เลขานุการของ GCC (the Cooperation Council for the Arab States of the Gulf) Mr. Abdurahman Al-Attiyah ให้ความเห็นเกี่ยวกับการใช้เงินตราสกุลเดียวกันของสมาชิกในกลุ่มว่า ไม่น่าที่จะเริ่มใช้ได้กอนปี 2015 (พ.ศ. 2558) เนื่องจากปัญหาความยุงยาก และความซับซ้อนทางด้านกฎหมาย รวมทั้งทางด้านเทคนิคต่างๆ เมื่อปีที่แล้ว GCC ได้เลื่อนกำหนดที่จะเริมใช้ธนบัตรและเหรียญสกุลเดียวกัน ในกลุ่มประเทศสมาชิก GCC ออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งตามแผนการเดิมกาหนดไว้ว่าจะเริมใช้เงินตราสกุลใหมในวันที่ 1 มกราคม 2553 ประเทศสมาชิก GCC ทังสี่ประเทศ ซึ่งสนับสนุนการดำเนินการ Monetary Union ได้แก ซาอุดีอาระเบีย คูเวต กาตาร์ และบาห์เรน ภายใต้ Joint Monetary Union Council (องค์กรชัวคราว กอนการจัดตัง้ GCC Central Bank) ได้มีการประชุมเมื่อเดือนมีนาคม 2553 ถึงเรื่องดังกลาว แต่ไมมีการเปิดเผยถึงรายละเอียด ตางๆ และ Roadmap ที่มีการหารือในการประชุมฯ ในการดำเนินการเพื่อการใช้เงินตราสกุลเดียวกัน
สำหรับประเทศสมาชิก GCC ที่เหลืออีกสองประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และโอมาน อาจจะเข้ารวมการใช้เงินสกุลเดียวกัน หลังจากที่ประเทศอื่นๆ ได้เริมใช้เงินสกุลใหมแล้วในภายหลัง ทังนี้ทังสองประเทศมิได้คัดค้าน หรือปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้สกุลเงินรวมกน และมีการสั่งเจ้าหน้าที่เข้ารวมเป็นคณะทำงานทางด้านเทคนิคในด้านตางๆ รวมกบเจ้าหน้าที่จากอีก 4 ประเทศด้วย
นักวิชาการทางด้านการเงิน มีความเห็นวา Gulf Monetary Union จะเกิดขึ้นได้ และประสบความสำเร็จ ก็ต่อเมื่อสมาชิกใน GCC ทุกประเทศ เข้าร่วมดำเนินการด้วย การที่ UAE ถอนตัวเนื่องจากความไมพอใจที่มีการกาหนดให้ GCC Central Bank ตังอยูที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อให้เกิดความกังขาว่าการจัดตั้ง Gulf Monetary Union จะประสบผลหรือไม่ ในด้านของตัวเลข และความเป็นผู้นำในภูมิภาค ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศที่ระบบทางเศรษฐกิจใหญที่สุดในกลุ่ม GCC กล่าวคือใหญ่เป็นสองเท่าของ UAE และมีปริมาณน้ำมันมากกวาถึง 4 เทา ซาอุฯ เป็นสมาชิกของกลุม G-20 เป็นผู้ถือพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญที่สุดเป็นอันดับที่สาม รองจากญึ่ปุ่น และจีน รวมทั่งเป็นผู้ส่งน้ำมันดิบรายใหญไปสหรัฐฯ (วันละเกือบ 1 ล้านบาร์เรล) อย่างไรก็ตาม ในแง่ของนักธุรกิจชาวตะวันตก คนกลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกบโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการเงินของ UAE มากกวา ผู้บริหารของธนาคารต่างๆ หวันเกรงกับปัญหาความยุ่งยากในการขอวีซ่า เดินทางเข้าสู่ซาอุดิอาระเบีย เพื่อติดตอกบธนาคารกลางที่จะตังขึนที้กรุงริยาด
GCC (the Cooperation Council for the Arab States of the Gulf) กอตังขึนเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2524 (1981) ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศในคาบสมุทรอาหรับ ได้แก ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรต บาห์เรน คูเวต โอมาน และกาตาร์ ประเทศเยเมนได้สมัครเข้าเป็นเป็นสมาชิก GCC ตังแตปี 2539 แต่ได้รับความเห็นชอบจากการประชุมสุดยอดของกลุมสมาชิกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ที่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน มีมติให้เยเมนเป็นสมาชิกสมทบ
GCC มีเป้าหมายในการพัฒนาเป็นกลุมตลาดเชนเดียวกบสหภาพยุโรป กลุม GCC ได้มีมติรวมโดยสมาชิก 6 ประเทศ จากการประชุมสุดยอดครังที่ 23 ที่กรุงโดฮา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2545 ให้มีการจัดตังสหภาพศุลกากร (Customs Union) ให้เสร็จสินอยางช้าภายในปี 2550 โดยกาหนดอัตราภาษีศุลกากรรวมจากประเทศอื่นๆ ร้อยละ 5 ยกเว้นเกบภาษีนำเข้าระหวางประเทศสมาชิก นอกจากนียังได้ตังเป้าหมายจัดตังสหภาพทางการเงิน ใช้เงินตราสกุลเดียวกนั (Monetary Union) ในวันที่ 1 มกราคม 2553 (2010) แตจากปัญหาความลาช้าในการดำเนินการหลายอยาง่ GCC ได้มอบหมายให้ Monetary Union Council ที่จะตังขึนมาใหม เป็นผู้กาหนดเวลาที่จะเริมใช้เงินสกุลเดียวกน้ ปัจจุบันสมาชิก GCC ทุกประเทศ ยกเว้นคูเวต ผูกคาเงินของตนเองไว้กบเงินเหรียญสหรัฐฯ มีเพียงคูเวตที่ผูกคาเงิน ไว้กบระบบตะกร้าเงิน (Currency Basket)
GCC เป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญ และมีศักยภาพสูงในการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย การใช้เงินตราสกุลเดียวกนในภูมิภาคนี นาจะกอให้เกดผลในด้านบวก ตอการค้าระหวาง่ ไทยและประเทศสมาชิกฯ อยางไรกตาม การดำเนินการดังกลาว จนกระทังปัจจุบัน ยังไมมีการกาหนดเส้นตายอยางแนชัดวาจะเริมใช้เงินสกุลเดียวกนเมื่อใด จึงมีความจำเป็นที่ฝ่ายไทยต้องติดตามเรื่อง่ดังกลาวอยางใกล้ชิด รวมทังเผยแพรข้อมูลให้ผู้ประกอบการไทยได้ทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมตอไป่ ในปี 2553 (มค.-เมย.) ประเทศไทยและ GCC มีมูลคาการค้าระหวางกน 7,355.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ร้อยละ 6.39 ของมูลคาการค้าทังหมดของไทย) เป็นการนำเข้า 5,390.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสงออก 1,965.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าที่ไทยนำเข้าเกอบร้อยละ 80 คือนำมันดิบ สินค้าที่ไทยสงออกไป GCC ได้แก ยานยนต์และชินสวน เหล็กและผลิตภัณฑ์ และข้าว่ เครื่องปรับอากาศและชินสวน เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และชินสวน สารเคมีตางๆ รวมทังเครื่องประดับและอัญมณีสำนักงานสงเสริมการค้าระหวาง่ประเทศ ณ เมืองเจดดาห์
ที่มา: http://www.depthai.go.th