ประชากรของเขตฯ กว่างซีมีอาชีพหลัก คือ การทำเกษตรกรรม โดยที่ทางการมีนโยบาย รักษาความมั่งคงทางด้านธัญญาหาร และส่งเสริมการปลูกข้าวของเกษตรกร รัฐบาลกลางของจีนจึงส่งเสริมและพัฒนาการเพาะปลูกข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตฯ กว่างซีที่การปลูกข้าวเป็นอาชีพหลักของเกษตรกร รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริม ดังนี้
1.1 หากปลูกข้าวในพื้นที่ 1 หมู่ (หรือเท่ากับ 2.3999 ไร่) เกษตรกรจะได้รับเงินอุดหนุนจากทางการเป็นเงิน 50-70 หยวน
1.2 เขตฯ กว่างซีมีการปลูกข้าวปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้รับเงินอุดหนุน 10 หยวน/หมู่และครั้งที่ 2 ได้รับเงินอุดหนุน 15 หยวน/หมู่
1.3 การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรในการปลูกข้าว โดยได้รับเงินชดเชยร้อยละ 30-40 ของค่าใช้จ่ายที่ซื้อเครื่องจักรดังกล่าว
1.4 หากราคาข้าวต่ำกว่า 1.94 หยวน/กิโลกรัม ทางการจะรับซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคา1.94 หยวน/กิโลกรัม
ข้าวของเขตฯ กว่างซีต้องแข่งขันกับข้าวหอมมะลิของไทย ในปัจจุบันข้าวหอมมะลิของไทยเข้าสู่เขตฯ กว่างซีมากขึ้นเพราะมีภาพลักษณ์ดีและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค โดยมีกลิ่นหอม รูปทรงสวย สีมันวาว และไม่มีเมล็ดข้าวหักเจือปน
อย่างไรก็ดี จากการที่ข้าวหอมมะลิของไทยมีราคาสูงกว่าข้าวท้องถิ่น ทำให้ข้าวท้องถิ่นยัง คงเป็นที่นิยมรับประทานของชาวกว่างซีมากที่สุด แต่ข้าวท้องถิ่นก็ได้รับผลกระทบจากความนิยมบริโภคข้าวไทยไม่น้อยเช่นกัน
3.1 พื้นที่
เขตฯ กว่างซีมีการเพาะปลูกข้าวอยู่ทั่วไป เกษตรกรประมาณร้อยละ 80 มีอาชีพปลูกข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองป๋อเป่ย เมืองเฉวินโจว เมืองกุ้ยผิง และเมืองหลิงซาน เป็นแหล่งปลูกข้าวสำคัญของเขตฯ กว่างซี
3.2 ปริมาณและผลผลิต
ปี 2009 เขตฯ กว่างซีมีปริมาณการผลิตข้าวเปลือกถึง 10 ล้านตัน
ชาวกว่างซีนิยมรับประทานข้าวพันธ์ธรรมดา (Inbrid Rice) มากกว่าข้าวพันธ์ผสม (Hybrid Rice) เนื่องจากมีรสชาดดีกว่า ถึงแม้ว่าข้าวพันธุ์ผสมจะให้ผลผลิต/หมู่สูงกว่าก็ตาม และนิยมข้าวขาวเป็นส่วนใหญ่ ส่วนข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่งได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มคน เนื่องจากมีราคาแพงกว่า
5.1 ช่องทางการจัดจำหน่าย
ข้าวมีการขายปลีกในตลาด ร้านค้า และซุปเปอร์มาร์เกต โดยผ่านทางตัวแทนจำหน่ายข้าว
5.2 ราคาจำหน่ายในประเทศ การจำหน่ายในซุปเปอร์มาเกต
ข้าวหอมมะลิ (92%) เกรดธรรมดา ราคาอยู่ระหว่าง 6.80- 10.36 หยวน/กิโลกรัม ส่วนเกรดดีอยู่ระหว่าง 11.90 — 15.00 หยวน/กิโลกรัม
ข้าวท้องถิ่น เกรดธรรมดา อยู่ระหว่าง 2.80 — 3.50 หยวน/กิโลกรัม และเกรดดีอยู่ระหว่าง 4.00 — 7.80 หยวน/กิโลกรัม
การจำหน่ายในตลาด
ข้าวท้องถิ่นอยู่ระหว่าง 2.30 - 5.53 หยวน/กิโลกรัม
ข้าวที่เพาะปลูกในเขตฯ กว่างซีส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อการบริโภคภายในเป็นหลัก และมีส่งออกแต่ไม่มากนัก โดยส่งไปยังฮ่องกงและมาเก๊าประมาณ 8 แสนตัน/ปี
เขตฯ กว่างซีไม่สามารถกำหนดโควต้านำเข้า-ส่งออกข้าวได้เอง จำเป็นต้องดำเนินนโยบายตามรัฐบาลกลาง หลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว ข้าวที่นำเข้าจากประเทศอาเซียนยังคงต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 1 เนื่องจากเป็นสินค้าอ่อนไหว โดยจีนนำเข้าข้าวจากไทยในสัดส่วนร้อยละ 90 ของการนำเข้าข้าวทั้งหมด
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนได้แถลงว่า ปี 2010 จีนมีโควตาการนำเข้าข้าวสาร 5.32 ล้านตัน ซึ่งในแต่ละปีการกำหนดโควตาการนำเข้าแตกต่างกัน และผู้ที่สามารถนำเข้าข้าวสารได้ คือ
1. รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับธัญญาหาร
2. วิสาหกิจที่มีมูลค่าการค้าสูงถึง 1 ร้อยล้านหยวนขึ้นไป
3. วิสาหกิจที่มีมูลค่าการนำเข้า- ส่งออกสูงถึง 25 ล้านดอลลาสหรัฐ
ทางการกว่างซีสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนม ฯลฯ เนื่องจากเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งชาวกว่างซีนิยมบริโภคเป็นอย่างมากอีกประเภทหนึ่ง นอกจากนี้ ยังส่งไปจำหน่ายในมณฑลอื่นๆ อีก เช่น กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ฯลฯ
สคร.หนานหนิง
ที่มา: http://www.depthai.go.th