สเปน : ตลาดสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 10, 2010 16:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

  • จากภาวะฟองสบู่แตกและการล่มสลายของตลาดทีอยู่อาศัยในช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในสเปน ส่งผลให้ยอดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงติดต่อกันเป็นปีทีสอง โดยตลาดเครื่องปรับอากาศทุกชนิดล้วนแต่หดตัวลงทั้งสิน โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศแบบหน้าต่างมียอดจำหน่ายลดลงมากทีสุด ส่งผลให้มูลค่าการตลาดโดยรวมในปี 2552 ลดลงร้อยละ 7 หรือคิดเป็นมูลค่า 378 ล้านยูโร แต่หากคิดเป็นปริมาณจะลดลงร้อยละ 6 อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดจะสามารถกลับมาฟืนตัวได้ในปี 2554 เนืองจากสภาวะเศรษฐกิจตลอดปี 2553 ยังชะลอตัวอย่างต่อเนือง
  • ความต้องการภายในประเทศที่ถดถอย ผนวกกับความเข้มงวดในการให้สินเชื่อ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวของตลาด
  • ระดับราคาจำหน่ายสินค้าเฉลียต่อหน่วยไม่มีการเปลียนแปลง
  • บริษัท Daikin AC Spain SA เป็นผู้นำของตลาด โดยครองสัดส่วนร้อยละ 7 จากปริมาณการจำหน่ายในปี 2552
แนวโน้ม

การหดตัวของตลาดทีอยู่อาศัยได้ส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันเนืองมาจากความเข้มงวดในการให้สินเชื่อและภาวะวิกฤติเศรษฐกิจทีเลวร้ายทีสุดในรอบหลายสิบปีทีผ่านมา ในปี 2552 มียอดจำหน่ายหดตัวอย่างต่อเนืองจากปี 2551 ในอัตราที่ชะลอตัวลง หรือคิดเป็นร้อยละ 6

อัตราการว่างงานในสเปนทีพุ่งสูงขึนถึงระดับร้อยละ 19 ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องระงับการนำเงินออมออกมาซือหาสินค้าอุปกรณ์เครืองปรับสภาพอากาศ เฉพาะยอดจำหน่ายเครืองปรับอากาศเพียงอย่างเดียวในปี 2552 หดตัวลงร้อยละ 8 ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศแบบหน้าต่าง

หรือแบบแยกส่วน ต่างก็ได้รับผลกระทบต่อเนืองมาจากอุตสาหกรรมการก่อสร้างและความต้องการทีลดลง ทังนี เครืองปรับอากาศแบบหน้าต่างที่ถือว่าเป็นแบบโบราณและมีเสียงดังมีปริมาณการจำหน่ายลดลงถึงร้อยละ 10 ส่วนแบบแยกส่วนทีมีการทำงานทีทันสมัยกว่าลดลงร้อยละ 8

ถึงแม้ว่าสภาพอากาศทีสูงกว่าปกติในช่วงหน้าร้อนของปี 2552 ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญทีจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดกลับมาคึกคักได้ ซึงโดยธรรมชาติสินค้าประเภทนีจะสามารถทำยอดจำหน่ายได้ดีในช่วงฤดูร้อนในช่วงภาวะปกติ

นอกจากนัน รัฐบาลสเปนได้ทำการรณรงค์มาอย่างต่อเนืองให้ประชาชนหันมาตระหนักในการปรับลดการใช้เครืองปรับอากาศลงเพือเป็นการประหยัดและลดการปล่อยคาร์บอนสู่สิงแวดล้อม โดยเริมจากออกกฎระเบียบให้อาคารสำนักงานทีทำการของภาครัฐรักษาระดับความเย็นทีระดับไม่ตำกว่า 24 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อน และต่อมาในปี 2552 ก็รณรงค์ให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจปฏิบัติตามในแนวทางเดียวกันเพือพยายามลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน

จากราคาพลังงานทีพุ่งขึนในปี 2551 ถือเป็นตัวกระตุ้นให้ภาคครัวเรือนหันมาใส่ใจกับการควบคุมการใช้พลังงานยิงขึน โดยไม่เพียงแต่หวังว่าจะช่วยรักษาสิงแวดล้อมเท่านัน แต่เพือตัดรายจ่ายในยามวิกฤติเศรษฐกิจด้วย เหตุเหล่านีก็ยิงซำเติมทำให้ความต้องการสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศในตลาดลดลงไปอีกด้วย

ในภาคตะวันออกและภาคใต้ของสเปน หรือทีเรียกว่าเป็นเขตชายฝังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแคว้นอันดาลูเซียนัน เป็นเขตทีมีการใช้เครื่องปรับอากาศจำนวนมากทีสุด เพราะพื้นที่บริเวณนีมีสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะเมืองเซบิญ่า มีประชากรทีต้องพึงพาเครืองปรับอากาศเกินกว่าร้อยละ 50

ขณะที่ยอดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศหดตัวลงร้อยละ 8 ในปี 2552 แต่พัดลมตังโต๊ะกลับเป็นสินค้าประเภทเดียวของกลุ่มที่ขยายตัวได้ ถึงแม้ว่าจะมีสัดส่วนในตลาดเพียงร้อยละ 10 ของกลุ่มสินค้าพัดลมทำความเย็นโดยรวมก็ตาม

ถัดมาจากหมวดสินค้าเครืองปรับอากาศทีมีสัดส่วนมูลค่าสูงที่สุดของตลาดแล้ว สินค้าเครืองลดความชื้นของอากาศ (Dehumidifiers) ถือเป็นตลาดที่มีขนาดรองลงมา ถึงแม้จะมีสัดส่วนเพียงแค่ร้อยละ 9 ของตลาดโดยรวม

ช่องทางการจำหน่ายสำหรับสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศที่สำคัญที่สุดคือ ร้านค้าปลีกอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 72 เมือคำนวณจากปริมาณทีจำหน่าย รองลงมาได้แก่ไฮเปอร์มาร์เก็ต มีสัดส่วนร้อยละ 9 ขณะทีห้างสรรพสินค้ากลับสูญเสียส่วนแบ่งอย่างต่อเนือง เหลือเพียงร้อยละ 4 เท่านันในปี 2552

การแข่งขัน

สินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศมีความหลากหลายมาก และมีสินค้าภายใต้ตราสินค้าส่วนตัวและไม่มีตราสินค้าจำนวนมาก แต่มีผู้นำการตลาดขนาดใหญ่ทังสิน 5 บริษัท ซึงล้วนแต่เป็นผู้ผลิตเครืองปรับอากาศทีมีสัดส่วนการตลาดรวมกันร้อยละ 24 ของยอดจำหน่ายในตลาด

บริษัท Daikin AC Spain SA เป็นผู้จำหน่ายอันดับหนึ่งมาตลอดระยะเวลา 7 ปี ครองส่วนแบ่งปริมาณการจำหน่ายกว่าร้อยละ 7 โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมือเทียบกับปีทีผ่านมา ในปี 2552 บริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ทีทันสมัยมากขึนโดยใช้ชือว่ารุ่น Emura ทีพัฒนารูปแบบโดยใช้อลูมิเนียมและใช้เทคโนโลยี invertir ซึงจะช่วยให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์อืนๆเพิมขึนร้อยละ 50

สินค้าที่ใช้ตราสินค้าส่วนตัว (Private Label) กำลังสูญเสียตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ทีใช้ตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย แต่กระนันก็ยังมีสัดส่วนปริมาณการจำหน่ายร้อยละ 6 ในปี 2552

หากไม่นับสินค้าที่ใช้ตราสินค้าส่วนตัว บริษัท Electrodom"stico Taurus SL เป็นผู้นำของตลาดในลำดับที่สอง ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5 ลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา บริษัทจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศทุกประเภท และมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เครืองปรับอากาศและพัดลมทำความเย็น

หมวดสินค้าพัดลมทำความเย็นก็มีความหลากหลายและมีคุณลักษณะทีอ่อนไหวต่อระดับราคาทีจำหน่ายในตลาด ซึงสินค้าทีไม่มีตราสินค้า (Non branded products) เป็นผู้ครองตลาดมากทีสุด ส่วนสินค้าทีมีตราสินค้า บริษัท SEB Ib"rica SA, Electrodom"sticos Taurus SL และ Soler y Palau SA (S&P) เป็นผู้มีส่วนแบ่งการตลาดมากทีสุดตามลำดับ โดยรวมสัดส่วนกันได้ร้อยละ 27 ของตลาดโดยรวม

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีได้รับการพัฒนาใหม่ล่าสุดประจำปี 2552 เน้นการออกแบบและการประหยัดพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญทีสุด นอกจากนันเทคโนโลยีเกียวกับการเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตก็เป็นสิงทีผู้บริโภคให้ความสนใจ ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2552 Samsung ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครืองปรับอากาศรุ่นใหม่ทีใช้เทคโนโลยีทีเรียกว่า "Good Sleep II" ทีสามารถปรับตังโปรแกรมรักษาระดับอุณหภูมิและความชืนทีจะช่วยให้มีการหลับพักผ่อนทีดีขึน โดยมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้าทีเป็นโรคนอนไม่หลับและผู้ทีเป็นโรคผิวหนัง โดยอ้างว่าจะช่วยเพิมประสิทธิภาพในการนอนขึนร้อยละ 10 เมือเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง

ส่วนบริษัท Daisu ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครืองปรับอากาศรุ่น D-design ทีมีรูปลักษณ์หรูหราและมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยการสร้างไอออนลบและรังสี UV ขณะเดียวกันก็ช่วยกรองเชือแบคทีเรียด้วย

บริษัท Fagor Electrocom"sticos S Coop ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายชนิดทีใช้เทคโนโลยี DC inverer ทีอ้างว่าจะช่วยประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นเดิมๆ

คู่แข่งหน้าใหม่ทีจะเข้ามาในตลาด ได้แก่ บริษัท Beko Electronics Espa-a SL ทีมีแผนจะเริมเจาะตลาดในปี 2553

โอกาส

จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอนาคตที่ยังคลุมเครือ เชื่อว่าตลาดจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยคาดว่ายังมีผลกระทบด้านลบอย่างต่อเนืองในปี 2553 และจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในปี 2554

สินค้าเครื่องปรับอากาศคาดว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญและจะแซงหน้าผลิตภัณฑ์อื่นๆในกลุ่มเดียวกัน เมื่อใดที่ภาวะเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น เครื่องปรับอากาศจะมีพลวัตทีมีอัตราการเติบโตมากที่สุด

กระแสการตื่นตัวเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิต จะเป็นตัวกำหนดแนวทางการพัฒนาสินค้าในอนาคต ซึ่งผู้ผลิตรายใหญ่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง แต่ทังนี ยังไม่เป็นทีแน่ชัดว่าจะมีผลต่อผู้บริโภคชาวสเปนในการเลือกซือสินค้ามากเพียงใด นอกจากนัน รูปแบบและการออกแบบก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายในกลุ่มสินค้าระดับบน แต่ภาวะเศรษฐกิจทีไม่ค่อยอำนวยในปัจจุบัน น่าจะเป็นโอกาสของสินค้าทีมีลักษณะพื้นๆ มีราคาไม่แพง และใช้งานได้

ในกลุ่มสินค้าเครืองใช้ไฟฟ้าด้วยกันแล้ว สินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศถือว่ามีความแตกต่างกันสูงมากในกลุ่มผู้บริโภคระหว่างระดับบนและระดับล่าง ดังนัน ขีดความสามารถในการแข่งขันในทั้งสองตลาดร่วมกันถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

ความต้องการตามฤดูกาลสำหรับสินค้าอุปกรณ์ปรับสภาพอากาศคาดว่าจะปรับตัวลงในปีต่อๆไป ถึงแม้ว่าช่วงจำหน่ายดีที่สุดจะยังคงอยู่ในฤดูร้อนก็ตาม ความแพร่หลายจากการใช้ Heat pump ในเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนซึ่งเป็นแบบที่ครองสัดส่วนมูลค่าการตลาดถึงร้อยละ 95 และการให้ความสำคัญกับคุณภาพการบำบัดสภาพอากาศ จะสามารถใช้เป็นตัวเร่งยอดการจำหน่ายได้

การส่งออกของไทย

ในช่วงประมาณเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2551 สินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ถือเป็นสินค้าทีมีมูลค่าการส่งออกของไทยสูงที่สุดในตลาดสเปน และเคยมีสัดส่วนการส่งออกสูงเกินกว่าร้อยละ 30 แต่จากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในช่วงสองปีทีผ่านมาส่งผลให้มูลค่าการส่งออกปรับตัวลดลงถึงร้อยละ -38.79 และ -55.72 ในปี 2551 และ 2552 ตามลำดับ จนถูกสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปแซงขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งแทน แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นของปี 2553 สินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ สามารถกลับมามีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดได้เช่นเดิม โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2553 มียอดการส่งออก 69.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีสัดส่วนการส่งออก 20.65 และเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 102

สเปน ถือเป็นตลาดสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบที่สำคัญในลำดับต้นๆ ของไทย โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีทีผ่านมา สเปนมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ซึ่งในสมัยก่อนประชาชนไม่มีการใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงฤดูร้อนที่ยาวนานประมาณ 3 เดือนต่อปี กอปรกับการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างในอัตราเร่ง จึงทำให้มีความต้องการสินค้าเครื่องปรับอากาศในตลาดสูง โดยสินค้าของไทยส่วนมากเป็นการรับจ้างผลิตทีไม่มีตราสินค้าของตนเอง และอีกส่วนหนึ่งเป็นการส่งออกชิ้นส่วน ส่วนประกอบ และอะไหล่ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้บริโภคระดับกลางถึงล่าง ที่ไม่ต้องการสินค้าทีมีความหวือหวามากนักและที่สำคัญมีระดับราคาและคุณภาพเป็นทียอมรับได้

จากสภาวะทางเศรษฐกิจที่เริ่มกระเตื้องขึ้นบ้างในปี 2553 แต่ยังมีอัตราการว่างงานสูง ทำให้ผู้บริโภคยังคงต้องระมัดระวังควบคุมการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็เริมมีความคุ้นเคยกับการรัดเข็มขัดในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมาที่มักจะเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงราคาเป็นปัจจัยแรก ซึ่งสินค้าไทยถือว่าตรงกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และเชื่อว่าจะสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี 2553 ตลอดจนปี 2554 ที่ภาวะเศรษฐกิจของสเปนจะเริ่มฟื้นตัวอย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยด้านลบที่อาจจะส่งผลกระทบและพึ่งติดตาม พอสรุปได้ดังนี

1) สถานการณ์ภาวะหนีกรีซทีส่งผลกระทบไปทัวทังสหภาพยุโรป เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลจำต้องออกมาตรการรัดเข็มขัดปรับลดรายจ่ายของภาครัฐจำนวนมหาศาลซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนโดยรวม

2) ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ทำให้สินค้าจากต่างประเทศจะแพงขึ้นสำหรับผู้บริโภค

3) รัฐบาลกำหนดเพิมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 16 เป็นร้อยละ 18 ตังแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553

4) อัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงมาก แต่คาดว่าจะปรับตัวดีขึนในช่วงหลังของปี 2553

5) การเริ่มฟื้นตัวในช่วงต้นปี 2553 ของตลาดที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีผลโดยตรงกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาจชะงักลงอีกจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ภาวะลุกลามของวิกฤติหนีกรีซ และความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกภายหลังภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ