อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม (Textile) ของตุรกี มีจุดเด่นที่สำคัญทางด้านคุณภาพของวัตถุดิบ (สำลี) เส้นด้ายหนา สำหรับทอผ้าที่มีคุณภาพ มีพื้นที่ปลูกมากในเขตตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณ Gaziantep, Adana, Izmir Malatya และ Denizli เป็นต้น ซึ่งผลิตได้ประมาณ 1.89 ล้านตันต่อปี (ปี 2009) ฉะนั้นจึงเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ตุรกี สามารถรักษาฐานการผลิต รวมทั้งรับจ้างผลิต (OEM) สินค้าเครื่องนุ่งห่ม Home textile ในอันดับต้นๆ ของโลก
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการแข่งขันทางด้านราคาค่อนข้างสูง สินค้าเครื่องนุ่งห่มจากจีนซึ่งมีราคาต่ำ เข้ามามีส่วนแบ่งตลาดในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสินค้าหลักของตุรกี เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้รัฐบาล จึงจำเป็นต้องปรับนโยบายด้านการค้า สร้างความร่วมมือกับประเทศมุสลิมเพื่อนบ้านมากขึ้น
จากประเด็นดังกล่าว พบว่า ขณะนี้กลุ่มนักธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ โดยการนำของสภาผู้ผลิตสินค้าเครื่องนุ่งห่มแห่งคาบสมุทรอีเจียน ให้ความสนใจตลาดส่งออกในประเทศซีเรีย โดยนำคณะผู้ผลิต ผู้ส่งออกของตุรกี ไปจัดงานแสดงสินค้า “Istanbul Fashion Fair: IFF ระหว่างวันที่ 22-25 กรกฎาคม 2553 ณ เมือง Aleppo ประเทศซีเรีย มีทั้งสิ้น 60 บริษัท เข้าร่วมงาน (มีที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และได้รับการยอมรับว่าเป็น “เมืองหลวงใหม่แห่งการจัดงานแสดงสินค้า”)
สภาผู้ผลิตสินค้าเครื่องนุ่งห่มแห่งคาบสมุทรอีเจียน ได้มีการลงนามข้อตกลงด้านการค้า (FTA) กับซีเรีย ในการลดข้อจำกัดด้านเอกสารหนังสือเดินทาง และหวังที่จะใช้ตลาดซีเรียเป็นประตูสู่ประเทศในตะวันออกกลาง สำหรับส่งออกสินค้า Ready to Wear และเครื่องนุ่งห่ม ตบแต่งบ้าน ลดการพึ่งพาการส่งออกไปประเทศภาคพื้นยุโรป เนื่องจากตุรกี คาดว่า ผลกระทบของภาวะวิกฤตหนี้สินของกรีซ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ PIGS ได้แก่ โปตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี และสเปน อาจจะขยายวงกว้างและลุกลามไปยังระบบการเงินของยุโรปได้
ตุรกี ใช้นโยบายความเป็นประเทศมุสลิม สร้างความสัมพันธ์ทางด้านการค้ากับประเทศใกล้เคียงที่เป็นมุสลิมด้วยกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถเข้าสู่ตลาดในประเทศแถบตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสนำสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านไปยังยุโรปได้อีกด้วย โดยตุรกี ไม่มีข้อได้เปรียบทางด้านการแข่งขัน (Economy of Scale) แต่ก็สามารถสามารถสร้างความได้เปรียบในลักษณะกลุ่มตลาดสินค้าเจาะจง (Niche Market) ได้มากกว่าตลาดยุโรปในปัจจุบัน
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครอิสตันบูล
ที่มา: http://www.depthai.go.th