สำนักงานฯ ได้จัดกิจกรรมงานแสดงสินค้า Thailand Trade Exhibition 2010 ณ บริเวณด้านหน้าของสถานเอกอัครราชทูตไทย โดย หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานฯ ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 พร้อมกับ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตฯ (นายนพปฎล คุณวิบูลย์) และผู้อำนวยการสำนักงานฯ ณ สิงคโปร์ ซึ่งสำนักงานฯ ได้เชิญผู้แทนสมาคมการค้าในสิงคโปร์ ผู้บริหารและฝ่ายจัดซื้อของห้าง สรรพสินค้า/ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ผู้นำเข้าสินค้าประเภทต่างๆ ในสิงคโปร์ และข้าราชการ (ทีมประเทศไทย) เข้าร่วมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยได้จัดการแสดงโชว์หุ่นมีชีวิต รำไทยและดนตรี อีกทั้ง สำนักงานฯ ได้จัดให้มีการจับคู่ทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยเป็นพิเศษในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ระหว่างเวลา 09.00-17.00 น. เพื่อขยายตลาดต่อไป รวมถึงการประสานงานจัดนัดหมายพบนักธุรกิจสิงคโปร์ตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงานฯ
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้จัดบนพื้นที่รวม 1,425 ตารางเมตร โดยแบ่งสินค้าเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1) สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น 2) เครื่องประดับเทียม 3) ของประดับตกแต่งบ้าน/ของขวัญ/ของชำร่วย/ดอกไม้ประดิษฐ์ 4) อาหาร/ของขบเคี้ยว/ผลไม้แห้ง 5) ผลิตภัณฑ์สปา และ 6) เครื่องใช้ในครัวเรือน สำหรับการเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก รวมทั้งร้านอาหารไทยในสิงคโปร์ที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Thai Select จำหน่ายอาหาร/ขนมไทย ผู้นำเข้าผลไม้ไทยจำหน่ายผลไม้ไทย ผู้แทนจำหน่ายเบียร์สิงห์/Spy Wine Cooler/ไวตามิลค์ โดยผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้
1. ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 83 ราย โดยจัดคูหาแบ่งเป็นโซนตามกลุ่มสินค้า 6 กลุ่ม
2. จัดคูหาของสำนักงานฯ เผยแพร่ข้อมูลด้านการค้า ผู้ส่งออกของไทย และงานแสดงสินค้าต่างๆ ของกรมฯ ในประเทศไทย
3. จัดตู้โชว์สินค้ากลาง โดยจัดแสดงตัวอย่างสินค้าของผู้ประกอบการไทย
4. การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) โดยจัดพื้นที่เป็นสัดส่วนให้ผู้ประกอบการไทยและนักธุรกิจสิงคโปร์ได้เจรจาธุรกิจ ซึ่งมีนักธุรกิจสิงคโปร์จำนวน 154 บริษัท (219 ราย) พบปรึกษาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย
5. ผู้อำนวยการฯ แถลงข่าวงานฯต่อ Media และจัดให้ผู้สื่อข่าวชมสินค้าและสัมภาษณ์ผู้ประกอบการไทยเพื่อประชาสัมพันธ์ในหนังสือพิมพ์และเว็ปไซด์ โดยได้รับการจัดลงข่าวประชาสัมพันธ์ ดังนี้ (1) หนังสือพิมพ์ The Straits Times ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 หัวข้อ Thai Snack-down (2) ในเว็ปไซท์ http://www.soshiok.com/article/11655 หัวข้อ New Products at 4th Thai Trade (3) เว็ปไซท์ Simply Fabulicious วันที่ 21 พฤษภาคม 2553 หัวข้อ Thai Fest at the Thai Embassy (4) หนังสือพิมพ์ภาษาจีน Lianhe Zaobao วันที่ 23 พฤษภาคม 2553 เกี่ยวกับผลไม้ไทยและสินค้าของ Royal Project Foundation, วันที่ 16 พฤษภาคม 2553 หัวข้อ Snack Down at Royal Thai Embassy และสินค้าผลิตภัณฑ์สปาในงาน Thai Trade Exhibition (5) เว็ปไซด์ Omy วันที่ 21 พฤษภาคม 2553 หัวข้อ No need to head to Thailand to enjoy real Thai Goodies
6. มูลนิธิโครงการหลวงให้ความร่วมมือในการนำสินค้าเข้าร่วมจัดแสดงในงานฯ ได้แก่ ผัก/ผลไม้อบแห้ง/แปรรูป สมุนไพรแปรรูป ชา กาแฟ เป็นต้น
7. บริษัทผู้นำเข้าข้าวไทยให้ความร่วมมือในการนำสินค้าเข้าร่วมจัดแสดงในงานฯ โดยจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยประเภทต่างๆ ได้แก่ Thai Organic Fragrance Red Brown Rice, Thai Organic Hom Mali Brown Rice, Thai Organic White Glutinous Rice และ Thai Organic Hom Mali Brown Rice
8. ได้จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยเพิ่มภาพลักษณ์ไทยโดยเป็นการโชว์หุ่นคนเอกลักษณ์ไทยเป็นครั้แรก รวมถึงมีวงดนตรีเพื่อสร้างสีสันให้กับงาน และเป็นการเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าไทยในงานได้มากขึ้น
9. มีผู้เข้าชมและเลือกซื้อสินค้าไทยประมาณ 150,000 คน ตลอดเวลา 5 วันของการจัดงาน จากการเผยแพร่การจัดกิจกรรมฯ โดยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ The Straits Times, Classified จำนวน 4 ครั้ง และหน้าโฆษณาปกติจำนวน 1 ครั้ง หนังสือพิมพ์ Today จำนวน 3 ครั้ง รวมทั้งแจกแผ่นพับโฆษณางานฯ 5,000 ใบ และ Directory จำนวน 500 เล่ม ด้วย
10. สินค้าที่เป็นที่นิยมของผู้ซื้อในสิงคโปร์ ได้แก่
- เครื่องประดับเงิน/เทียม/คริสตัล/เซรามิค/เปลือกหอย
- ขนมหวานแช่แข็ง ขนม/ของขบเคี้ยว/ผักผลไม้อบแห้ง/แปรรูป เครื่องปรุงต้มยำ เครื่องแกงต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากข้าว
- เสื้อยืดอัดลาย (motif heat transfer) เสื้อยืดลายปัก สินค้าดีไซน์ และกระเป๋าผ้าเขียนลาย
- ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน(พลาสติก)
- ดอกไม้ประดิษฐ์
- ผลิตภัณฑ์สปา/สมุนไพร ยาหม่องสมุนไพร และ Bio Spray
- ปากกาแก้ว และเครื่องเขียน
5.1 ภายในงาน : เป็นเงินประมาณ 164,025 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 3,772,575 บาท) ประเภทสินค้า : เครื่องประดับเงิน/เทียม/คริสตัล/เซรามิค/เปลือกหอย เสื้อยืดอัดลาย เสื้อยืดลายปัก สินค้าดีไซน์ กระเป๋าผ้าเขียนลาย เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผ้าไหม/ผ้าฝ้าย/ผ้าบาติก ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน(พลาสติก/ไม้) น้ำยาล้างเครื่องประดับ ปากกาแก้ว เครื่องเขียน ของขวัญ/ของชำร่วย/ของประดับตกแต่งบ้าน ดอกไม้ประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์สปา/สมุนไพร ขนมหวานแช่แข็ง ขนม/ของขบเคี้ยว ผักผลไม้อบแห้ง/แปรรูป ชา/กาแฟสำเร็จรูป
5.2 คาดว่าจะสั่งซื้อภายใน 1 ปี : ประมาณ 1,164,500 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 26,783,500 บาท) ประเภทสินค้าดังกล่าวข้างต้น
5.3 นอกจากนี้ การส่งเสริมสินค้าอื่นๆในงานฯ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ผลไม้ไทย เครื่องดื่ม (ไวตามิลค์/Spy Wine Cooler, เบียร์สิงห์) และอาหารไทย (ร้านอาหารที่ได้รับตราเครื่องหมาย Thai Select) ซึ่งจะทำให้การนำเข้าสินค้าและเครื่องปรุงอาหารสู่ตลาดสิงคโปร์เพิ่มขึ้น สำหรับมูลค่าการจำหน่ายในงานฯ ประมาณ 28,000 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 644,000 บาท) (หมายเหตุ : 1 เหรียญสิงคโปร์ ประมาณ 23 บาท)
6.1 การจัดโครงการฯ ณ บริเวณสถานทูตไทยในปี 2553 นี้ เป็นการจัดครั้งที่ 4 นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการประชาสัมพันธ์และเปิดตลาดให้กับผู้ประกอบการไทย เนื่องจากสถานที่จัดงานแสดงสินค้าฯ ตั้งอยู่บนถนน Orchard ซึ่งเป็นแหล่ง shopping สำคัญใจกลางเมือง ผู้คนเข้ามาจับจ่ายซื้อของและรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทั้งที่เป็นคนสิงคโปร์ ชาวต่างชาติอื่นๆที่พำนักในสิงคโปร์ นักท่องเที่ยว รวมถึงคนไทย ดังนั้น การเน้นจัดแสดงสินค้าทั้งที่เป็นสินค้าดั้งเดิม สินค้าที่มี Brand สินค้าใหม่ๆ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยสู่ตลาดสิงคโปร์ อีกทั้งผู้ประกอบการไทยสามารถใช้เครีอข่ายในสิงคโปร์เพื่อการ Trading ไปยังตลาดอื่นๆ ที่สิงคโปร์มีความชำนาญและได้รับความเชื่อมั่นจากผู้นำเข้าในตลาดนั้นๆ โดยเฉพาะประเทศใน Middle East และ Africa
6.2 งานฯนี้ ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้นำเข้า/ผู้ค้าส่ง โดยการจัด net-working ให้พบและชมสินค้าของผู้ประกอบการจำนวน 83 ราย แต่ปัจจัยสำคัญที่จะส่งให้การจับคู่ทางธุรกิจได้รับผลสำเร็จ คือ ความพร้อมของผู้ประกอบการไทย ซึ่งบางรายไม่มีความพร้อมเรื่องราคาและไม่สามารถ quote ราคาส่งออกได้ในช่วงเจรจาธุรกิจ อีกทั้งผู้ประกอบการไทยบางรายไม่สามารถดำเนินการ/จัดการเรื่องการขนส่งสินค้าได้อย่างคล่องตัว ส่งผลให้ผู้นำเข้า/ผู้ค้าส่งขาดความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้า
6.3 ผู้ประกอบการบางรายแจ้งรายการสินค้าเข้าร่วมงานประเภทหนึ่ง แต่เมื่อจัดแสดงสินค้าในคูหาจะมีสินค้าต่างประเภทกัน เช่น สินค้าเครื่องประดับเงินกับผลไม้แปรรูป น้ำยาล้างเครื่องประดับกับเสื้อยืดปักลาย ซึ่งส่งผลให้การจัดกลุ่มคูหาดูปะปน ไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ในธุรกิจของบริษัทเพื่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ
6.4 สำนักงานฯ ได้เชิญภัตตาคารไทยที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Thai Select ให้เข้าร่วมจำหน่ายอาหารในงานฯ ซึ่งในปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานฯ จำนวน 6 ราย คือ Dern Din, Thanying, Suan Thai, Jai Thai, Lerk Thai และ Siam Kitchen จึงเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครู้จักเครื่องหมายรับรอง Thai Select และรู้จักร้านอาหารไทยอีกทางหนึ่งด้วย อีกทั้งทำให้สินค้าอาหารและเครื่องปรุงอาหารไทยส่งออกสู่ตลาดสิงคโปร์เพิ่มขึ้น
6.5 นอกจากนี้ สำนักงานฯ ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการท่องเที่ยว ณ สิงคโปร์ เป็นอย่างดี จึงนับว่า การจัดงานฯครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์ทั้งสินค้าไทย และแหล่งท่องเที่ยวของไทยในสิงคโปร์อีกด้วย
6.6 ผลสำเร็จของโครงการ นอกจากจะได้จากการประสานงานของทุกฝ่าย การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ยังได้รับการประชาสัมพันธ์จากลูกค้าเดิมจากปีที่ผ่านๆมา สำนักงานฯจึงคาดว่า การจัดโครงการอย่างต่อเนื่องจะได้รับการตอบรับในสิงคโปร์เป็นอย่างดี
6.7 อนึ่ง ปัจจุบันสถานเอกอัครราชทูตไทยในสิงคโปร์(สอท.) กำหนดการรื้อและจัดสร้างสถานทูตฯใหม่ โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน 2553 และจะใช้เวลาในการสร้างประมาณ 2-3 ปี ซึ่งจะทำให้การจัดโครงการฯ ในปีต่อๆไป จะต้องเช่าพื้นที่ ณ สถานที่จัดงานแสดงสินค้าได้แก่ Suntec City, Singapore Expo หรือตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ สิงคโปร์
ที่มา: http://www.depthai.go.th