปนี้

(1.1) Ultra-High Mileage

(1.2) High- Impact Collision

(1.3) Flood and Damage

รถบางคันซึ่ง Undamaged ไม่เข้าลักษณะดังกล่าวมานี้ อาจต้องถูกขับชนเพื่อให้มีประวัติหรือร่องรอยของอุบัติเหตุ

2. รถยนต์ใช้แล้วเมื่อนำเข้าจะได้รับการซ่อม ได้แก่ การซ่อมเครื่องยนต์ (อาจผสมปนเปอะหลั่ยจากหลายยี่ห้อในรถยนต์คันเดียว) ขัดสี ทำสีใหม่ และที่สำคัญ คือการถอยเลขไมล์ให้เหลือประมาณ 60,000 ไมล์ (เดิมอาจเป็น 2 แสนกว่าไมล์ หรือมากกกว่า)

3. การตัดสินใจซื้อรถยนต์ใช้แล้วจะดูจากยี่ห้อ ซึ่งเป็นที่นิยม (เลือก Image) มากกว่าการพิจารณา เรื่องคุณภาพ หรือความปลอดภัย

4. ค่าจ้างแรงงานเพื่อซ่อมแซมรถยนต์ใช้แล้วในประเทศนี้มีอัตราต่ำคือประมาณคนละ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแรงงานเหล่านี้มีประสบการณ์สูงในการซ่อมรถใช้แล้ว จึงทำให้ต้นทุนรวมในการซ่อมรถยนต์ไม่สูงมากนัก

5. ผู้นำเข้านิยมนำรถที่ยังไม่ได้ซ่อมเพื่อนำมาซ่อมในประเทศมากกว่าที่จะซ่อมเรียบร้อยแล้วนำเข้า เพราะจะทำให้เสียภาษีนำเข้าคนละอัตรา (ประเมินมูลค่ารถยต์ใช้แล้วตามสภาพ)

6. ไม่มีหน่วยงานตรวจสอบมาตรฐาน รถยนต์ใช้แล้วทำให้ผู้บริโภคประสบปัญหาจากประวัติที่ไม่จริงของรถยนต์ที่ตัดสินใจซื้อ ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซ่อมและจัดหาอะหลั่ยที่แท้จริงมาทดแทน เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดการทะเลาะ และฟ้องร้องกันในที่สุด

7. ไม่กำหนดอายุของรถยนต์นำเข้าว่าให้นำเข้าได้ตั้งแต่ปีไหนเป็นต้นไปทำให้กัมพูชากลายเป็นป่าช้ารถยนต์เก่า ซึ่งหลายประเทศส่งเข้ามาขายแทนการนำไปทำลายเป็นเศษเหล็ก ทำให้เป็นปัญหา เช่น การเกิดอุบัติเหตุจากสภาพเครื่องยนต์ที่ไม่พร้อม เกิดควันพิษจากเครื่องยนต์เก่า เป็นต้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศฯ ณ กรุงพนมเปญ

ที่มา: http://www.depthai.go.th

---