สถานการณ์การค้ารถยนต์นั่งในเยอรมนี เดือนมีนาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 27, 2010 14:17 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน ขอรายงานสถานการณ์การค้ารถยนต์นั่งในเยอรมนี เดือนมีนาคม 2553 ดังนี้

1. ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 ยานพาหนะที่จดทะเบียนใช้ในเยอรมนีเป็นจำนวนทั้งสิ้น 50.184 ล้านคัน ได้แก่ รถยนต์นั่ง 41.737 ล้านคัน รถเครื่อง 3.762 ล้านคัน รถบรรทุก 2.835 ล้านคัน รถบัสโดยสาร 76,400 คัน ในจำนวนนี้ รถยี่ห้อของเยอรมนีมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 65.7 หรือประมาณ 33 ล้านคัน ที่ สำคัญๆ ได้แก่ VW (8.8 ล้านคัน) รองลงมาเป็น Opel และ Ford เป็นต้น สำหรับรถนำเข้าจากต่างประเทศที่มีจำนวนมากสูงสุดเป็นรถ Renault/Dacia มีจำนวนทั้งสิ้น 2.2 ล้านคัน เทียบกับปี 2551 รถที่มีส่วนตลาดเพิ่มสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ คือ Skoda และ Hyndai เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 และ 17 ตามลำดับ

2. ผลของการใช้มาตรการกระตุ้นการซื้อรถใหม่ในปี 2552 ที่ผ่านมา ได้ทำให้มีการซื้อรถยนต์นั่งตลอดปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.2 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 3.81 ล้านคัน ส่วนใหญ่จะเป็นรถขนาดเล็ก และขนาดกลาง มีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.7 และ 31.1 ตามลำดับ มีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกันประมาณร้อยละ 22

3. ในด้านสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากระเบียบที่สหภาพยุโรปกำหนดให้รถใหม่ที่ผลิตหลังปี 2012 (พ.ศ. 2555) เป็นต้นไปต้องมีการจัดการควันพิษ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้มีปริมาณไม่เกิน 120 กรัม/1 กิโลเมตรแล้ว ยังมีโครงการที่จะส่งเสริมการใช้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของเยอรมนีจะให้มีจำนวน 1 ล้านคันภายในปี 2020 (พ.ศ. 2563)

4. ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2553 (ม.ค.-มี.ค.) มีการจดทะเบียนรถใหม่ในเยอรมนีรวมทั้งสิ้น 670,410 คัน ลดลงจากปีก่อนระยะเดียวร้อยละ 22.77 รถที่มีการซื้อจดทะเบียนใหม่ลดลงมากจะเป็นรถขนาดเล็กขนาดกลาง เนื่องจากได้ทำการซื้อกันเป็นส่วนใหญ่แล้วในปี 2552 ได้แก่ Toyota Aygo,Suzuki Swift, Honda Civic,, Fiat Punto และ Panda เป็นต้น รถที่ตลาดให้ความสนใจในปัจจุบันจะเป็นรถขนาดใหญ่รถสปอร์ตที่มีราคาสูง เช่น Mecedes Benz E-Class, BMW X1, Audi A5, Mitsubishi Outlander เป็นต้น

5. สำหรับสินค้ารายการนี้จากไทย ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2553 (ม.ค.-มี.ค.) ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 18.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 2.3 ของการส่งออกทั้งสิ้นไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.1 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถปิกอัพเครื่องยนต์ดีเซล มีมูลค่า 11.7 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 1.5 ของการส่งออกไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4รองลงมาเป็น อะหลั่ยและส่วนประกอบอื่นๆ เป็นมูลค่า 6.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 0.79 ของการส่งออกไปเยอรมนีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.0 รายละเอียดในเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ