สหรัฐอเมริกาจะออกกฎหมายควบคุมการนำเข้าสิ่งทอจากต่างประเทศ

ในระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา มีโรงงานสิ่งทอและปั่นด้าย ปิดตัวไปกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศสหรัฐฯ เป็นผลก่อให้เกิดการว่างงานไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน เนื่องมากจาก (1) การทำการค้าแบบหลีกเลี่ยงกฎหมายหรือใช้ช่องว่างของกฎหมายสหรัฐฯ (2) การลักลอบส่งสินค้าสิ่งทอเข้ามายังสหรัฐฯ โดยใช้สิทธิ์ความตกลงการค้าเสรี CAFTA : Central America Free Trade Agreement และ (2) การขาดกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดของสหรัฐฯ จึงเป็นผลเสียหายต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอของสหรัฐฯ ซึ่งนับวันจะลดความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศลงเป็นลำดับ

ปัญหาด้านฉ้อฉล ปลอมแปลง และ ลักลอบในเรื่องสิ่งทอ เป็นปัญหาใหญ่ของ อุตสาหกรรมสิ่งทอสหรัฐฯ การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องพึ่งกฎหมายเข้ามาคุ้มครอง และเพื่อกอบกู้อุตสาหกรรมสิ่งทอสหรัฐฯ สมาชิกสภาผู้แทนฯ จำนวน 4 คน คือ Larry Kissell (D-NC), Walter Jones (R-NC), John Spratt (D-SC) และ Howard Coble (R-NC) ร่วมกันเสนอพระราชบัญญัติ The Textile Enforcement and Security Act of 2010 หรือ HR. 5393 ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา และเรื่องอยู่ในการพิจารณาของกรรมาธิการ House Ways & Means, Subcommittee

ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายฉบับแรกที่มีบทบังคับเฉพาะเรื่องสิ่งทอนำเข้าเท่านั้น และจะให้อำนาจ Homeland Security and Justice Department กำกับดูแลอุตสาหกรรมสิ่งทอในสหรัฐฯ ร่างพรบ.ฉบับนี้ มีจุดประสงค์เพื่อขจัดปัญหาการลักลอบนำเข้าสิ่งทอ และ เสริมสร้างศักยภาพให้แก่อุตสาหกรรมสิ่งทอสหรัฐฯ ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดการค้าโลก

กฎหมาย The Textile Enforcement and Security Act of 2010 มีสาระสำคัญและน่าสนใจ ได้แก่

1. เพิ่มอำนาจการสืบสวนและการลงโทษผู้กระทำผิด แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. การอนุญาตให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ/ดูแล นำเงินค่าปรับหรือที่ยึดมาได้ไปใช้เพื่อ การสอบสวนผู้กระทำผิด หรือ นำไปเป็นรางวัลแก่ผู้ที่ชี้เบาะแสในการจับกุมผู้กระทำผิด

3. การจัดทำโปรแกรมการติดตามและตรวจสอบสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปนำเข้า แบบอิเลคทรอนิก (Electronic Verification of Textiles and Apparel Imports)

4. การจัดตั้ง A Non-resident Declaration Program เพื่อเป็นหลักค้ำประกันว่า Resident Agents (บุคคลในสหรัฐฯที่ผู้ประกอบการในต่างประเทศมอบหมายให้เป็นตัวแทนดำเนินการในสหรัฐฯ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า Registered Agent) จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อสินค้าสิ่งทอที่เป็นผู้นำเข้ามายังสหรัฐฯ

5. ผู้นำเข้าที่กระทำความผิดในเรื่อง Undervalued Transaction สินค้าสิ่งทอ ผู้ที่ เกี่ยวข้องในด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) สินค้า ซึ่งรวมไปถึงโรงงานผลิต ผู้ส่งออก หรือ บริษัทการค้า ในต่างประเทศ จะต้องร่วมกันรับความผิด และได้รับการลงโทษด้วยการปรับเป็นเงิน

1. กฎหมายฉบับนี้มุ่งเข้มงวดสินค้าสิ่งทอนำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งมีการลักลอบ นำเข้ามายังสหรัฐฯ จำนวนมาก

2. กฎหมายฉบับนี้มุ่งแก้ไขปัญหา Illegal Shipment และปิดรูโหว่ของการปฏิบัติต่อ สินค้าสิ่งทอนำเข้าไปยังสหรัฐฯ และจะเป็นเครื่องมือสำคัญของศุลกากรสหรัฐฯ ในดำเนินการจับกุมสินค้าสิ่งทอลักลอบ และลงโทษผู้กระทำผิด

3. พรบ.ฉบับนี้ได้รับความสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในระหว่าง สมาชิกสภาผู้แทนฯ ซึ่งมีทั้งผู้ให้การสนับสนุนและต่อต้าน ปัจจุบัน สมาชิกสภาผู้แทนฯ มีจำนวนกว่า 24 คนให้การสนับสนุน นอกจากนั้น สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าสิ่งทอ ได้แก่ สมาคม National Council of Textile Organizations สมาคม American Manufacturing Trade Action Coalition สมาคม National Textile Association, the American Fiber Manufacturers Associations, Inc. และสมาคม National Cotton Council of America ให้การสนับสนับพรบ.ฉบับนี้

4. หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับทางกฎหมาย จะช่วยในการขยายตัวอุตสาหกรรม สิ่งทอและเพิ่มการจ้างงานในสหรัฐฯ หรือในทางกลับกัน จะส่งผลกระทบต่อการลดการนำเข้าสิ่งทอของสหรัฐฯ จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน และ กลุ่มประเทศอเมริกากลาง

ที่มา: http://www.depthai.go.th