กรมส่งเสริมการส่งออกเตรียมย้ายที่ทำการจากรัชดาภิเษกไปยังกระทรวงพาณิชย์ (สนามบินน้ำ) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เริ่ม 15 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป
กรมส่งเสริมการส่งออก กำหนดโยกย้ายจากที่ทำการถนนรัชดาภิเษก ไปยังกระทรวงพาณิชย์ (สนามบินน้ำ) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการประชาชนร่วมกับหน่วยงานอื่นๆของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนพื้นที่กรมฯ เดิมตรงถนนรัชดาภิเษก มีแผนที่จะขยายศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จและห้องสมุดการค้าให้ใหญ่ขึ้นและทันสมัยขึ้น
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออก มีกำหนดย้ายที่ทำการของกรมฯบริเวณถนนรัชดาภิเษกไปยังกระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาติดต่อประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีหน่วยงานในสังกัดที่ย้ายไป ประกอบด้วย สำนักธุรกิจสัมพันธ์และให้คำปรึกษา (1169) สำนักพัฒนาการตลาดระหว่างประเทศ สำนักส่งเสริมสินค้าส่งออก สำนักบริหารกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก สำนักส่งเสริมธุรกิจบริการ สำนักโลจิสติกส์การค้า และศูนย์บริหารการบ่มเพาะผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก โดยจะย้ายในวันที่ 15 มิถุนายน 2553 และพร้อมให้บริการประชาชนได้ภายในวันนั้นเลย ทั้งนี้ ยังคงเหลือหน่วยงานที่ไม่ได้ย้ายมา ได้แก่ สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ ศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP EXPORT SERVICE CENTER) และห้องสมุดการค้า
“ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้เตรียมที่จะย้ายหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก มาไว้ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ ในวันที่ 15 มิถุนายน 2553 นี้ เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงานของประชาชน และพื้นที่ของกรมฯ (รัชดา) มีแผนที่จะขยายพื้นที่การให้บริการของศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP EXPORT SERVICE CENTER) ให้กว้างขวางขึ้น สำหรับบริการการออกเอกสารการส่งออกของหน่วยงานต่างๆไว้ในที่เดียวแก่ผู้ส่งออก รวมถึงปรับปรุงห้องสมุดการค้าให้มีความทันสมัยขึ้น โดยจะเปิดให้ประกอบการ นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการปรับปรุงรูปแบบผลิตภัณฑ์ และเสริมสร้างตราของตนเองให้แข็งแรง ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป” นางศรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม
วันที่ 15 มิถุนายน 2553 นี้ กรมส่งเสริมการส่งออก จะย้ายที่ทำการมาอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำแล้ว เพื่อความสะดวกในการให้บริการประชาชนที่มาประสานงาน หากมีข้อสงสัยประการใด หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสายด่วนส่งออก 1169 ในวันและเวลาราชการ
ที่มา: http://www.depthai.go.th