ข้อมูลอุตสาหกรรมอัญมณีสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 1, 2010 17:16 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สหรัฐฯมีแหล่งอัญมณีธรรมชาติของสหรัฐฯที่ใช้สำหรับทำเครื่องประดับอยู่ไม่มากนัก ที่สำคัญอยู่ในรัฐ

1. Tennessee - ไข่มุกข์น้ำจืดจากแม่น้ำเทนเนสซี่

2. California - tourmaline, turquoise, kunzite และ garnet

3. Arizona - เป็นแหล่ง Peridot ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก อัญมณีสำคัญสูงสุดของรัฐคือTurquoise ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดโลก นอกจากนี้ยังมี agate, jasper, petrified wood, garnet และ opal

4. Arkansas - เพชร, quartz และ rock crystal

5. Montana - sapphires (Yogo Gulch sapphires)

6. Nevada - turquoise และ opal

7. Main - tourmaline

8. Oregon - feldspar, sunstone ( heliolite หรือRed Labradorite) agates, jaspers และ obsidians

9. Idaho - agates, jaspers, garnet และ opals

การผลิตในประเทศ

ในปี 2009 สหรัฐฯผลิตอัญมณีธรรมชาติและอัญมณีเทียมได้ประมาณ 45.5 ล้านเหรียญฯ ในจำนวนนี้เป็นอัญมณีธรรมชาติ 11.2 ล้านเหรียญฯ และอัญมณีเทียม 34.3 ล้านเหรียญฯ มูลค่าการผลิตในปี 2009 ลดลงจากปี 2008 ร้อยละ 11 การผลิตอัญมณีมีค่ามีมูลค่าลดลงเพียงเล็กน้อย (ลดลงจากปี 2008 เท่ากับ .3 ล้านเหรียญฯ) ในขณะที่การผลิตอัญมณีเทียมมีมูลค่าลดลงร้อยละ 33 (ลดลงจากปี 2008 เท่ากับ 17.10 ล้านเหรียญฯ) มูลค่าการผลิตในปี 2009 แสดงถึงแนวโน้มการผลิตอัญมณีธรรมชาติที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2005 และการผลิตอัญมณีเทียมที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2007

อัญมณีธรรมชาติของสหรัฐฯ ได้แก่ agate, beryl coral, garnet, jade, jasper, opal, pearl, quartz, sapphire, shell, topaz, tourmaline, turquoise แหล่งผลิตในสหรัฐฯ แหล่งผลิตสำคัญในปี 2009 เรียงตามลำดับมูลค่าการผลิตได้แก่ รัฐ Tennessee, Oregon, Arizona, Utah, California, North Carolina, Idaho, Arkansas, Colorado, Alabama และ Montana มูลค่าการผลิตจากทั้ง 11 รัฐนี้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 86 ของการผลิตอัญมณีธรรมชาติรวมทั้งสิ้นของสหรัฐฯ อุตสาหกรรมการผลิตอัญมณีธรรมชาติในสหรัฐฯไม่ใช่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เหมืองแร่ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและส่วน ใหญ่จะทำธุรกิจเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปเที่ยวขุดหาแร่กันเอง

อัญมณีเทียมของสหรัฐฯ อัญมณีเทียมที่สหรัฐฯผลิตได้เช่น diamond, emerald, garnet, lapis lazuli, quartz, ruby, sapphire และ turquoise เป็นต้น มูลค่าการผลิตในปี 2009 สหรัฐฯมาจากบริษัทผลิตเพียง 5 บริษัทในแหล่งผลิตสำคัญเรียงตามลำดับมูลค่าการผลิตคือ Florida, New York, North Carolina, Massachusetts และ Arizona โรงงานผลิตที่สำคัญ เช่น (ก) The Gemesis Corporation, www.gemesis.com, ที่รัฐฟลอริด้า (ข) Chatham Created Gems & Diamonds, www.chatham.com ที่ซานฟรานซิสโก และเท็กซัส (ค) Lucent Diamonds Inc. โคโลราโด www.lucentdiamonds.com (ง) Apollo Diamond Inc. แมสซาจูเซ็ท www.apollodiamond.com (จ) LifeGem Created Diamonds อิลินอยส์ www.lifegem.com (ฉ) Shelby Gem Factory / ITC, Inc. (rubies & sapphires) มิชิแกน www.shelbygemfactory.com

ตลาดอัญมณีธรรมชาติ

มูลค่าตลาดในปี 2009 ลดลงจากปี 2008 สืบเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจและการลดลงของการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยประมาณการณ์มูลค่าตลาดอัญมณีในปี 2009

1. เพชรที่ยังไม่ได้เข้าเรือน 13.7 พันล้านเหรียญฯ ลดลงจากปี 2008 ร้อยละ 30

2. อัญมณีธรรมชาติอื่นๆที่นอกเหนือจากเพชร 787 ล้านเหรียญฯ ลดลงจากปี 2008 ร้อยละ 32

การใช้อัญมณีที่ผลิตได้ในสหรัฐฯ

อัญมณีที่ผลิตได้ในสหรัฐฯส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการแกะสลัก การเก็บสะสม และทำเป็นเครื่องประดับ

การบริโภคอัญมณีภายในประเทศ

ประมาณการณ์มูลค่าการบริโภคในปี 2009 เท่ากับ 4,610 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจากมูลค่า 5,670 ล้านเหรียญฯในปี 2008 ร้อยละ 99 ของการบริโภคอัญมณีภายในประเทศมาจากการนำเข้า

การค้าระหว่างประเทศ

มูลค่าการนำเข้าเพื่อการบริโภคในปี 2009 ประมาณ 14,500 ล้านเหรียญฯ เปรียบเทียบกับมูลค่า 20,900 ล้านเหรียญฯในปี 2008 อัญมณีนำเข้าที่สำคัญ คือเพชร ประมาณร้อยละ 95 ของมูลค่าการนำเข้าอัญมณีของสหรัฐฯในระหว่างปี 2005 — 2008 มาจากการนำเข้าเพชร แหล่งอุปทานนำเข้าอัญมณีที่สำคัญในระหว่างปีดังกล่าวคือ Israel มีส่วนแบ่งตลาดสุงสุดร้อยละ 48 รองลงมาคืออินเดียร้อยละ 20 เบลเยี่ยมร้อยละ 15 และอาฟริกาใต้ร้อยละ 5 การนำเข้าจากประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้า ruby, sapphire และ emerald

สหรัฐฯไม่มีข้อกีดกันทางการค้าสำหรับสินค้าอัญมณีนอกเหนือไปจากภาษีนำเข้า อัตราภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้าปกติ

(1) ไม่มีภาษีนำเข้า ได้แก่

(ก) Imitation precious stones (7018.10.2000)

(ข) Natural Pearls (7101.10.0000)

(ค) Cultured Pearls (7101.21.0000)

(ง) unworked/sawn diamond (7102.31.0000)

(จ) 1/2 carat or less diamond (7102.39.0010)

(ฉ) cut diamond-more than 1/2 carat (7102.39.0050)

(ช) Unworked precious stones (7103.10.2000)

(ซ) Cut Rubies (7103.91.0010)

(ฌ) Cut Sapphires (7103.91.0020)

(ญ) Cut Emeralds (7103.91.0030)

(ฎ) Cut but not set other precious stones (7103.99.1000)

(ฎ) cut but not set synthetic stones (7104.90.1000)

2. Pearls, Imitation, not strung (7018.10.1000) อัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 4 ตามสัดส่วนของมูลค่าโดยประมาณ (ad val.)

3. Precious stones, simply sawn (7103.10.4000) และ Other precious stones (7103.99.5000) อัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 10.5 ตามสัดส่วนของมูลค่าสินค้าโดยประมาณ (ad val.)

มูลค่าการส่งออกรวมถึงการ re-export

มูลค่าการส่งออกรวมถึงการ re-export ในปี 2009 ประมาณ 9,950 ล้านเหรียญฯ ลดลงจากมูลค่า 15,300 ล้านเหรียญฯในปี 2008

กฎระเบียบ

1. เมื่อกลางปี 2009 ประธานาธิบดี Obama ได้ลงนามในกฎหมาย Jade Act

(ก) ห้ามการนำเข้าสหรัฐฯ ruby และ jadeite ที่มีแหล่งกำเนิดจากเมียนม่า ทั้งนี้รวมถึง ruby และ jadeite ที่ผ่านการเจียรนัยหรือการผลิตเป็นเครื่องประดับแล้วในประเทศที่สาม(รวมถึงประเทศไทย)

(ข) ผู้นำเข้าจะต้องระบุรหัสศุลกากร (Harmonized Tariff) ที่ถูกต้องเพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ใช่สินค้าที่มาจากเมียนม่า กลุ่มรหัสที่ถูกต้อง (เปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่และมีผลบังคับใช้วันที่ 27 กันยายน 2008)

  • 7103 Precious stones (other than diamonds)
  • 7113 Articles of Jewelry and parts thereof
  • 7116 Articles of natural or cultured pearls; precious or semi precious stones

(ค) ผู้ส่งออกที่ส่งสินค้าเข้าไปยังสหรัฐฯจะต้องทำการรับรองสินค้าอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสินค้านั้นไม่ใช่สินค้าที่มีแหล่งกำเนินในเมียนม่า ต้องมีหลักฐานพร้อมแสดงให้ศุลกากรสหรัฐฯดูว่าไม่ใช่สินค้าจากเมียนม่า และต้องระบุชื่อพนักงานที่รู้เรื่องการซื้อขายสินค้านั้นๆไว้ด้วย

(ง) สินค้าที่ได้มีการนำเข้าสหรัฐฯไปแล้วก่อนวันที่ 27 กันยายน 2008 สามารถส่งออกไปนอกประเทศสหรัฐฯเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆก็ตามและถูกส่งกลับ เข้าไปยังสหรัฐฯอีกครั้งได้ แต่ทั้งนี้สินค้าจะต้องคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเมื่อเวลาส่งออก ไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงใดๆได้ไม่ว่าจะเป็นการตัด เจียรนัย หรือทำเป็นเครื่องประดับ

ข้อพึงระวัง

ในปี 2009 ศุลกากรสหรัฐฯที่ด่านนำเข้าบางแห่งเรียกเก็บภาษีสินค้าอัญมณีที่อยู่ในรูปของ “cabochons” ในขณะที่บางด่านนำเข้าไม่เรียกเก็บภาษี ทั้งนี้เป็นผลมาจากการตีความรหัสศุลการและการตีความหมายของสินค้าที่ไม่ตรงกัน ตามรหัสศุลกากรสหรัฐฯอัญมณีที่ “cut but not set”ไม่ต้องเสียภาษี ศุลกากรสหรัฐฯที่ด่านนำเข้าบางด่านตัดสินว่า “cabochons” เป็นสินค้าที่ยังไม่ได้ “cut” ขณะนี้ศุลกากรสหรัฐฯกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อจัดทำความหมายของคำว่า “cut” ให้ กระจ่างชัด

การนำเข้าในขณะนี้ ถ้าผู้นำเข้าถูกเรียกเก็บภาษีไปแล้วหรือกำลังถูกเรียกเก็บภาษีสามารถยื่นเรื่องโต้แย้งได้ตามขบวนการที่ศุลกากรสหรัฐฯกำหนด

งานแสดงสินค้า

จัดโดย the American Gem Trade Association (www.agta.org)

(ก) AGTA GemFair Tucson, AZ, February 2 — 7, 2010

(ข) MJSA Expo, March 14-16, 2010 New York, NY

(ค) The Smart Jewelry Show, Chicago, IL, April 24 — 26, 2010

(ง) AGTA GemFair Las Vegas, June 3 — 7, 2010

สมาคม/องค์กร

1. American Gem Society, 8881 W. Sahara Ave., Las Vegas, NV 89117-5865 Tel: 702 255-6500

2. American Gem Trade Association, 3030 LBJ Freeway, Suite 840, Dallas, TX 75234, Tel: 214 742-4367

3. AGTA Gemological Testing Center, 18 E. 48th St., Suite 502, New York, NY 10017, Tel: 212 752-1717

4. Diamond Manufacturers and Importers Association, 521 5th Avenue, suite 1700, New York, NY 10036, Tel: 212 869-1990

5. Diamond Council of America, 3212 West End Avenue, Suite 202, Nashville, TN 37203, Tel: 615 385-5301

6. Cultured Pearl Information Center, C/O Telepress Association, 321 E. 53rd St., Lower Level, New York, NY 10022, Tel: 212 688-5580

ที่มา:

1. U.S. Geological Survey, Mineral Commodity Summaries, January 2009

2. American Gem Trade Association

3. Jewelers Vigilance Committee

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นครลอสแอนเจลิส

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ