สถานการณ์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในตลาดเยอรมนี เดือนพฤษภาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 14, 2010 15:01 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์

จากการที่ผลผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเยอรมนีมีความหลากหลายประกอบด้วยสินค้าประเภททุนร้อยละ 76 สินค้าขั้นปฐม (ชิ้นส่วน แผงวงจรไฟฟ้า) ร้อยละ 12 และเครื่องใช้ต่างๆ ในครัวเรือน ร้อยละ 12 ทำให้ผลกระทบจากการขยายตัวในอัตราลบ ลดลงราวร้อยละ 20 ในปี 2552 ที่ผ่านมาไม่รุนแรงเหมือนกับอุตสาหกรรมแขนงอื่นๆ สำหรับปี 2553 นี้คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3 — 4 โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2553 นี้ การผลิตในประเทศมีอัตราขยายตัวร้อยละ 1 — 2 และการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เป็นผลจากความต้องการสั่งซื้อสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย ที่ขยายการผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น

สินค้าส่งออกของไทย

การส่งออกสินค้ารายการของไทยนี้ ในช่วง 3 เดือนแรกปี 2553 (ม.ค.-มี.ค.)สามารถส่งออกได้เพิ่มมากขึ้นเกือบทุกรายการ ยกเว้น ชิ้นส่วน ส่วนประกอบเครื่องอิเลคทรอนิกส์ที่มีมูลค่าลดลง เนื่องจาก เป็นสินค้าประเภทวัตถุดิบ ที่แนวโน้มโดยรวมสินค้ามีราคาตกต่ำลง ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยรายการเหล่านี้ลดน้อยลงด้วยสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมูลค่าการส่งออกมากยังคงเป็นเครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบ มูลค่า 23.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 91.0 เครื่องวีดีโอ ส่งออกมูลค่า 5.0 เพิ่มขึ้นร้อยละ 251.7 สำหรับเครื่องอิเลคทรอนิกส์ มีการส่งออกโดยรวมเป็นมูลค่า 191.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.1 สินค้าสำคัญๆ ในรายการนี้ ได้แก่ส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น แผ่นฮาร์ดิสค์ ส่งออกเป็นมูลค่า 128.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 แผงวงจรไฟฟ้า ส่งออกเป็นมูลค่า 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.4 วงจรพิมพ์ ส่งออกเป็นมูลค่า 15.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.0

แหล่งนำเข้าอื่นๆ ที่สำคัญของของเยอรมนี ได้แก่ จีน (ส่วนตลาด 14%) เนเธอร์แลนด์ (ส่วนตลาด 10%) โปแลนด์ (ส่วนตลาด 7%) และสหรัฐอเมริกา (ส่วนตลาด 6%) เป็นต้น สำหรับประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.5

ปัญหาอุปสรรค

1. สินค้าส่งออกของไทยเป็นผลผลิตของบริษัทข้ามชาติ (ญี่ปุ่น สหรัฐฯ)

2. นโยบายการตลาด การส่งออกมากน้อยเพียงใด จะเป็นไปตามนโยบายของบริษัทข้ามชาติเหล่านี้

3. สินค้าที่ผลิตในไทยจะมีการผลิตในประเทศอื่นๆ ในเอเชียด้วย เช่น มาเลเชีย ฟิลิปปินส์ จีน

4. ประเทศไทยยังไม่มีความสามารถในการผลิตประเภท High tech, high end เหล่านี้

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ