การค้าระหว่างประเทศของฟิลิปปินส์ เดือน กุมภาพันธ์ 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 9, 2010 15:57 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. การค้าระหว่างประเทศในเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2553 เปรียบเทียบกับปี 2552

มูลค่า : พันล้านเหรียญสหรัฐ

                   ม.ค.-ก.พ.53       ม.ค.—ก.พ.52     % Change
   การค้ารวม          15.336           11.345          35.18
   การส่งออก           7.146            5.017          42.43
   การนำเข้า            8.19            6.328          29.42
   ดุลการค้า           -1.044           -1.311         -20.36
          1.1  ปริมาณการค้า
          ปริมาณการค้ารวมเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ 2553 มีมูลค่า 15.336 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.18 จาก 11.345 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะเดียวกันของปี 2552 โดยเป็นการส่งออก  7.146 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ นำเข้า 8.190 พันล้านเหรียญสหรัฐ
          สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีปริมาณการค้ารวม 7.469 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.23 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2552  ส่วนมูลค่าส่งออกและนำเข้าเดือนกุมภาพันธ์ 2553 เท่ากับ 3.566 และ 3.903 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
          1.2 การส่งออก
          ในช่วงเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2553 ฟิลิปปินส์ส่งออกมูลค่า 7.146 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.43 จาก 5.017 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะเดียวกันของปี 2552
          สินค้าส่งออกที่สำคัญของฟิลิปปินส์ยังคงเป็นสินค้าอีเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการส่งออกรวม 4.105 พันล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57.44 ของมูลค่าส่งออกรวม) เพิ่มขึ้นจาก 2.696 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งออกได้ในระยะเดียวกันของปี 2552 คิดเป็นร้อยละ 52.28   สำหรับการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีมูลค่าการส่งออก 3.566 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาร้อยละ 42.32 โดยที่สินค้าอีเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาร้อยละ 53.35 เนื่องจากความต้องการของตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งมีมูลค่าส่งออกมากเป็นลำดับสอง ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.03 และสินค้าในกลุ่มสินค้าเกษตรเดือนนี้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.24 เช่น น้ำมันมะพร้าวส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 96.02  ผักและผลไม้ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.71 ตั้งแต่มกราคม - กุมภาพันธ์ 2553 ตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของฟิลิปปินส์เปลี่ยนจากสหรัฐฯ เป็นญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 16.89 ลำดับที่สองได้แก่สหรัฐฯ มีสัดส่วนร้อยละ 16.49 ลำดับต่อมาได้แก่ สิงคโปร์ จีนและเยอรมันนี มีสัดส่วนร้อยละ 9.46, 8.30 และ 8.26 ตามลำดับ
          1.3  การนำเข้า
          ในช่วงเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2553 การนำเข้าของฟิลิปปินส์มีมูลค่า 8.190 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.42 จาก 6.328 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา
          สินค้านำเข้าอันดับหนึ่งคือ สินค้าอีเล็กทรอนิกส์ นำเข้ามูลค่า 2.770 พันล้านเหรียญสหรัฐ (มีสัดส่วนร้อยละ 33.82 ของการนำเข้ารวม) นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.43 จากปีที่ผ่านมาซึ่งนำเข้า 2.379 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลำดับที่สองได้แก่น้ำมันเชื้อเพลิง นำเข้ามูลค่า 1.336 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.81 จาก 0.906 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีการนำเข้า 3.903 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาร้อยละ 27.61 โดยนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.72 ที่สำคัญได้แก่ อุปกรณ์ด้านการขนส่งทางบก เพิ่มขึ้นร้อยละ 121.10 ลำดับต่อมาได้แก่ อุปกรณ์ทางด้านโทรคมนาคมและไฟฟ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.9 สินค้าเกษตรที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นได้แก่ สินค้าประมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 180.0 และสินค้าข้าวนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 111.20 และน้ำมันเชื้อเพลิงนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.11 ทั้งนี้เพราะราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดูไบมีราคาเฉลี่ยที่บาร์เรลละ 74.47 เหรียญสหรัฐฯ
          1.4  ดุลการค้า
          ตั้งแต่มกราคม — กุมภาพันธ์ 255 ฟิลิปปินส์มีการนำเข้ามากกว่าการส่งออกทำให้มีการขาดดุล 1.044 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่ขาดดุล 1.311 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 20.36

          1.5. ประเทศคู่ค้าสำคัญของฟิลิปปินส์
          คู่ค้าที่สำคัญของฟิลิปปินส์ในเดือนนี้ ญี่ปุ่นเลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.48 ส่วนสหรัฐอเมริกาเลื่อนลงมาเป็นอันดับสองมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.24 ส่วนอันดับที่3, 4และ5 ได้แก่ สิงคโปร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน และเกาหลีใต้  ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 10.16, 8.28 และ 6.22 ตามลำดับ สำหรับประเทศไทยเลื่อนขึ้นมาจากลำดับที่ 9 เป็น 7 โดยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 5.20


2. การค้าระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา
                                                 มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ
                            ม.ค.—ก.พ.53     ม.ค.-ก.พ.52      % Change
การค้ารวม                      1,056.4          591.7           78.54
ไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์                715.3          402.4           77.74
ไทยนำเข้าจากฟิลิปปินส์               341.1          189.3           80.19
ดุลการค้า                         374.2          213.1           75.60

2.1 ปริมาณการค้า

ปริมาณการค้าระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2553 มีมูลค่า 1,056.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.54 จาก 591.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะเดียวกันของปี 2552 โดยเป็นการส่งออก 715.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 341.1 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีปริมาณการค้ารวม 572.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 96.77 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ส่วนการส่งออกและนำเข้าเดือนนี้มีมูลค่า 383.0 และ 189.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ

2.2 การส่งออก

ในช่วงเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2553 ไทยส่งสินค้าออกไปฟิลิปปินส์เป็นมูลค่า 715.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.74 จาก 402.4 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552 เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าสินค้าไทยส่งไปฟิลิปปินส์กับมูลค่าที่ฟิลิปปินส์นำเข้าจากทุกประเทศ คิดเป็นร้อยละ 8.73

สินค้าไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ อันดับแรกได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่า 167.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นร้อยละ 23.47 ของมูลค่าการส่งออกรวมจากไทยไปฟิลิปปินส์) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 103.59 ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ลำดับที่สองคือสินค้าข้าวมีมูลค่าส่งออก 100.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งออกได้เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 2,139.37 เนื่องจากผู้ส่งออกไทยสามารถประมูลขายข้าวให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ลำดับที่สามคือแผงวงจรไฟฟ้า มีมูลค่าส่งออก 58.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นร้อยละ 8.22 ของมูลค่าการส่งออกรวม) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 96.84

2.3 การนำเข้า

ในช่วงเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2553 ไทยนำเข้าจากฟิลิปปินส์มูลค่า 341.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.19 จากระยะเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งนำเข้ามูลค่า 189.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าสินค้าที่ฟิลิปปินส์ส่งมายังไทยคิดเป็นร้อยละ 4.77 ของมูลค่าส่งออกรวมของฟิลิปปินส์

สินค้านำเข้าจากฟิลิปปินส์ที่สำคัญอันดับแรกคือ แผงวงจรไฟฟ้ามีมูลค่า 61.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นร้อยละ 17.95 ของมูลค่านำเข้ารวม) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งนำเข้ามูลค่า 35.0 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 74.75 ลำดับที่สองได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ นำเข้าเป็นมูลค่า 59.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นร้อยละ 17.49 ของมูลค่านำเข้ารวม) เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งนำเข้ามูลค่า 23.8 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 150.86

2.4 ดุลการค้า

เนื่องจากไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์มากกว่านำเข้าสินค้าจากฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือนมกราคม — กุมภาพันธ์ 2553 ฟิลิปปินส์ขาดดุลการค้ากับไทยเป็นมูลค่า 374.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขาดดุลสูงกว่าระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ขาดดุล 213.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 75.60

3. การคาดการณ์ภาวะการค้า

ผู้ประกอบการในทุกภาคส่วนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เริ่มฟื้นตัว โดยที่การส่งออกของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ มีเงินที่ส่งมาจากแรงงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจะกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และประกอบกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะมาแทนประธานาธิบดีอโรโย ที่ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการได้แก่สมาชิกสภาอาคิโน ซึ่งเป็นที่พอใจแก่ประชาชนส่วนใหญ่ และค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รัฐบาลที่ดีมีความซื่อสัตย์ และจะนำพาประเทศและประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้าน The Export Development Council ได้ประมาณการส่งออกปี 2010 นี้ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศ คาดว่าปี 2010 จะส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 ซึ่งจะส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้าที่เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้นด้วย สำหรับสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกไปฟิลิปปินส์ได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา

http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ