1. กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า มูลค่าการส่งออกของญี่ปุ่นเดือนพฤษภาคม 2553 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 32.1 % ตามความต้องการของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และรถยนต์ ญี่ปุ่นได้ดุลการค้า 14 เดือนติดต่อกัน โดยส่งออกมูลค่า 5.311 ล้านล้านเยน นำเข้ามูลค่า 4.987 ล้านล้านเยนเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 33.4 %
มูลค่าส่งออกขยายตัว 6 เดือนติดต่อกัน แต่อัตราการเพิ่มของเดือนนี้ชลอลง เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์และเมษายน 2553 ที่มีอัตราการขยายตัวถึง 45.3 % และ 40.4 % ตามลำดับ เป็นผลจากการส่งออกไปจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญอันดับ 1 ของญี่ปุ่นชลอลง
2. สำนักงานคณะรัฐมนตรี ประมาณการอัตราขยายตัวของ GDP ญี่ปุ่นปีงบประมาณ 2553 (เมษายน 2553 —มีนาคม 2554) ว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.6 % สูงกว่าที่เคยประมาณไว้ที่อัตรา 1.4 % เนื่องจากการเติบโตในอัตราสูงของการส่งออกไปตลาดภูมิภาคเอเชียที่มีสัดส่วนกว่าครึ่งของการส่งออกรวมไปตลาดโลก
3. ระดับราคาขายปลีกโดยทั่วไปของญี่ปุ่น ยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 กล่าวคือ Core CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่รวมอาหารสด เดือนพฤษภาคม 2553 ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 1.2 %
อัตราการลดของดัชนีราคาผู้บริโภคชลอลง เมื่อเทียบกับที่ลดลง 1.5 % ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาสะท้อนความต้องการภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เห็นว่า ยังต้องใช้วลากว่าญี่ปุ่นจะพ้นจากภาวะเงินฝืด เพราะค่าเงินเยนยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สืบเนื่องจากความไม่มั่นใจในเงินยูโรจากปัญหาหนี้
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: http://www.depthai.go.th