1.1 สำนักข่าวต่างๆ ได้รายงานข่าวความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีการใช้กาลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ การมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจานวนมาก (มีนักข่าวอิตาลีเสียชีวิต 1 คน) และการก่อวินาศกรรมสถานที่ต่างๆ ซึ่งสร้างความตกใจให้กับประชาชนในอิตาลีที่ไม่คาดว่าประเทศไทยจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ หลายคนได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรายงานข่าวเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
1.2 ในเรื่องนี้ สานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ได้ติดต่อแจ้งข่าวสารให้ผู้นาเข้าและเครือข่ายทราบ และประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ของสานักงานฯ รวมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย
2.1 กระทรวงการต่างประเทศอิตาลีได้ประกาศเตือนไม่ให้ชาวอิตาลีเดินทางไปประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ หรือการลงทุน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่น่าไว้วางใจ
2.2 สายการบินBlue Panorama ของอิตาลี ซึ่งมีเที่ยวบิน มิลาน, โรม-กรุงเทพฯ ได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งสองเส้นทาง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว
2.3 สมาคมผู้ประกอบการการท่องเที่ยวอิตาลี Associazione Tour Operator (ASTOI) ร่วมกับสมาชิก Alpitour, Eden Viaggi, และ Viaggi dell' Elefante ได้ประกาศยกเลิกการจัดทัวร์ประเทศไทย
2.4 จำนวนผู้โดยสารของสายการบินไทยในเส้นทางมิลาน, โรม-กรุงเทพฯ ลดน้อยลง และขอเลื่อนการเดินทางออกไป
3.1 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 ไทยส่งออกไปอิตาลี 451 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 36 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
3.2 จากการสอบถามผู้นาเข้าสินค้าไทยที่มีศักยภาพในตลาด เช่น อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มสินค้าแฟชั่น ยานยนตร์ เป็นต้น ยังคงสนใจนาเข้าจากไทยเช่นเดิม เพียงแต่ชลอการเดินทางมาประเทศไทยจนกว่าจะเกิดความมั่นใจ อย่างไรก็ตามในกลุ่มนี้มีความกังวลอยู่บ้างว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยจะส่งผลต่อนโยบายการค้าการลงทุนอย่างไร
3.3 ผู้นำเข้าประสบปัญหาในการสั่งสินค้าจากไทย คาดว่าเนื่องจากหน่วยราชการปิด ไม่สามารถออกเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ผู้ส่งออกได้ จึงทาให้ไม่สามารถส่งของได้ตามจานวนผู้นาเข้าที่ต้องการสั่งซื้อ
3.4 สำหรับผู้นาเข้าหรือนักธุรกิจที่ยังไม่มีคู่ค้าในไทย คาดว่าจะให้ความสนใจในการนาเข้าหรือลงทุนกับประเทศไทยลดลง ทั้งนี้นักวิชาการอิตาลีผู้เชี่ยวชาญภูมิภาคเอเชียวิเคราะห์ว่า นักธุรกิจจะหันไปสนใจประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพใกล้เคียงกัน แต่มีเสถียรภาพทางการเมืองมากกว่า เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นต้น
3.5 สำนักงานฯ มิลาน จึงเห็นว่าในปี 2553 ไทยอาจสามารถรักษายอดการส่งออกไปอิตาลีในส่วนของลูกค้าเดิมไว้ได้ แต่สาหรับลูกค้าใหม่จะเป็นไปได้ยากขึ้น โอกาสที่การส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 อาจไม่ขยายตัวเป็นที่น่าพอใจเช่นในไตรมาสแรก
4.1 ด้านการท่องเที่ยว ชาวอิตาลีนิยมมาเที่ยวไทยมาก แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น รัฐบาลอิตาลีประกาศเตือนไม่ให้เดินทางมาประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการการท่องเที่ยวอิตาลี และสมาชิกยกเลิกการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวประเทศไทย สายการบินยกเลิกเที่ยวบินระหว่างไทย-อิตาลี จึงคาดว่าในปี 2553 จานวนนักท่องเที่ยวจะลดลงอย่างชัดเจน และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคบริการของไทย
4.2 ด้านการค้า คาดว่ามีผลในช่วงระยะสั้นที่เกิดความไม่สะดวกในการติดต่อและเดินทาง แต่ในระยะยาว นักธุรกิจที่ทาธุรกิจกับไทยในปัจจุบันจะยังคงทาการค้ากับประเทศไทยต่อไป ส่วนนักธุรกิจที่ยังไม่มีคู่ค้าจะให้ความสาคัญกับศักยภาพการผลิตสินค้าและความเป็นคู่ค้าที่น่าเชื่อถือ สามารถส่งของได้ตามกาหนดและคุณภาพตามที่ต้องการมากกว่า
4.3 ด้านการลงทุน นักธุรกิจที่ได้ตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยแล้วจะยังดาเนินการต่อไป แต่จะมีความระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้น และกังวลต่อความไม่มั่นคงทางการเมืองจะส่งผลต่อธุรกิจอย่างไร ส่วนนักธุรกิจที่พึ่งให้ความสนใจกับการลงทุนในไทย จะให้ความสนใจประเทศอื่นที่มีความมั่นคงมากกว่าเพิ่มขึ้น
4.4 ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวอิตาลีเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประเทศไทย อย่างไรก็ตามนักธุรกิจที่ทาธุรกิจกับไทยส่วนใหญ่ยังเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในด้านการค้า
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th