ฮุนไดมอเตอร์อินเดียคาดว่ายอดขายของบริษัทปี 2553 นี้ จะเติบโต 9-11% โดยจะเน้นเจาะตลาดในอินเดียให้มากขึ้น ชดเชยกับตลาดส่งออกที่มีแนวโน้มลดลง
ฮุนได้คาดว่าการส่งออกปี 2553 จะลดลงหรือใกล้เคียงกับปี 2552 เนื่องจากตลาดหลักของฮุนไดคือตลาดอียูได้ยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของยอดขายฮุนไดในปี 2552 เนื่องจากตลาดส่งออก 50% ของฮุนไดเป็นตลาดอียู ซึ่งรุ่นยอดนิยมเป็นรุ่น i10 และ i20
ฮุนไดเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของอินเดีย แต่สำหรับตลาดในอินเดียแล้วฮุนไดมีส่วนแบ่งตลาด 18 % เป็นอันดับสองรองจากมารูติซูซูกิ อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอินเดียจะยังคงมีอยู่ในอินเดียแม้ว่าจะไม่มากเหมือนในปี 2552 ซึ่งจะช่วยให้ฮุนไดจะยังคงรักษายอดขายในระดับสูงได้ต่อไป
ในปี 2552 ฮุนไดมียอดขายในอินเดียถึง 2.9 แสนคัน หรือขยายตัว 18% ส่วนการส่งออกก็ได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอียูส่งผลให้การส่งออกขยายตัว 10% หรือ 2.7 คัน โดยปัจจุบันฮุนไดมีโรงงานอยู่ในเมืองเจนไนถึง 2 โรงซึ่งมียอดการผลิตรวมราว 6 แสนคันต่อปี
ในปี 2553 ฮุนไดจะใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในอินเดียให้มากขึ้น เนื่องจากตลาดอียูมีแนวโน้มชะลอตัวในปี 2553 เช่นการออกรถรุ่นใหม่ๆ ทุกปี การรุกตลาดชนบทมากขึ้น (ปัจจุบันฮุนไดมีสัดส่วนของยอดขายในเขตชนบท ? ของยอดขายรวม) รวมถึงการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24X7 (24 ชั่วโมง เจ็ดวันต่อสัปดาห์) ประกอบด้วย การเปลี่ยนยาง การซ่อมพื้นฐาน และการลากจูงเพื่อให้สามารถเจาะตลาดได้มากขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่า คนอินเดียส่วนใหญ่จะไม่เปลี่ยนยางรถยนต์เองเมื่อยางแบน แต่มักจะโทรเรียกช่างมาเปลี่ยนยางให้เสมอ อีกทั้งคนรุ่นใหม่จะขับอย่างเดียว ไม่ค่อยใส่ใจกับการบำรุงรักษารถด้วยตนเอง จึงถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับสินค้าไทยโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ที่จะเจาะตลาดอินเดียจะต้องคำนึงถึงการบริการหลังการขายเป็นกลยุทธ์สำคัญอันหนึ่ง
ที่มา: http://www.depthai.go.th