นสพ. ไชน่าเดลี่ฉบับประจำวันสุดสัปดาห์ 17-18 กรกฎาคม 2553 เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจีน นายเวิน เจียเป่ามีนโยบายด้านการค้าแบบสมดุลย์ไม่มุ่งการได้เปรียบดุลการค้ากับโลก โดยยังยึดการบริโภคภายในมากกว่าการมุ่งส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
นายกรัฐมนนตรีจีน เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวช่วงการเยือนเยอรมันนี โดยจีนมีตัวเลขการส่งออกในเดือนมิถุนายน 2010 นี้มีสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 เป็นต้นมา ทำให้ได้เปรียบดุลการค้าในช่วงครึ่งปีแรกสูง 55.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนด้านการลงทุน นายเวินกล่าวว่า ยุโรปก็เป็นอีกภูมิภาคที่จีนจะไปลงทุนด้วยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีน
นายหลี่ เตากุย นักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าวว่า ตัวเลขเกินดุลทั้งปีของจีนน่าจะอยู่ที่ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2 ของจีดีพีประเทศ ซึ่งเมื่อปี 2009 คิดเป็นร้อยละ 4 และปี 2008 คิดเป็นร้อยละ 8 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมุ่งการกระตุ้นการบริโภคภายในมากกว่าการมุ่งส่งออกเป็นหลัก ซึ่งจีนจะยังคงนโยบายนี้ต่อไปอีก
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนว่า จีนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองในปีนี้ ร้อยละ 10.3 โดยในช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 11.9
สำนักงานส่งเสริมใการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: http://www.depthai.go.th