1. จำนวนการผลิตรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นแบ่งแยกตามผู้ผลิต ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553
Passenger Cars Trucks Buses Standard Small Mini Total Standard Small Mini Total Large Small Total Grand Total TOYOTA 391,795 140,988 - 532,783 16,480 16,473 - 32,953 - 13,085 13,085 578,821 NISSAN 86,479 75,859 - 162,338 12,747 8,021 - 20,768 - 941 941 184,047 MAZDA 110,148 25,351 - 135,499 71 3,432 - 3,503 - - - 139,002 MITSUBISHI 61,578 13,868 13,123 88,569 612 906 11,265 12,783 - - - 101,352 ISUZU - - - - 24,691 4,792 - 29,483 444 12 456 29,939 DAIHATSU - 12,653 82,133 94,786 596 - 18,221 18,817 - - - 113,603 HONDA 27,988 103,268 18,139 149,395 - 255 11,044 11,299 - - - 160,694 SUBARU 63,365 - 7,113 70,478 - - 8,977 8,977 - - - 79,455 UD TRUCKS - - - - 2,812 1,295 - 4,107 258 - 258 4,365 HINO - - - - 13,202 447 - 13,649 856 111 967 14,616 SUZUKI 31,064 22,129 102,042 155,235 - 1,800 21,515 23,315 - - - 178,550 GM JAPAN - - - - - - - - - - - - MITSUBISHI FUSO - - - - 8,669 1,244 - 9,913 311 732 1,043 10,956 Others - - - - 169 - - 169 - - - 169 TOTAL 772,417 394,116 222,550 1,389,083 80,049 38,665 71,022 189,736 1,869 14,881 16,750 1,595,569 ที่มา: ข้อมูลจาก Japan Automobile Manufacturer Association 2009 ตารางแสดงการผลิตรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น และอัตราการเปลี่ยนแปลง แบ่งแยกตามบริษัทผู้ผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 บริษัทผู้ผลิต กุมภาพันธ์ 2553 คัน เปลี่ยนแปลงจากปี 2552 Toyota 309,933 219.6 Nissan 97,109 221.3 Mitsubishi 54,638 271.3 Mitsubishi Fuso 6,000 156.8 Mazda 69,711 171.3 Isuzu 15,894 171.7 Honda 83,310 152.2 Hino 8,032 204.7 Suzuki 93,420 128.0 Daihatsu 59,951 95.6 Subaru 41,620 154.2 UD Trucks 2,092 195.1 Others 86 187.0 Total 841,796 174.9
การผลิตรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 841,796 คัน เพิ่มขึ้นถึง 360,400 คัน หรือร้อยละ 74.9 เมื่อเทียบกับการผลิตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ปี 2552) และสามารถแยกตามชนิดการผลิตได้ดังนี้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ที่มี ขนาดเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี หรือมากกว่า 408,512 คัน เพิ่มขึ้น 248,764 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 155.7 - รถยนต์ขนาดเล็ก (ขนาดเครื่องยนต์ 660 ซีซี ถึง 1,999 ซีซี) 205,862 คัน เพิ่มขึ้น 71,854 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.6 - รถยนต์ประหยัดน้ำมัน (ขนาดเครื่องยนต์ ต่ำกว่า 660 ซีซี 118,103 คัน เพิ่มขึ้น 8,715 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0
- รถบรรทุก (Standard truck vehicles) 41,858 คัน เพิ่มขึ้น 17,854 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 74.4 - รถบรรทุกขนาดเล็ก (Small trucks) 20,857 คัน เพิ่มขึ้น 4,285 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 - รถบรรทุกประหยัดน้ำมัน Mini trucks (Under 660 cc) 37,299 คัน เพิ่มขึ้น 6,182 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.9
- รถโดยสารขนาดใหญ่ 1,028 คัน เพิ่มขึ้น 284 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.2 - รถโดยสารขนาดเล็ก 8,277 คัน เพิ่มขึ้น 2,462 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.3
ยอดการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 458228 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคล Passenger cars 395,603 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.9
- รถบรรทุก Trucks 61,121 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 - รถโดยสาร Buses 1,504 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2
โดยยอดการส่งออกรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 179.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีที่ผ่านมา (ปี 2552)
4.1 จำนวนแรงงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นมีจำนวน ราว 5.15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 8 ของจำนวน แรงงานทั้งหมดของประเทศ (64.12 ล้านคน)
4.2 สามารถแยกแรงงานที่เกี่ยวข้องได้ดังนี้
- ภาคการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ (รวมจักรยานยนต์) 895,000 คน
- ภาคการบริการที่เกี่ยวข้อง (รถยนต์รับจ้าง การเช่ารถ เช่าที่จอดรถ การขนส่ง) 2,728,000 คน
- อื่นๆ (ปั๊มน้ำมัน ธุรกิจไฟแนนซ์ รีไซเคิ้ลรถยนต์) 317,000 คน
- วัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรม อาทิ เหล็ก พลาสติก สารเคมี ผ้า หนัง ยาง กระจก ฯลฯ 199,000 คน
- ภายการขาย/ซ่อมบำรุง อาทิ อู่ซ่อมรถ ขายอะไหล่เก่า ขายรถใหม่-มือสอง 1,011,000 คน
บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทเรโนลต์จากฝรั่งเศษถือหุ้นจำนวนร้อยละ 44 ได้ ประกาศความเป็นพันธมิตรทางการค้ากับ บริษัทเดมเลอร์(ผู้ผลิตรถยนต์เมอร์ซิเดส จากประเทศเยอรมัน) โดยบริษัทั้ง 3 จะแลกเปลี่ยน ถือหุ้นไขว้กัน โดยเดมเลอร์จะถือหุ้นจำนวนร้อยละ 3.1 ของเรโนลต์ และของนิสสัน ส่วนเรโนลต์-นิสสันก็จะถือหุ้นเดมเลอร์จำนวน บริษัทละร้อยละ 1.55 เช่นกัน ทั้งนี้พันธมิตรทั้ง 3 บริษัทตกลงที่จะพัฒนาเทคโนโลยีด้านเครื่องยนต์สำหรับรถขนาดเล็กและเครื่องยนต์ ที่จะปล่อยปริมาณคาร์บอนลดน้อยลง (Eco-Car) เพื่อตลาดในอนาคตที่ใส่ใจต่อสภาพสิ่งแวดล้อม
สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ นครโอซากา
ที่มา: http://www.depthai.go.th