รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) พร้อมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ) และคณะ พบหารือกับผู้บริหารบริษัท Rhee Brothers จำกัด ณ มลรัฐแมรี่แลนด์ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2553
บริษัท Rhee Brothers จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1976 นำเข้าอาหารแปรรูปและแช่แข็งจากเกาหลีเป็นหลัก ต่อมาขยายการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศต่างๆในเอเซีย จนในปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 10,000 รายการจำหน่ายให้กับร้านค้าปลีก และซุปเปอร์มาเก็ตทั่วสหรัฐอเมริกากว่า 1,500 แห่ง นอกจากนี้ในปี 1989 ยังได้เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตของตนเอง ชื่อ Lotte Plaza และ Assi Plaza ปัจจุบันมี 13 สาขาในมลรัฐต่างๆทั่วประเทศ ยอดจำหน่ายสินค้าต่อปี กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทขยายการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550 สินค้าที่นำเข้า ได้แก่ ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำผลไม้ ขนมขบเคี้ยว กะทิ กาแฟ ถั่ว เป็นต้น โดยในปี 2552 มีการนำเข้าจากประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 25 ของการนำเข้าทั้งหมด และคาดว่าการนำเข้าจากไทยจะขยายตัวได้อีกเนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความหลากหลาย ตรงกับความต้องการของตลาด อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่บริษัทประสบคือ สินค้าอาหารที่มี แบรนด์เป็นที่รู้จัก เช่น ชาวเกาะ ทิพรส เป็นต้น เป็นสินค้าที่มี Exclusive Agent อยู่แล้วในสหรัฐอเมริกา ยากที่จะนำเข้ามาอีก บริษัทจึงริเริ่มที่จะผลิตสินค้าอาหารในแบรนด์ของตนเอง โดยใช้ผู้ผลิตในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทยังนำเข้าน้ำปลาแท้เป็นปริมาณมากเพื่อนำมาทำกิมจิอีกด้วย ซึ่งจะได้กิมจิที่รสชาติดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) พร้อมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ) และคณะ เดินทางเยี่ยมชมตึก 7W Building เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2553 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
อาคาร 7W เป็นอาคารให้เช่า ขนาด 10 ชั้น สำหรับผู้ผลิตสินค้าประเภทของขวัญ ของตกแต่งบ้าน ของเล่น ของ premium เป็นต้น เน้นการเจรจาธุรกิจ การรับ order สั่งสินค้าจากผู้ซื้อประเภทต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ในฝั่งตะวันออก ไม่มีการขายปลีก โดยในอาคารแห่งนี้ มีผู้ประกอบการไทย 2 รายที่มีกิจการในตึกดังกล่าว ได้แก่ บริษัท Vance Kitira (สินค้าเทียน และถ้วยชามเซรามิก) และบริษัท Urban Oasis (สินค้าเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้พบปะพูดคุย สอบถามถึงการทำธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และประโยชน์ของการมี Showroom ในตึกนี้ เนื่องจากตึกนี้ตั้งอยู่ในย่านที่ดี (ถนน 34 ตัด ถนน 7 ตรงข้ามตึก Empire State) ประกอบกับ ผู้บริหารตึกมีกิจกรรมเชิญชวนผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง และการที่มีผู้ผลิตรวมกันอยู่จำนวนมาก ทำให้ผู้ซื้อต้องการเข้ามาเลือกชมสินค้ามากขึ้นด้วย ผู้ที่มี Showroom ในตึก 7W มีทั้งจากสหรัฐอเมริกาเอง และเป็นต่างชาติหลายประเทศ เช่น อังกฤษ อิตาลี จีน ไทย เป็นต้น ทั้งนี้ หากผู้ส่งออกไทยมีPartner/Agentในสหรัฐอเมริกาก็จะเป็นโอกาสดี หากได้มาเช่าห้องเพื่อแสดงสินค้าแบบถาวรในตึก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) พร้อมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ) และคณะ เดินทางเยี่ยมชม warehouse ของบริษัท Vasinee Foods จำกัด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2553 ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็น warehouse ขนาดใหญ่ มีขนาด 90,000 ตารางฟุต
บริษัท Vasinee Foods จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 1987 นำเข้าอาหารจากประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 90 ของการนำเข้าทั้งหมด สินค้าหลักของบริษัท ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ เส้นก๋วยเตี๋ยว เครื่องปรุงรส กะทิ อาหารแช่แข็ง เครื่องดื่มผลไม้ เช่น มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวเผา เป็นต้น ซึ่งหลายรายการ จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของตนเอง นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับแบรนด์อื่นๆของไทย ในฝั่งตะวันออกด้วย เช่น มาม่า ไวไว แม่พลอย แม่ศรีเรือน ชาวเกาะ เป็นต้น โดยลูกค้าหลักเป็นกลุ่มซุปเปอร์มาเก็ต ร้านค้าปลีก ตัวแทนจำหน่าย และร้านอาหาร กลุ่มคน Hispanic และ Oriental ในปัจจุบัน บริษัทได้ริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อให้ตรงตามรสนิยมของผู้บริโภค เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสำหรับตลาด Hispanic พัฒนาร่วมกับมาม่า โดยรสชาติ และบรรจุภัณฑ์ จะแตกต่างจากรูปแบบปกติ นอกจากนี้ ผู้บริหารบริษัท Vasinee Foods จำกัด ยังได้กล่าวถึงปัญหา การปลอมข้าวหอมมะลิสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ข้าวไทย เสียชื่อเสียง ซึ่งเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้รับข้อมูลมาสั่งการผู้เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
ที่มา: http://www.depthai.go.th