มาขายอาหารสัตว์เลี้ยงและขนม/ของกินเล่นในอิตาลีกันดีกว่า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 2, 2010 14:24 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สมาคมอาหารสัตว์เลี้ยงและอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง ASSALCO (National Association Pet Food & Pet Care Industries) เผยว่า ไทยครองตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในอิตาลี 2% ซึ่งในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงอิตาลีแบ่งออกเป็นอาหารเปียกสาหรับแมว (38.5%) อาหารแห้งสาหรับแมว (18.5%) อาหารเปียกสาหรับสุนัข (18.1%) อาหารแห้งสาหรับสุนัข (20.8%) และของกินเล่น (4.1%) ซึ่งไทยมีศักยภาพมากที่สุดในกลุ่มสินค้าอาหารเปียกสาหรับแมว โดยครองตลาดมีสัดส่วน 5% ของกลุ่มดังกล่าว และเห็นว่าสินค้ากลุ่มขนมและของกินเล่นของไทยน่าจะสามารถเจาะกลุ่มนี้ได้ทั้งหมด เนื่องจากมีนโยบายราคาที่ดีทาให้สามารถแข่งขันได้ในด้านราคากับจีน

ในตลาดอิตาลีมีตลาดจาเพาะ (niche market) 2 ส่วนที่สินค้าไทยมีศักยภาพคือ อาหารทะเลกระป๋อง สำหรับ แมว (กระป๋องขนาด เล็ก /1 portion) และขนมและของเล่น (แต่เป็นสินค้าที่อิตาลีนาเข้าจากจีนเป็นส่วนใหญ่) เนื่องจากจุดแข็งของสินค้าไทยในเรื่องคุณภาพของอาหารทะเลและความมีทักษะสูงของแรงงานไทย และในอิตาลีและประเทศต่างๆในยุโรปยังไม่มีผู้ผลิตสินค้ากลุ่มขนมและของกินเล่น

สาหรับโอกาสนาเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ จากประเทศไทย ผู้แทนสมาคม ASSALCO กล่าวว่า ยังไม่มีศักยภาพ เนื่องจากราคาสินค้าในสหภาพยุโรปถูกกว่า ทั้งนี้มีผู้ผลิตจานวนมากในสหภาพยุโรป และค่าขนส่งและระยะเวลาการขนส่งที่ยาวนานทาให้ขาดศักยภาพด้านการแข่งขันไป ทั้งนี้ผู้แทนฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จากสถิติการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์ของไทยมายังในอิตาลีเพิ่มขึ้นน้อยลงในปี 2009 เป็นเพราะว่า มูลค่าตลาดของอาหารเปียกในอิตาลีลดลง ทาให้ส่งผลถึงสินค้าไทยเนื่องจากเป็นสินค้าหลักที่ไทยส่งมายังอิตาลี และอาจเป็นเพราะบริษัทของไทยบางบริษัท (เช่น Thai Union) เริ่มไปตั้งโรงงานผลิตในต่างประเทศ หรือกระจายสินค้าผ่านบริษัทข้ามชาติในยุโรป (โดยส่งต่อจากบริษัทในยุโรปมาอิตาลี) จึงมีผลทาให้ตัวเลขสถิติการส่งออกจากไทยลดลง

ประเทศไทยเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในเรื่องคุณภาพอาหารสัตว์เลี้ยง และมีผู้ผลิตที่มีความเชื่อถือได้ (เป็นเวลา 30 ปี) แต่มีจุดอ่อนคือ (โดย เฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้) ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ในขณะที่ทั้งอิตาลีและประเทศอื่นๆในยุโรปต่างพยายามลดราคาสินค้าลง อันเนื่องมาจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจทาให้มีอัตราเงินเฟ้อลดลง ดังนั้นเพื่อขยายอานาจการซื้อของผู้บริโภค (โดยบริษัทในอิตาลีถึงกับลดวงเงินกาไรของบริษัทลง) แต่ผู้ส่งออกไทยกลับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นอีก 30% (แม้ว่าจะมีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายวัตถุดิบของกระป๋องที่สูงขึ้น และขนาดของบริษัทมีขนาดเล็กทาให้ไม่สามารถต่อรองราคาวัสดุให้มีราคาตาได้)

สมาคม ASSALCO แจ้งว่า สัดส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ เนื้อสัตว์ที่ใช้ในการผลิตมาจากในอิตาลีเอง 90% ส่วนซีเรียลมาจากอิตาลี และสหภาพยุโรป ข้าวจากอิตาลี 100% และอาหารทะเลจาก เปรูนอร์เวย์ เดนมาร์ค และประเทศไทย (แบบสาเร็จรูปแล้ว)

ทั้งนี้ประเทศไทยอาจจะมีศักยภาพตัวสินค้าสารที่ช่วยเพิ่มรสชาติ (ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมที่เพิ่มวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง)

ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในอิตาลี

ตลาดสัตว์เลี้ยงอิตาลีประกอบด้วย อาหารสุนัขและแมวประมาณ 90% ทั้งนี้จากการสารวจพบว่า กึ่งหนึ่งของครอบครัวชาวอิตาเลี่ยน (ประมาณ 15 ล้านครอบครัว) จะมีสัตว์เลี้ยงที่บ้านอย่างน้อย 1 ตัว (โดยรวมมีสัตว์เลี้ยงจานวนประมาณ 60 ล้านตัว) โดยมีสัดส่วน 45% ของตลาดอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีระดับการแข่งขันในตลาดสูงมาก โดยอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงอิตาลีจะเน้นการขยายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และรสชาติอาหาร (เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของสัตว์เลี้ยงแบ่งประเภทตามขนาด พันธุ์สัตว์ อายุ และไลฟ์สไตล์ ฯลฯ) ส่วนใหญ่บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงของอิตาลีจะเป็นผู้ผลิต แต่จาเป็นต้องนาเข้าสินค้าบางส่วนเพื่อให้มีสินค้าหลายหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อทั้งอาหารสัตว์และของใช้อื่นๆ

ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง พบว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสามารถสนองตอบต่อสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้ดีเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น เนื่องจากมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.6% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2009 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2008 ในขณะที่ในปี 2008 ทั้งปีมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2007

มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงอิตาลีมีมูลค่าประมาณ 1.2 พันล้านยูโร (ในปี 2008) ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตในอิตาลี 90% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงและใช้เวลานาน (ในกรณีที่นาเข้า) ทาให้ไม่เหมาะกับตลาดที่มีการ หมุนเวียนสูงของผลิตภัณฑ์บนชั้นวาง (shelve products)

ตลาดหลักของสินค้าในอิตาลี คือ อาหารเปียกสาหรับแมว (38.5%) อาหารแห้งสาหรับแมว (18.5%) อาหารเปียกสาหรับสุนัข (18.1%) อาหารแห้งสาหรับสุนัข (20.8%) และขนมหรือของกินเล่น (4.1%)

จากการสารวจพบว่า สินค้าที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นคือ อาหารแห้ง (ทั้งสาหรับแมวและสุนัข) และขนมและของเล่น งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ คือ Interzoo ประเทศเยอรมัน และ Zoomark ในอิตาลีโดยจะจัดสลับกันทุกๆ ปี กล่าวคือในปี 2009, 2011 และ 2013 จัดที่อิตาลี และปี 2008, 2010 และ 2012 จัดในเยอรมัน

แนวโน้มกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ต่างๆ

ตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ในอิตาลีมีขนาดเล็กและไม่มีการเก็บสถิติ พบว่ามีผู้นาเข้าสินค้าเหล่านี้จานวนน้อยและเป็นผู้นาเข้าขนาดเล็ก แต่เนื่องจากครอบครัวชาวอิตาเลี่ยนให้ความสาคัญกับสัตว์เลี้ยงมากดังนั้นคาดว่าจะมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี ซึ่งแจ้งว่า ในเยอรมนีมีผู้นาเข้ารายใหญ่ในกลุ่มอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงเหล่านี้

กฎระเบียบของสหภาพยุโรป

สมาคม ASSALCO แจ้งว่า ขณะนี้สหภาพยุโรปกาลังอยู่ในระหว่างดำเนินการออกกฎระเบียบใหม่ 2 ข้อ คือ กฎระเบียบด้านการการติดฉลากอาหารสัตว์เลี้ยงและอื่นๆ และกฎระเบียบเกี่ยวกับการจดทะเบียนสารเพิ่มรสชาติบางตัว (เช่น แป้ง carob) ทั้งนี้ทางสมาคมฯจะแจ้งให้ทราบความคืบหน้าต่อไป

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ