เมือง Wichita อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับคนไทย แต่คนในวงการอุตสาหกรรมการผลิตอากาศยานรู้จักเมือง Wichita เป็นอย่างดี เพราะว่า เมือง Wichita คือ ศูนย์กลางการผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ และของโลก (Air Capital of the World) ซึ่งผลิตเครื่องบินมากกว่าร้อยละ 50 ที่ใช้กันอยู่ในโลกปัจจุบัน และ อีกทั้ง เป็นต้นกำเนิดภัตตาคาร Pizza Hut ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั่วโลกอีกด้วย
เมือง Wichita ตั้งอยู่ในมลรัฐ Kansas หรือหากดูจากแผนที่ประเทศสหรัฐฯ จะตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศ หรือห่างจากนครชิคาโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 400 ไมล์ (640 กิโลเมตร) มีประชากรประมาณ 366,046 คน (ปี 2550) หรือมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 51 ของสหรัฐฯ ประชากรร้อยละ 72 อเมริกันเป็นผิวขาว เชื้อสายฮิสแปนิกร้อยละ 12 อเมริกันผิวดำร้อยละ 11.4 เอเซียเพียงร้อยละ 4.6 และ อเมริกันอินเดียน ร้อย 1.1 Wichita เป็นเมืองใหญ่ที่สำคัญที่สุดของมลรัฐแคนซัส และเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศ McConnell Air Force Base ของสหรัฐฯ
บริษัท Cessna Aircraft Company และ Hawker Beechcraft Corporation คือ ผู้บุกเบิกด้านอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ ในระยะเริ่มแรก ต้นคริสตศตวรรษที่ 19 และดำรงการผลิตเรื่อยมาจนปัจจุบันที่เมือง Wichita ดังนั้น จึงเป็นปัจจัย ดึงดูดผู้ผลิตเครื่องบินรายอื่นๆ เช่น Bombardier/Learjet, Boeing Company (Military Aircraft) และ Airbus (Design Engineering) มาตั้งโรงงานที่เมือง Wichita นอกจากนั้นแล้ว บริษัท เช่น Raytheon Aircraft Company, Spirit Aero Systems, Excel Manufacturing และ Apex Engineering มาตั้งโรงงานผลิตจำหน่ายอุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบ และเทคโนโลยี
อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินเป็นพื้นฐานเศรษฐกิจหลักของเมือง Wichita และมีการจ้างงานมากที่สุด ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบิน ต้องปลดคนงานกว่าร้อย 40 ปัจจุบัน อัตราการว่างงานของเมือง Wichita คิดเป็นร้อยละ7.9 (เมษายน 2553) ซึ่งสูงกว่าอัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยของรัฐแคนซัส ซึ่งอยู่ในระดับร้อยละ 6.0 แรงงานภาคอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินจึงตกลงเป็นอันดับที่ 2 หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของแรงงานในตลาดซึ่งมีจำนวน 286,000 คน และแรงงานของภาครัฐบาลท้องถิ่นก้าวขึ้นมาเป็นผู้จ้างงานอันดับหนึ่ง หรือร้อยละ 13 การจ้างงานสาขาบริการสุขภาพ(Healthcare) เป็นอันดับที่สาม ร้อยละ 9 และแรงงานในสาขาการก่อสร้าง (Construction) เป็นอันดับที่ 4 ร้อยละ 5.5 คาดว่า การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมเครื่องบินจะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นลำคับ
1. บริษัท Hawker Beechcraft: ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1932 (2475) ถือว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรุ่นบุกเบิกของเมือง Wichita ปัจจุบัน มียอดจำหน่าย 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ มีพนักงานจำนวน 6,000 คน บริษัทฯ ผลิตเครื่องบินขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งแบบส่วนบุคคล (Private Plane) และ เครื่องบินบริษัท (Corporate Jet) ซึ่งมีให้เลือกแบบต่างๆ จำนวน 10 รุ่น เช่น Bonanza G36, Baron G58, Premier IA, King Air (3 Models) และHawker(4Models) บริษัทฯ ส่งมอบเครื่องบินจำนวน 418 ลำให้ลูกค้าในปี 2552 ตลาดจำหน่ายเครื่องบินแยกออกเป็น การส่งออกร้อยละ 80 และ อีกร้อยละ 20 จำหน่ายในประเทศสหรัฐฯ นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ ยังผลิตเครื่องบิน Model T-6A Texan II ใช้ในราชการให้แก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการฝึกบิน Mr. Ted Farid ตำแหน่ง Sr. Vice President, International Sales แจ้งว่า ปัจจุบัน มีสำนักงานขายตั้งอยู่ที่นคร Dubai และ บริษัทต้องการขยาย ตลาดมายังกลุ่มประเทศ ASEAN รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งยังไม่มีตัวแทนจำหน่าย
2. บริษัท CESSNA: ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1927 (2470) โดย Mr. Clyde V. Cessna ซึ่งเป็นผู้ผลิต/ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเครื่องบินเล็กรายแรก ของเมือง Wichita ปัจจุบัน เป็นผู้ผลิตเครื่องบินขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเครื่องบินแบบ Small Prop planes และ Corporate Jet นับแต่เริ่มผลิตเครื่องบินมาจนปัจจุบันกว่าประมาณ 80 ปี บริษัทฯได้ส่งมอบเครื่องบินให้ลูกค้ากว่า 192,000 ลำ ในปี 2552 มียอดจำหน่าย 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีพนักงานจำนวน 8,700 คน ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตเครื่องบินจำหน่ายแยกเป็น 3 รุ่น คือ Citation เป็นเครื่องบิน Corporate Jet (มีให้เลือก 9 Models) รุ่น Caravan เป็นเครื่องบินเล็กที่ใช้ในการขนส่ง (มีให้เลือก 4 Models) และ รุ่น Single Engine เป็นเครื่องบินส่วนบุคคล (มีให้เลือก 5 Models) ปัจจุบัน ซื้ออุปกรณ์และส่วนประกอบในประเทศเป็นส่วใหญ่ และ นำเข้าตรงจากต่างประเทศประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และเยอรมนี Mr. Ryan G. Doerksen, Director of Strategic Sourcing & Supply Chain Management แนะนำให้ผู้ผลิต/ส่งออกที่สนใจทำการค้ากับบริษัท Cessna เข้าไปศึกษาวิธีการทำการค้าจาก Website บริษัทฯ Supplier.Cessna.com
3. บริษัท Bombardier/Learjet: เป็นผู้ผลิตเครื่องบินขนาดกลาง และ Corporate Jet อันดับที่ 3 ของสหรัฐฯ เป็นบริษัทในเครือของ Bombardier ประเทศแคนาดา มียอดขาย 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (เฉพาะในสหรัฐฯ) บริษัทฯ ผลิตเครื่องบินแยกเป็น 3 รุ่น คือ Learjet (3 Models) จำนวนผู้โดยสาร 7-9 คน รุ่น Challenger (3 Models) จำนวนผู้โดยสาร 10-15 คน และ รุ่น Global (2 Models) จำนวนผู้โดยสาร 17-19 คน และผลิตเครื่องบินใช้ในราชการกองทัพสหรัฐฯ (Government Mission Aircraft) เช่น เครื่องบินลาดตะเวน เครื่องบินฝึกบิน และ เครื่องบินขนส่งสัมภาระ เป็นต้น Mr. David M. Coleal ตำแหน่ง Vice President & General Manager กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทนำเข้าอุปกรณ์และส่วนประกอบจากไต้หวัน
4. บริษัท Pioneer Worldwide เป็นผู้นำตลาดสินค้าลูกโป่งรายสำคัญของสหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 80 ปี มียอดขาย 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทฯ ผลิตลูกโป่ง 2 ชนิด คือ Metallic Balloon และ Latex Balloon บริษัทนำเข้ายางธรรมชาติ (Latex) จากประเทศมาเลเซียประเทศไทย และ ประเทศในแอฟริกา เพื่อผลิตลูกโป่ง และ ส่งออกลูกโป่งไปทั่วโลกและประเทศไทยและมีโรงงานผลิตทั้งในสหรัฐฯ และในประเทศเม็กซิโก นอกจากนั้นแล้ว ยังนำเข้าสินค้า Ribbon, Mugs, และ Glassware มาจำหน่ายอีกด้วย Mr. Ted J. Vlamis, ted_jv@pioneerballoon.com ,Vice President กล่าวว่า บริษัทฯ วางกลยุทธ์ ความสำเร็จในด้านการตลาด คือ เน้นด้านคุณภาพ และการจัดทำโปรแกรมการสอนศิลปะลูกโป่ง เพื่อให้เกิดอาชีพใหม่ รับตกแต่งสถานที่ด้วยลูกโป่ง และ มี ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย นอกจากนั้นแล้ว บริษัทฯ จะจัดงาน World Balloon Convention (www.worldballoonconvention.com) ขึ้นทุกปี หมุนเวียนในตามเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลกโดยในปี 2552 งานฯ จัดขึ้นในประเทศไทยระหว่างวันที่ 5 — 9 ตุลาคม 2552 ที่ Central World
5. บริษัท Cargill Food (Meat Solution) เป็นบริษัทในเครือของบริษัท Cargill ในรัฐมินเนโซต้า ซึ่งมีสาขาในอีก 69 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทใน Wichita เป็นผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป(Prepared Foods-Meat) ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าเข้าช่องทางธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ต ลูกค้ารายสำคัญได้แก่Kroger, Wal-Mart Supercenter, Loblow Wegman, SuperValu และ Safeway และ ธุรกิจบริการอาหาร(Foodservice) ได้แก่ Sysco Foodservice, Gordon Foodserviceร้าน McDonald’s เป็นต้น และ ส่งออกสินค้าไปจำหน่ายทั่วโลกมียอดจำหน่าย 2,300 ล นเหรียญสหรัฐฯ (เฉพาะโรงงานที่Wichita) นอกจากนั้นแล้ว บริษัทมีโรงงานกระจายอยู่ทั่วโลกรวมทั้งในทวีปเอเซีย (อินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จีน และประเทศไทย) มีฟาร์มเลี้ยงไก่ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานการผลิตต่างๆ ในจังหวัดอื่นๆ เช่น มหาสารคาม สระบุรี พิษณุโลก และ สงขลา มีการจ้างงานกว่า 10,000 คน และมุ่งหมายในการผลิตเพื่อส่งสินค้าไปขายในตลาดญี่ปุ่น บริษัท Cargill ให้ความสำคัญกับประเทศไทยในด้านเป็น Production Unit และ เป็น Footprint ซึ่งการตั้งสาขาในประเทศไทย บริษัทคำนึงถึงกระบวนการผลิตอาหารที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากลซึ่งประเทศไทยมีอยู่แล้วและสร้างความสัมพันธ์กับภาครัฐบาล
บริษัทฯ มีความเห็นว่า อาหารฮาลาล (Halal Food) เป็นอาหารชนิดหนึ่ง ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญและไม่สามารถมองข้ามได้ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะเจาะตลาดกลุ่มประเทศแอฟริกา และ ตะวันออกกลาง
6. LSI Industries บริษัท LSI Industries ผลิตสินค้า Data Storage ที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องมือสื่อสาร โดยบริษัทจะเป็นผู้คิดและออกแบบซอฟท์แวร์ และนำไปผลิตฮาร์ดแวร์ในต่างประเทศ และนำเข้ามาส่งให้ลูกค้าในสหรัฐฯ ได้แก่ Dell Computer, HP, NEC, LENOVO, Oracle, Sun Computer เป็นต้น มียอดขาย 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทฯ นำเข้าสินค้า Semi Conductors, Printed Circuit Board และ Circuit Board Assembly จากประเทศไทย เป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
7. TRAMCO Inc. : (www.tramco.com) เป็นผู้ผลิตสินค้าเครื่องขนถ่ายลำเลียงสินค้า(Bulk Conveyor System) ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม การเกษตร หรือ ธุรกิจคลังสินค้า รายสำคัญรายหนึ่งของสหรัฐฯ บริษัทฯ มีวิธีการขายโดยให้บริการด้านออกแบบสินค้า (Design Engineering) และผลิตให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า สินค้าจำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศสหรัฐฯและทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ แต่ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย Mr. Leon Trammell, CEO : leo@tramcoinc.com ของบริษัทฯ มีความสนใจขยายตลาดส่งออกมายังประเทศไทย
นอกจากนั้นแล้วเมือง Wichita ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของผู้ผลิตสำคัญ 2 ราย คือบริษัท Coleman Company: www.coleman.com ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงทั่วโลกในด้านการผลิตสินค้าอุปกรณ์แค้มปิ้ง เช่น Sleeping Bag, Back Pack, Lamp, Hunting Apparel, Tent เป็นต้น บริษัทนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกรวมทั้งจากประเทศไทย และ บริษัท Koch Industries: www.kochind.com เป็น Private Company ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ทำธุรกิจ 8 สาขา ได้แก่ การผลิตเส้นใยเทียม เหมืองแร่ ปศุสัตว์เคมีและปุ๋ย การกลั่นน้ำมัน เทคโนโลยี่ป้องกันสภาพแวดล้อม ป่าไม้ และ บริษัทการค้า มีบริษัทในเครือทั่วโลกกว่า 20 บริษัทใน 60 ประเทศ และ มียอดจำหน่าย 98,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
1. สินค้านำเข้าสำคัญของเมือง Wichita เป็นสินค้าที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบิน ซึ่งได้แก่ อุปกรณ์และวิทยุสื่อสารและส่วนประกอบ ประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และชิ้นส่วนและอุปกรณ์ใช้ในการผลิตเครื่องบิน ประมาณ 1,150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าอื่นๆ ได้แก่เครื่องมือ อุปกรณ์ และ ของใช้วงการแพทย์และพยาบาล ประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้า Outdoor Product ประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องยนต์และส่วนประกอบประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ สินค้าโลหะภัณฑ์ (Metal Product)และการขึ้นรูปโลหะ (Metal Fabrication) ประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. ปัจจุบัน ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และของโลก ขยายและปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินของเมือง Wichita มีความเห็น ปัจจุบัน ตลาดเอเซียจะขยายตัวสูงกว่าสหรัฐฯ มีกำลังซื้อสูง ส่งผลต่อความต้องการเครื่องบินขนาดเล็กและขนาดกลางจะขยายตัวเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบินของเมือง Wichita ซึ่งเน้นตลาดส่งออกเป็นสำคัญ จะขยายตัวประมาณร้อยละ 10-20 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีผลต่อการเพิ่มความต้องการชิ้นส่วนและ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตเครื่องบิน
3. ตลาดอุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบเครื่องบิน เป็นตลาดใหม่สำหรับประเทศไทยในการเพิ่มมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ การสำรวจและได้หารือกับฝ่าย Supply Chain ของผู้ผลิตเครื่องบินของเมือง Wichita พบว่า มีสินค้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบเครื่องบินหลายชนิด ซึ่งประเทศไทยสามารถผลิตได้ สินค้าไทยที่มีลู่ทางในการขยายตลาดมายังเมือง Wichita คือ สินค้าโลหะภัณฑ์ (Metal Product) และการขึ้นรูปโลหะ (Metal Fabrication) เช่น Nut & Bolt และ Screw และสายไฟ (Electrical Wiring) และสินค้าในกลุ่ม Furnishings ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ วอลล์เปเปอร์ พรม และผ้าบุ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องบิน
4. ในการบุกตลาดชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบเครื่องบินมายังสหรัฐฯ ผู้ผลิตสหรัฐฯ ในเมือง Wichita ให้คำแนะนำต่อผู้ผลิต/ส่งออกไทยที่สนใจ ควรจะเข้าไปศึกษาวิธีการและขั้นตอนทำการค้าขายกับผู้ผลิตแต่ละรายจาก Website ของบริษัทฯ ดังนี้
1) บริษัท Cessna : http://supplier.cessna.com
2) บริษัท Hawker Beechcraf : www.hawkerbeechcraft.com/supply_chain
3) บริษัท Learjet/Bombardier : www.bombardier.com/en/aerospace/suppliers
3) บริษัท Boeing : www.boeingsuppliers.com
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th