รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้าภูมิภาคละตินอเมริกา ระหว่างวันที่ 16 — 28 ก.พ.2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 28, 2010 15:35 —กรมส่งเสริมการส่งออก

๑. การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ของบราซิล ขยายตัวร้อยละ ๒๗

กระทรวงพาณิชย์บราซิล รายงานตัวเลขเบื้องต้น การส่งสินค้าออกของบราซิล เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ว่า มีมูลค่าการส่งออก ๑๒.๒ พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นจาก ๙.๖ พันล้านเหรียญสหรัฐของเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ ๒๗.๑ ขณะที่มีการนำเข้ามูลค่า ๑๑.๘ พันล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับการนำเข้าของเดือนเดียวกันปีก่อนที่มีเพียง ๗.๘ พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๑.๓

การเกินดุลการค้า ๓๙๔ ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อหักกลบกับที่ขาดดุลการค้าในเดือนมกราคม จำนวน ๑๖๖ ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ส่งผลให้ ๒ เดือนแรกปีนี้ บราซิลเกินดุลการค้า จำนวน ๒๒๘ ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบ ๒ เดือนแรกปีก่อนที่เกินดุล ๑๓,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ ๘๒.๕

ทั้งนี้ สามารถจำแนก มูลค่าการส่งสินค้าออกในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ๕.๓ พันล้านเหรียญ สินค้าขั้นปฐม ๔.๘ พันล้านเหรียญ สินค้ากึ่งอุตสาหกรรม ๑.๘ พันล้านเหรียญ และสินค้าอื่นๆ ๐.๓ พันล้านเหรียญ เทียบกับเดือนมกราคมปีนี้แล้ว ส่งออกแต่ละหมวดแต่ละหมวดเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๗, ๒๙.๗, ๑๖.๒ และ ๑๕.๐ ตามลำดับ

๒. ธนาคารบราซิล กลับไปใช้อัตราเงินสำรองทางการในระดับก่อนวิกฤต

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ธนาคารกลางบราซิล ประกาศกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ เพิ่มอัตราการดำรงเงินสำรองทางการ จากร้อยละ ๑๓.๕ เป็นที่อัตราร้อยละ ๑๕ ของยอดเงินฝาก นับแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการกลับไปใช้อัตราเงินสดสำรองทางการที่ใช้อยู่เดิม

ทั้งนี้ การเพิ่มอัตราเงินสำรองทางการในครั้งนี้ จะทำให้สภาพคล่องทางการเงิน ที่เคยเพิ่มเข้ามาในระบบ จะถูกดึงกลับเข้าไปเก็บไว้ ณ ธนาคารกลาง อีกครั้ง เป็นเงินประมาณ ๗๑,๐๐๐ ล้านเฮอัล หรือประมาณ ๑.๓๕ ล้านล้านบาท และเป็นการยุติมาตรการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินรายการหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้แก้ไขวิกฤตทางการเงินที่ผ่านมา

ข่าวแจ้งว่า ในเวลาใกล้เคียงกัน คณะกรรมการธนาคารกลางบราซิล ได้พิจารณาอนุมัติงบการเงิน ปี ๒๕๕๒ ของธนาคารกลางบราซิล ซึ่งระบุว่าในปีที่ผ่านมา ธนาคารมีผลกำไร ๕.๖๑ พันล้านเฮอัล ลดลงจาก ๑๓.๓๔ พันล้านเฮอัลของปี ๒๕๕๑ ถึงร้อยละ ๕๗.๙ อันเป็นผลจากรายรับดอกเบี้ยที่ลดลง และการเข้าซื้อขายเงินตราต่างประเทศแทรกแซงตลาดกว่า ๒๗,๖๐๐ล้านเหรียญสหรัฐ ในปีที่ผ่านมา

อนึ่ง ครึ่งแรกปี ๒๕๕๒ ธนาคารกลางบราซิล มีผลประกอบการขาดทุน ๙๔๒ ล้านเฮอัล แต่กลับทำกำไรได้ ๖,๕๕๑ ล้านเฮอัลในครึ่งหลังของปี ส่งผลให้ในท้ายที่สุดเกิดผลกำไรที่กล่าวข้างต้น

๓. ยอดขายรถยนต์ในบราซิล เดือนกุมภาพันธ์สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ข่าวจากสมาคมผู้ประกอบรถยนต์ในบราซิล หรือ Anfavea แจ้งว่า เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งในบราซิลจะมีไม่น้อยกว่า ๒๒๑,๐๐๐ คัน เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนถึงร้อยละ ๑๐.๘ ถือเป็นยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ด้วยกัน และส่งผลให้ ๒ เดือนแรกปีนี้ มียอดจำหน่ายรถยนต์รวม ๔๓๔,๓๐๐ คันเพิ่มขึ้นร้อยละ ๙.๕ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยรถยนต์ Fiat มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ร้อยละ ๒๑.๖ รองลงมาได้แก่ Volkswaken และ GMที่มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ ๒๐.๕ และ ๑๙.๙ ตามลำดับ

ทั้งนี้ Anfavea คาดว่า เดือนมีนาคมปีนี้ จะมียอดขายรถยนต์เพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากมีจำนวนวันที่มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ และสิ้นสุดการเฉลิมฉลองเทศกาลคานาวาลแล้ว ยังเป็นเดือนสุดท้ายที่ทางการบราซิล ยังคงมาตรการแก้ไขวิกฤตการเงินล่าสุด ด้วยการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ลงอัตราร้อยละ ๕๐ จะทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อรถยนต์ในเดือนนี้มากขึ้น

อนึ่ง ทางการบราซิล ให้ความสำคัญกับการแก้ไขวิกฤตทางการเงินที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์เป็นอย่างมาก และส่งผลให้ยอดขายรถยนต์เพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับในทุกปี โดยในปี ๒๕๕๓ Anfavea คาดว่า แม้การลดภาษีสรรพสามิรถยนต์จะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์ในบราซิลจะยังคงอยู่ในระดับที่ดี และมี ยอดรวม สำหรับปี ๒๕๕๓ ประมาณ ๓.๔ ล้านคัน เพิ่มสูงขึ้นจาก ๓.๑๔ ล้านคันของปี ๒๕๕๒ ร้อยละ ๑๑.๔

๔. อัลกอฮอร์ในบราซิล เริ่มปรับราคาลง

๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ Center for AdvanceStudies in Applies Economic ; Cepea/Esalq รายงานว่า ราคาอัลกอฮอร์ชนิดใช้กับรถยนต์หน้าโรงกลั่นในบราซิล เริ่มลดต่ำลง ภายหลังจากที่มีราคาค่อนข้างแพง เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซินมาตลอดนับแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา

Cepea/Esalq รายงานว่า ราคาอัลกอฮอร์ชนิดใช้กับรถยนต์หรือ อัลกอฮอร์ hydrate สัปดาห์สุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ มีราคาเฉลี่ย ๐.๙๙๖๓เฮอัลต่อลิตร เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีราคา ๑.๐๙๐๗ เฮอัลต่อลิตร หรือลดลงร้อยละ ๘.๖๕ ขณะที่อัลกอฮอร์ anhydrous ( หรืออัลกอฮอร์บริสุทธิ์ที่นำไปผสมกับน้ำมันเบนซินเป็น น้ำมันเอทานอล ) มีราคาลดลงจาก ๑.๒๘๐๔ เหลือ ๑.๒๐๒๒ เฮอัลต่อลิตร หรือลดลงร้อยละ ๖.๑๑

ทั้งนี้ นักวิจัยของ Cepea/Esalq ให้สาเหตุที่ราคาอัลกอฮอร์ได้ปรับตัวลดลงเกิดจากการที่ราคาอัลกอฮอร์ hydrate ที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนหน้าทำให้ขาดแรงจูงใจต่อผู้ใช้รถยนต์ในการเติมเชื้อเพลิงชนิดนี้ และสืบเนื่องให้ผู้ค้าน้ำมัน (ปั้ม) ขาดความสนใจที่จะซื้อไปจำหน่าย ขณะที่ฤดูเก็บเกี่ยวอ้อย ปีการผลิต ๒๐๑๐/๒๐๑๑ จะเริ่มต้นในเดือนมีนาคม โรงงานน้ำตาลและอัลกอฮอร์หลายแห่งในรัฐพารานา และเซาเปาโล ต้องทำสัญญาขายล่วงหน้า เพื่อมีเงินหมุนเวียนในการจ้างคนงาน และเตรียมการรับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะมาถึง

อนึ่ง ในฤดูการหีบอ้อยที่ผ่านมา โรงงานน้ำตาลขาดเงินหมุนเวียนทำให้การเก็บเกี่ยวล่าช้ากว่ากำหนด และส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลและอัลกอฮอร์ ลดน้อยไปจำนวนหนึ่ง ราคาอัลกอฮอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ในอัตราที่สูงกว่าราคาน้ำมัน ทำให้การใช้น้ำมันเอทานอลเพิ่มสูงขึ้น และ Cepea/Esalq รายงานว่า ราคาอัลกอฮอร์ hydrate เฉลี่ยเดือนกุมภาพันธ์ ที่ ๑.๐๙๕๘เฮอัลต่อลิตร ลดลงจาก ๑.๑๗๑๒ เฮอัลต่อลิตรของเดือนมกราคม อยู่ร้อยละ ๖.๔๔ ขณะที่ อัลกอฮอร์ anhydrous กลับมีราคาเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นจาก ๑.๒๘๕๔ เฮอัลต่อลิตร เป็น ๑.๒๙๗๖ เฮอัลต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๐.๙๕ (อัตราแลกเปลี่ยน ๑ เฮอัล ต่อ ๑๙ บาท )

กิจกรรมที่ดำเนินการระหว่างวันที่ ๑๖ — ๒๘ ก.พ.

1. ดำเนินการจัดทำหน้าเว็ปไซด์ของ สอ./สคร.เซาเปาโล ภาษาโปรตุเกส เพื่อเผยแพร่ และเปิดให้บริการ WWW.thaitradesaopaulo.com.br

2. ประสาน/ ทาบทามร้านอาหารไทยการ์เดนท์ และนาย Richard Pfanderผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม Grand Hyatt เมืองเซาเปาโล จัดเทศกาลอาหารไทย ในช่วงสัปดาห์วันแรงงาน ๑ พฤษภาคมที่จะถึง

3. เชิญชวนผู้ประกอบการบราซิล เข้าร่วมเป็นคณะผู้แทนการค้าเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และงานแสดงสินค้าของขวัญและเครื่องเรือนนานาชาติในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๕๓

การค้าระหว่างประเทศไทย กับ

                        ส่งออก (ล้าน $US) นำเข้า
บราซิล    ๒๕๔๙       628.0               866.6
         ๒๕๕๐       938.3             1,035.1
         ๒๕๕๑     1,229.0             2,100.0
         ๒๕๕๒     1,000.4             1,325.4
มค-มค ๕๑             83.7               234.3
มค-มค ๕๒             49.9                30.6
มค-มค ๕๓             93.0                72.7

เฟรนซ์-   ๒๕๔๙         1.6                   -
กิยานา    ๒๕๕๐         1.6                   -
         ๒๕๕๑         1.5                  0.1
         ๒๕๕๒         1.6                   -
มค-มค ๕๑              0.1                   -
มค-มค ๕๒              0.0                   -
กิยานา    ๒๕๔๙         3.8                  0.8
         ๒๕๕๐         3.4                  0.8
         ๒๕๕๑         4.4                  8.4
         ๒๕๕๒         6.7                  1.3
มค-มค ๕๑              0.4                   -
มค-มค ๕๒              0.3                  0.0
มค-มค ๕๓              0.6                  0.3

สุรินาม    ๒๕๔๙        11.7                  0.5
         ๒๕๕๐        14.5                  0.1
         ๒๕๕๑        21.6                    -
         ๒๕๕๒        15.6                  0.5
มค-มค ๕๑              1.6                    -
มค-มค ๕๒              1.1                  0.0
มค-มค ๕๓              0.7                  0.1

เวเนซู-    ๒๕๔๙       82.1                  1.9
เอลา      ๒๕๕๐      117.3                 10.5
          ๒๕๕๑      169.9                  7.5
          ๒๕๕๒       62.2                  4.7
มค-มค ๕๑             23.2                  0.1
มค-มค ๕๒              5.0                  0.4
มค-มค ๕๓              6.2                  0.1
ดุลการค้า (พันล้าน $US)
              ส่งออก    นำเข้า
๒๕๔๗          96.7      62.8
๒๕๔๘         118.5      73.6
๒๕๔๙         137.8      91.4
๒๕๕๐         160.6     120.6
๒๕๕๑         197.9     173.0
๒๕๕๒         153.0     127.6

มค.๕๒         9.8       10.3
กพ.           9.6        7.8
มีค.          11.8       10.0
เม.ย.        12.3        8.6
พค.          12.0        9.3
มิย.          14.5        9.8
กค.          14.1       11.2
สค.          13.8       10.8
กย.          13.9       12.5
ตค.          14.1       12.8
พย.          12.6       12.0
ธค.          13.7       12.3
มค.๕๓        11.3       11.5

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ