ธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับชีวิตประจำวันขยายตัวคึกคัก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 9, 2010 14:20 —กรมส่งเสริมการส่งออก

จากการที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัว ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2010 ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ส่งออกของญี่ปุ่นและความต้องการภายในประเทศ ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากมาตรการของรัฐในการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น อุดหนุนการซื้อ Eco Car และการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานและรักษาสภาพแวดล้อม จากภาวะการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีแผนในการขยายตลาดและเพิ่มกำลังการผลิตอย่างคึกคัก

Lion Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันรายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะเปิดตลาดใหม่ใน 4 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอีก 3 ปีจากนี้ไป โดยจะเพิ่มความสามารถของฐานการผลิตในประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจอยู่แล้ว เช่นไทยและมาเลเซีย และทำการจัดตั้งฐานจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เช่น ยาสีฟัน ผงซักฟอก เป็นต้น ในประเทศเวียดนาม พม่า กัมพูชาและฟิลิปปินส์ ธุรกิจสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันมีการบุกตลาดต่างประเทศกันอย่างคึกคัก เช่น ในปีนี้ Shiseido Co., Ltd. จะซื้อกิจการบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้นLion Corp. เอง ก็เตรียมความพร้อมด้านการผลิตและการจำหน่าย ซึ่งจะสามารถครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความถนัดอยู่แล้วได้เกือบทั้งหมด

Lion Corporation (Thailand) บริษัทลูกที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ จะเพิ่มการผลิตยาสีฟัน ด้าน Southern Lion Sdn. Bhd. ซึ่งเป็น Equity-method Affiliate จะเพิ่มการผลิตผงซักฟอก ซึ่งปริมาณ

การผลิตที่จะเพิ่มขึ้นนั้น จะกำหนดจากนี้ต่อไป แต่คาดว่าในกรณีประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 และประเทศมาเลเซียจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ซึ่งทางบริษัทอยากจะทำเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประ เทศ จากร้อยละ 15 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 30 ในอีก 5 ปีข้างหน้า

Lion Corp. มีนโยบายในการทำยุทธศาสตร์การค้า โดยเล็งตลาดทั้งสินค้าราคาสูงและสินค้าราคาต่ำ เช่น จัดให้ผงซักฟอก "Top" และยาสีฟัน "Systema" เป็นแบรนด์สากล และทำตลาดกลุ่มผู้มีรายได้สูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเพิ่มกลุ่มแบรนด์ท้องถิ่น เช่น ผงซักฟอก "เปา" ในประเทศไทย และยาสีฟัน "Fresh & White" ในประเทศมาเลเซีย ให้มากขึ้น เป็นต้น

Lion Corp. เปิดฐานการผลิตในต่างประเทศ ที่มาเลเซียเมื่อปี 1960 ซึ่งนับว่าเร็วมากสำหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าดูยอดขายปี 2009 แล้ว ฝ่ายต่างประเทศมียอดเพียงร้อยละ 15 ซึ่งถือว่าต่ำ

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือด เช่น P&G ของสหรัฐอเมริกา และ Unilever ของอังกฤษ-ฝรั่งเศส บริษัท Lion เอง ก็จะลงทุนกับโรงงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต ไปพร้อมๆ กับเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เพื่อเป็นการต่อสู้กับรายใหญ่อื่นๆ

นอกจากนั้น Fuji-Keizai ซึ่งเป็นบริษัททำการสำรวจตลาด ก็ได้สำรวจตลาดเครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย ปี 2009 ปรากฏว่า มียอดขาย 107,700 ล้านเยน โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2008 ร้อยละ 3.6

จากความเอาใจใส่ในด้านความสะอาดของวัยรุ่น ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับใบ หน้า เช่น สบู่ล้างหน้า เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ แชมพูที่มีประสิทธิภาพในการปลูกผม ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น และในปี 2010 ก็คาดว่า ตลาดจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2009 ร้อยละ 0.9 เป็น 108,700 ล้านเยน

เครื่องสำอางสำหรับผู้ชายที่ทำการสำรวจในครั้งนี้ มี 5 ประเภท คือ แชมพูและครีมนวดผมผลิตภัณฑ์แต่งทรงผม ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาหนังศีรษะ ผลิตภัณฑ์สำหรับการโกนหนวดและผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลรักษาใบหน้า

แชมพูและครีมนวดผมสำหรับผู้ชาย เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างมาก โดยมีมูลค่า 10,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปี 2008 ร้อยละ 31.5 ในปี 2010 ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2009 ร้อยละ 15 เป็น 11,500 ล้านเยน

ด้านผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลรักษาใบหน้า เพิ่มขึ้นจากปี 2008 ร้อยละ 6.7 มีมูลค่า 16,000 ล้านเยน นอกจากแบรนด์ใหญ่จะมีผลิตภัณฑ์ออกมาให้เลือกอย่างหลากหลายแล้ว ความเอาใจใส่ในด้านความสะอาด ทำให้ Facial Sheet ที่เคยขายดีเฉพาะในหน้าร้อน ขายได้ทั้งปี

Fuji-Keizai คาดการณ์ว่า จากนี้ต่อไป ตลาดเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1-2 ต่อปี

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ