ตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า (Electrical Appliances) ในสหรัฐอเมริกา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 10, 2010 17:29 —กรมส่งเสริมการส่งออก

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดจำหน่ายปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ในปี 2550 มีมูลค่าประมาณ 23.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 3.0

ตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (Household Appliances) ในสหรัฐฯแยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ Major Appliances ซึ่งได้แก่ เครื่องไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เตาหุงต้มอาหาร เครื่องล้างจาน และ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น และ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดย่อม (Small Appliances) ซึ่งได้แก่ ตู้อบไมโครเวฟ หม้อต้มกาแฟ หม้อหุงข้าว เครื่องอบขนมปังเครื่องปั่นอาหาร พัดลม เครื่องเป่าผม เครื่องม้วนผม เครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น สินค้า Major Appliances มีสัดส่วนตลาดประมาณร้อยละ 65 และ อีกร้อยละ 35 เป็นสินค้า Small Appliances

การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่ม (Major Appliances) เครื่องไฟฟ้าขนาดใหญ ซึ่งยังมีการผลิตในประเทศสหรัฐฯ ในอัตราสูงประมาณร้อยละ 60 ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ประกอบด้วยบริษัทอเมริกัน เช่น บริษัท Whirlpool และบริษัท GE และผู้ผลิตจากต่างประเทศที่มีโรงงานในสหรัฐฯ เช่น บริษัท Haier จากประเทศจีน

สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกประมาณร้อยละ 40 เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยการนำเข้าสินค้าแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ (1) เป็นการนำเข้าสินค้าของผู้ผลิตสหรัฐฯ เช่น บริษัท Whirlpool และบริษัท GE จากโรงงานของตนเองในประเทศเม็กซิโก หรือ ผู้ผลิตต่างประเทศที่มาลงทุนในสหรัฐฯ เช่น บริษัท LG บริษัท Samsung และ บริษัท Electrolux นำเข้าจากโรงงาน ของตนเองในประเทศเม็กซิโก และ (2) ผู้ผลิต/ผู้นำเข้านำเข้าโดยตรงจากผู้ส่งออกในต่างประเทศ เช่น จีน ไต้หวัน เกาหลี เยอรมนี และ อิตาลี่ เป็นต้น

เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มขนาดย่อม (Small Appliances) ของสหรัฐฯ เป็นตลาดของสินค้านำเข้าเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 โดยแหล่งนำเข้าของสหรัฐฯ คือ จีน เม็กซิโก เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน

2. ช่องทางการจัดจำหน่าย/กระจายสินค้า

ผู้มีบทบาทในการจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ แยกเป็นมี 4 กลุ่ม คือ

1. Program Buying Group : เป็นกลุ่มจัดซื้อสินค้าให้แก่ร้านค้าปลีกต่างๆ ที่เป็น สมาชิก ได้แก่ ร้านค้าปลีกระดับชาติ ร้านค้าปลีกระดับภูมิภาค และร้านค้าปลีกอิสระ สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากระจายผ่านช่องทางนี้ประมาณร้อยละ 45

2. ผู้จัดจำหน่าย (Distributor ) จัดส่งสินค้าให้แก่ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าห้างสรรพสินค้า ร้าน Home Center สินค้าเครื่องใช้ ไฟฟ้ากระจายผ่านช่องทางนี้ประมาณร้อยละ 30

3. ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าขายสินค้าโดยตรงให้แก่ร้านค้าปลีกระดับชาติ เช่น บริษัท Sony หรือ บริษัท Samsung ขายสินค้าให้ห้าง Best Buy โดยตรง การจัดจำหน่ายสินค้าของช่องทางนี้คิดสัดส่วนประมาณร้อยละ 15

4. ผู้นำเข้าจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ร้านค้าปลีก และ พ่อค้าขายส่งการจัดจำหน่ายสินค้าของช่องทางนี้คิดสัดส่วนประมาณร้อยละ 10

วารสาร Appliance Magazine รายงานว่า ส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าในเดือนตุลาคม 2552 มีจำนวน 13,073,830 Units หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2551 ร้อยละ 26.37 ซึ่งเป็นผลกระทบให้ยอดการส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าในช่วง 10 เดือนแรก (มกราคม-ตุลาคม) ของปี 2552 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2551 ร้อยละ 1.43 หรือเป็นจำนวนการส่งมอบสินค้ารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 114,487,877 Units

การส่งมอบ (Shipment) สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของสหรัฐฯ ในช่วงเดือนมกราคม — ตุลาคม 2552

                                            ตุลาคม                            มกราคม — ตุลาคม
   เครื่องใช้ไฟฟ้า                      2552        2551     เพิ่ม/ลด      2552          2551         เพิ่ม/ลด
Electric cooking                 367,400     392,300     -6.3%     3,565,600     4,317,000      -17.4%
Gas cooking                      233,300     216,700      7.7%     2,113,600     2,382,000      -11.3%
Microwave ovens/ranges           857,900     938,700     -8.6%     8,128,100     9,505,800      -14.5%
Freezers                         156,300     194,800    -19.8%     1,721,900     1,773,200       -2.9%
Refrigerators                    653,900     683,500     -4.3%     7,130,800     8,169,700      -12.7%
Automatic washers                602,100     588,100      2.4%     6,459,100     7,054,800       -8.4%
Dryers                           503,500     506,800     -0.7%     5,260,300     5,915,800      -11.1%
Dishwashers                      443,200     431,400      2.7%     4,492,000     5,108,000      -12.1%
Disposers                        405,000     398,100      1.7%     4,344,700     4,741,800       -8.4%
Household trash compactor          3,700       5,200    -28.8%        39,400        63,800      -38.2%
Room air-conditioners            -52,800     -31,100     69.8%     5,458,200     8,892,600      -38.6%
Unitary air-conditioners         193,890     202,617    -4.3%      3,100,105     3,689,892      -16.0%
Heat pumps                        98,388     123,170    -20.1%     1,431,299     1,673,307      -14.5%
Dehumidifiers                     57,800      75,700    -23.6%     1,602,300     1,516,400        5.7%
Gas warm-air furnaces            236,599     217,914      8.6%     1,708,969     1,900,000      -10.1%
Oil warm-air furnaces              7,163       6,620      8.2%        40,867        44,650       -8.5%
Electric water heaters           311,198     332,468     -6.4%     3,125,233     3,582,486      -12.8%
Gas water heaters                310,857     287,976      7.9%     3,089,501     3,386,268       -8.8%
Commercial gas water heaters       6,017       6,071     -0.9%        63,517        77,173      -17.7%
Commercial electric water heaters  4,543       5,374    -15.5%        47,708        59,550      -19.9%
Camcorders                       831,851     450,688       NA*     4,907,553     3,468,352       41.5%
DVD players (1)                3,377,845    2,079,602      NA*    22,233,018    16,435,244       35.3%
Digital televisions (2)        3,464,179    2,232,434      NA*    26,057,839    20,730,055       25.7%
รวมการส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้า        13,073,830   10,345,134   26.37    116,121,609   114,487,877        1.43
ที่มา: วารสาร Appliance Magazine, March 2010


3. พฤติกรรมผู้บริโภค
          ตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เป็นเรื่องของแบรนด์ ผู้บริโภคสหรัฐฯ นิยมซื้อสินค้า เครื่องใช้ไฟ้ฟ้าที่มีแบรนด์และเป็นที่นิยมยอมรับในตลาด มากกว่าซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์ใหม่ดังนั้นสินค้าแบรนด์ใหม่ที่จะบุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะต้องเน้นการโฆษณา และการทำการตลาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค
          ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพพอสมควร รูปแบบดีไซน์สวยไม่จำเป็นต้องมีอายุการใช้ยาวนาน เนื่องจากเทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนสินค้าที่ใช้บ่อยครั้งขึ้น และไม่ต้องการซ่อมแซม เนื่องจากค่าซ่อมแพงมาก
          ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อกระแสโลกร้อน ส่งผลให้ฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจด้านความยั่งยืน (Sustainability) เกิดความต้องการด้านสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย สินค้ามีตรา Energy Star รับรองของ US Environment Protection Agency (EPA) อีกทั้งการช่วยลดมลภาวะ
          ในยุคเศรษฐกิจซบเซาของสหรัฐฯ ผู้บริโภคมีรายได้ลดลง อีกทั้งถูกจำกัดในเรื่องวงเงินเครดิตการกู้ ซึ่งทำให้อำนาจการซื้อลดลง จึงส่งผลต่อการซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่ม Major Appliances ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง

4. การนำเข้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของสหรัฐฯ
          สหรัฐฯ นำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 เป็นมูลค่า 9,845.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2552 ร้อยละ 9.30 โดยมีแหล่งนำเข้าที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่
          1. จีน ร้อยละ 54.21
          2. เม็กซิโก ร้อยละ 23.78
          3. เกาหลี ร้อยละ 6.61
          4. แคนนาดา ร้อยละ 4.01
          5. มาเลเซีย ร้อยละ 2.06

          การเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย : สหรัฐฯ นำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 เป็นมูลค่า 429.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2552 ร้อยละ 24.12


  การเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกาจากประเทศไทย ระหว่างมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553
                            หน่วย: เหรียญสหรัฐฯ
 รหัส           ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า             มกราคม-กุมพันธ์         เพิ่ม/ลด
ศุลกากร                                     2553       2552        (ร้อยละ
851762  TELEPHONE MACHINE                 203.75    161.43         26.22
8528    TV & MONITOR                       84.86     65.83         28.91
8527    RADIO & BROADCASTING               53.95     48.43         11.35
852580  TV CAMERA                          53.44     29.95         78.43
851650  MICROWAVE OVENS                     8.55      6.20         37.90
851769  VOICE DATA TRANSMISSION             7.34     10.37        -29.22
841459  ELECTRICAL FAN                      6.99      2.88        142.71
851660  ELECTRICAL COOK ST0VE/MICRO COMB    3.05      2.37         28.69
841510  AIR-COND,WIND/WALL                  2.79      6.69        -58.30
841582  DEHUMIDIFIERS                       2.60     10.67        -75.63
841821  HOUSEHOLD REFRIGERATION             1.30      0.00        100.00
845121  DRYING MACHINE                      0.80      1.16        -31.03
        รวมการนำเข้าเครืองใช้ไฟฟ้า            429.42    345.98         24.12
ที่มา: World Trade Atlas


5. การค้าในประเทศ ราคาขายปลีก
                   ตัวอย่างราคาขายปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ารายการสำคัญในสหรัฐฯ
   สินค้า            ราคาขายปลีก(เหรียญฯ)       สินค้า            ราคาขายปลีก(เหรียญฯ)
   1. ตู้เย็น             399 — 2,500      6. เตาหุงต้มอาหาร       299 — 1,500
   2. เครื่องซักผ้า        249 - 899        7. หม้อต้มกาแฟ           19 — 299
   3. เครื่องอบผ้า        249 - 799        8. เครื่องดูดผุ่น           39 - 399
   4. เครื่องล้างจาน      249 - 900        9. หม้อหุงข้าว            29 — 99
   5. เตาอบไมโครเวฟ     49 - 500       10. เครื่องเป่าผม        9.99 — 49.00
6. สถานการณ์การแข่งขันในตลาด

ปัจจุบัน มีผู้ผลิตสหรัฐฯสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่เพียง 2 ราย คือ Whirlpool ครองตลาดร้อยละ 45 และ General Electric (GE) ครองตลาดร้อยละ 24 และอีกร้อยละ 31 เป็นของผู้ผลิตจากต่างประเทศ เช่น Electrolux, Sumsung, Haier, LG Electronics และ Bosch

การแข่งขันในตลาดแยกได้ชัดเจน กล่าวคือ สินค้าจากยุโรป เช่น สวีเดน (Electrolux) เยอรมัน (Bosch) และ อิตาลี่ (Smeg) จะมุ่งตลาดบนในสหรัฐฯ ผู้ผลิตสหรัฐฯ บริษัท Whirlpool มีแบรนด์สินค้าในสังกัดจำนวนมาก จึงใช้กลยุทธ์ความหลากหลายของ Brand สนองความต้องการของตลาดหลายระดับต่างๆ เช่น แบรนด์ Maytag, Amana, Jen-Air ใช้กับสินค้าเพื่อกลุ่มลูกค้าในตลาดบนในขณะที่แบรนด์ Magic Chef, Kitchen Aid ใช้กับสินค้าเพื่อกลุ่มลูกค้าระดับกลาง และ Roper สำหรับกลุ่มลูกค้าในตลาดล่าง เป็นต้น

บริษัท GE ใช้กลยุทธ์การตลาดโดยการเน้นชื่อแบรนด์ GE เพียงอย่างเดียว และใช้รุ่น(Model)สินค้าเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม เช่น GE Monogram เป็นสินค้าสำหรับตลาดบน สำหรับตลาดทั่วไป ในขณะที่บริษัท Samsung และ LG ได้ยกระดับสินค้าการแข่งขัน จากตลาดล่างไปสู่ตลาดระดับกลาง ส่วนตลาดล่างเป็นการแข่งขันระหว่างสินค้าของ Whirlpool และ Haier จากประเทศจีน

7. มาตรการด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี

ภาษี: แหล่งนำเข้าสินค้าเครื่องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจากบางประเทศได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าในสหรัฐฯ )GSP) เช่น เวียดนาม อินเดีย และ ไทย )ได้รับบางรายการ (และหากต้องเสียภาษีสหรัฐฯเรียกเก็บในอัตรา MFN ซึ่งอยู่ในช่วงร้อยละ 1 — 15 ผันแปรตามประเภทสินค้า ปัจจุบันแหล่ง

นำเข้าคู่แข่งของไทย เช่น เกาหลี มาเลเซีย ไต้หวัน และ จีนต้องเสียภาษีนำเข้าของเม็กซิโกจะได้เปรียบตามข้อตกลง NAFTA

มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี: (สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า) หากเปรียบเทียบในเรื่องมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีระหว่างตลาดยุโรป ญี่ปุ่น และ สหรัฐฯ แล้ว จะพบว่า ตลาดสหรัฐฯ มีข้อกีดกัดที่เบาบางกว่าตลาดยุโรป และ ญี่ปุ่น ซึ่งมีการกำหนดห้ามใช้โลหะอันตราย หรือมีขอ้ กำหนดด้าน Recycle สินค้าในขณะข้อกีดกันไม่ใช่ภาษีที่เด่นชัด คือ สหรัฐฯ กำหนดให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกหมวดต้องผ่านการตรวจสอบในเรื่อง Electronic Magnetic Compatibility (EMC) เพื่อป้องกันไม่ให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าดังกล่าว ไปรบกวนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สินค้าที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ ต้องได้รับมาตรฐานในด้านความปลอดภัยจากองค์กรเอกชนซึ่ง US FDA รับรอง คือ เครื่องหมาย UL (Universal Laboratories) ของสหรัฐฯ และ ETL (Intertek)ซึ่งเป็นมาตรฐานยุโรป และเป็นที่ยอมรับในสหรัฐฯ

นอกจากนั้นแล้ว สมาคม American Home Appliances Association (AHAM) ได้แนะนำให้ผู้ผลิตสหรัฐฯ ควรปฏิบัติมาตรฐานย่อยของกลุ่มสินค้า ซึ่งกำกับดูแลโดยภาคเอกชน เพิ่มเติมไปจากกฎระเบียบของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้แก่

  • American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers (ASHRAE) www.ashrae.org
  • ASTM International www.astm.org
  • CSA Standards www.csa-america.org
  • International Standards Organization (ISO) www.iso.org
  • National Electric Code (NEC) www.nfpa.org
  • Underwriters Laboratories (UL) Standards www.ul.com
8. SWOT สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยในตลาดสหรัฐ

จุดแข็ง (Strenght)

1. แรงงานมีฝีมือและความชำนาญ

2. มีการควบคุมคุณภาพที่ดีและเป็นที่ยอมรับ

3. มีอุตสาหกรรมสนับสนุน (Support Industry)ที่มีศักยภาพในการผลิตทดแทนการนำเข้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับหนึ่ง

4. ระบบการส่งมอบสินค้าเป็นที่ยอมรับ

จุดอ่อน (Weakness)

1. ต้องพึ่งวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง

2. บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่เพียงพอ และ ต่างชาติมีบทบาทมากในการกำหนดการผลิตและเทคโนโลยี

3. ตลาดสหรัฐฯ มีความต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่ผู้ประกอบการไทยยังขาดการวิจัยและพัฒนา และการสนับสนุนจากภาครัฐ

4. มุ่งรับจ้างการผลิต ขาดการนำแบรนด์มาเป็นกลยุทธ์การตลาด

โอกาส (Opportnities)

1. ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯขยายตัวในอัตราในอัตราสูง

2. ในภาวะเศรษฐกิจซบเซาในสหรัฐฯ ผู้ผลิตไทยที่มีทุนควรเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุนกับผู้ประกอบการสหรัฐฯ ในด้านการผลิต/จัดจำหน่าย

อุปสรรค (Threat)

1. มาตรฐานผลิตภัณฑ์และการรับรองมาตรฐานของไทยไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

2. ขาดเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิต การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และขาดการวิจัย/พัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ทันความต้องการผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ

3. การกีดกันทางการค้าในรูปที่ไม่ใช่ภาษีมีมากขึ้น โดยเฉพาะ ด้านที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

4. เผชิญการแข่งขันกับสินค้าของประเทศจีน

5. ขาดระบบและข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาด

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ