สถานการณ์การค้าไทย-อิตาลี
ภาพรวมเศรษฐกิจอิตาลีปี 2553
(%) ปี 2553 GDP (Q1) 0.6 Industrial Production (April) 7.8 Construction Output (April) -6.6 Export (January-March) 6.0 Import (January-March) 8.0 Inflation Rate (April) 1.6 Unemployment Rate (April) 8.9 Employment Rate (Q1) -0.7 Total Debt (%GDP) 29.5 Total Debt (? m) 1,760,765 2009 Deficit (%GDP) 5.3 ที่มา: Eurostat และ Istat การส่งออกของไทยไปยังอิตาลี ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2553 ไทยส่งสินค้าออกมายังตลาดโลกคิดเป็นมูลค่า 75,027.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.5 เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการส่งออกมายังประเทศอิตาลี 741.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 สำหรับปี 2553 เดือนพฤษภาคม ไทยส่งออกมายังอิตาลีคิดเป็นมูลค่า 173.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.4 สินค้าส่งออก 10 อันดับแรกของไทยไปยังประเทศอิตาลีปี 2553 อันดับที่ ชื่อสินค้า มูลค่าล้านเหรียญสหรัฐ อัตราการขยายตัว(%) 2552 2552 2553 2552 2553 (ม.ค.-พ.ค.) (ม.ค.-พ.ค.) (ม.ค.-พ.ค.) (ม.ค.-พ.ค.) 1 อัญมณีและเครื่องประดับ 155.3 88.0 107.0 -17.5 21.6 2 เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 96.2 49.9 86.0 -66.1 72.3 3 ยางพารา 55.8 15.9 49.3 -76.6 210.8 4 รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 56.6 21.5 48.2 -48.8 124.3 5 ปลาหมึกสดแช่เย็น แช่แข็ง 93.9 39.6 40.8 -20.0 2.9 6 ผลิตภัณฑ์ยาง 48.5 22.5 28.8 -19.9 27.6 7 อาหารสัตว์เลื้ยง 51.8 24.2 26.4 27.2 8.9 8 เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 36.0 12.9 25.0 -72.2 93.5 9 อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป 65.0 23.0 21.7 -11.4 -5.3 10 เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 42.4 17.7 18.5 -18.8 2.7 รวม 10 รายการ 701.6 315.1 451.6 -43.2 43.3 อื่นๆ 613.0 237.5 289.7 -38.5 22.0 รวมทั้งสิ้น 1,314.6 552.7 741.3 -41.2 34.1
การส่งออกสินค้าไทยมีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2552 อันเนื่องมาจากการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างช้า ๆ และความต้องการของตลาดภายนอกประเทศมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยพบว่าระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2553 การส่งออกสินค้าไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเครื่องประดับอัญมณียังคงเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของไทย เครื่องปรับอากาศ/ส่วนประกอบ ยางพารา รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง สำหรับสินค้าไทย ที่ได้รับผลกระทบ คือ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เนื่องจากอิตาลีหันมานำเข้าเพิ่มขึ้นจากประเทศเยอรมัน จีน และประเทศแถบแอฟริกา
ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2553 ไทยนำเข้าสินค้าจากตลาดโลกคิดเป็นมูลค่า 70,972.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.9 เปรียบเทียบจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการนำเข้าจากอิตาลี 609.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.1
สำหรับปี 2553 เดือนพฤษภาคม ไทยนำเข้าจากอิตาลีคิดเป็นมูลค่า 125.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ2
สินค้านำเข้า 10 อันดับแรกของไทยจากประเทศอิตาลีปี 2553
อันดับที่ ชื่อสินค้า มูลค่าล้านเหรียญสหรัฐ อัตราการขยายตัว(%) 2552 2552 2553 2552 2553 (ม.ค.-พ.ค.) (ม.ค.-พ.ค.) (ม.ค.-พ.ค.) (ม.ค.-พ.ค.) 1 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 329.6 142.5 155.2 6.5 8.9 2 เคมีภัณฑ์ 83.5 25.9 42.3 -42.4 63.5 3 เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 132.7 58.6 38.9 98.0 -33.7 4 ผลิตภัณฑ์โลหะ 108.3 38.1 31.2 -17.4 -18.0 5 เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ 53.0 19.1 31.2 -52.4 63.5 6 ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม 68.2 27.3 30.4 6.6 -1.7 7 สินค้าทุนอื่น ๆ 59.6 15.0 27.6 -58.2 83.9 8 สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 52.8 12.2 26.8 -32.4 119.0 9 เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 25.1 9.1 20.9 -30.6 128.1 10 เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด 53.4 19.3 19.7 -44.5 2.2 รวม 10 รายการ 966.2 367.1 424.1 -13.5 15.5 อื่นๆ 517.8 255.8 185.7 32.2 -27.4 รวมทั้งสิ้น 1484.0 623.0 609.8 0.8 -2.1
ถึงแม้ว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2553 การส่งออกสินค้าไทยมายังอิตาลีมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่จากภาวะวิกฤตเศรษฐหนี้ของกรีกที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบให้ค่าเงินยูโรมีมูลค่าลดลงและเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจโดยรวมของสหภาพยุโรปลดความน่าเชื่อถือ ซึ่งอิตาลีถือเป็นประเทศหนึ่งที่ถูกจับตามองว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เหมือนกรีซ เนื่องจากมีสถานภาพทางการเงินที่เปราะบางและยังไม่ฟื้นตัวจากวิฤกตเศรษฐกิจโลกอย่างเต็มที่
จากการที่ค่าเงินยูโรที่ลดลงส่งผลโดยตรงให้สินค้าจากไทยมีราคาที่แพงขึ้น ในทางตรงกันข้ามสินค้าจากยุโรปมีราคาต่ำลง ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะลำบากในการส่งออกสินค้ามายังอิตาลีและประเทศในสหภาพยุโรป โดยอิตาลีสามารถนำเข้าสินค้าจากแหล่งประเทศใกล้เคียงแทน ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยควรปรับโครงสร้าง/แนวทางในการส่งออกสินค้าเพื่อเตรียมรับมือกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป ดังนี้
1. ควรพัฒนา/สนับสนุนสินค้าไทยที่สามารถทำตลาดได้ดีในอิตาลี ได้แก่ สินค้าเครื่องประดับอัญมณี ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกไปยังตลาดอิตาลีอันดับ 1 โดยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2553 มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 25.5
2. ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2553 อิตาลีนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการโดยเฉพาะสินค้าเชื้อเพลิง น้ำมัน ยานบก และเครื่องจักร/อุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรศึกษาหาข้อมูล/พัฒนาสินค้าดังกล่าวเพื่อเป็นการเพิ่มยอดการส่งออก สำหรับสินค้าที่อยู่ในภาวะซบเซาในระดับผู้บริโภคขั้นสุดท้าย ได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สินค้ากลุ่มเครื่องหนังและ accessories ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสินค้าดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th