รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดทำร่างการบริหารจัดการยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโต ในระยะ 10 ปีข้างหน้า เพราะตระหนักดีว่าภูมิสถาปัตและเส้นแบ่งเขตแดนธุรกิจของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจโดยใช้ญี่ปุ่นเป็นฐานนั้น ไม่เพียงพอที่จะคงความได้เปรียบ และรักษาจุดแข็งหรืออำนาจการแข่งขันที่มี ให้คงอยู่ตลอดไปได้ จำเป็นต้องเร่งสร้างพันธมิตรใกล้ชิดกับประเทศคู่ค้า และผลักดัน SME ออกไปประกอบธุรกิจและเติบโตในต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเน้นสาขาธุรกิจใหม่ๆ ที่ญี่ปุ่นก้าวหน้ากว่าชาติอื่น ภายใต้ยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตนี้ ญี่ปุ่น ได้วางเป้าหมายและแผนงานไว้ ดังนี้
1. ตั้งเป้าหมายสรุปผลการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) กับออสเตรเลีย, สาธารณรัฐเกาหลีใต้ และ EU ภายในปี 2013 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ญี่ปุ่นได้รับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอื่นผ่านการจัดทำความตกลง FTA โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
อย่างไรก็ดี การเจรจาจัดทำ FTA กับบางประเทศที่มีสินค้าเกษตรเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้สร้างความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรญี่ปุ่น เนื่องจากสินค้าเกษตรนำเข้ามีราคาถูกลง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการเจรจา FTA ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ได้หยุดชะงักลงชั่วคราวเพราะความแตกต่างกันในมุมมองของการเจรจาสินค้าเกษตร สำหรับการเจรจาระหว่างญี่ปุ่นกับ EU ปัจจุบันยังไม่มีการตกลงที่จะเริ่มการหารือของกลุ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA ของทั้งสองฝ่าย
2. สนับสนุนให้ผู้หญิงกลับมาทำงานหลังการคลอดบุตร ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักอย่างหนึ่งในการสร้างงาน โดยรัฐบาลวางแผนที่จะจัดตั้งศูนย์เลี้ยงดูเด็กขึ้นมาใหม่ ภายในปี 2017 เพื่อสนับสนุนให้ผู้หญิงกลับมาทำงานได้หลังจากการคลอดบุตร นอกจากนี้ รัฐบาลยังวางแผนที่จะตั้งกระทรวงใหม่ ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2014 เพื่อดูแลกิจการครัวเรือนและเด็ก โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเพิ่มจำนวนผู้หญิงในกลุ่มผู้ทำงานอีก 1 ล้านคน และจะก่อให้เกิดรายได้มากกว่า 3 ล้านล้านเยน ภายในปี 2021
3. สนับสนุนให้บริษัทญี่ปุ่นเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการก่อสร้างโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ และทางรถไฟ การประหยัดพลังงาน และสิ่งแวดล้อม
4. ส่งเสริมการขายรถในยุคอนาคตซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายให้ยอดการขายรถดังกล่าวมีสัดส่วนสูงขึ้นเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถทั้งหมดของญี่ปุ่น ภายในปี 2020
5. รัฐบาลจะเพิ่มความสำคัญต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจภูมิภาคโดยวางแผนจะทำให้เมืองขนาดใหญ่ในแต่ละภูมิภาคเป็นโซนพิเศษที่ได้รับการผ่อนผันด้านกฎระเบียบและได้รับประโยชน์ทางภาษี เพื่อให้สามารถดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนให้ได้ 1 ล้านล้านเยน ภายในปี 2020
6. วางแผนเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เป็น 30 ล้านคนต่อปี โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 10 ล้านล้านเยน โดยวางแผนจะกำหนดวีซ่าประเภทใหม่ขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ระยะยาวในญี่ปุ่น คาดว่าจะมีชาวต่างชาติที่ได้รับวีซ่าประเภทนี้มากถึง 500,000 คน ภายในปี 2020 นายนาโอโตะ คัน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น จะประกาศแผนภายใต้ยุทธศาสตร์การเจริญเติบโตในระยะยาวของญี่ปุ่นพร้อมกับแผนงบประมาณ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ G8 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2553 นี้ ณ ประเทศแคนาดา โดยคาดหวังว่าแผนดังกล่าวจะช่วยให้พรรค Democratic Party of Japan ได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะมีขึ้นในหน้าร้อนนี้ โดยรัฐบาลใหม่ของนายคันประกาศเน้นให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางการเงินของรัฐบาลควบคู่ไปกับการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th