มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่ววงการปลาทูน่ากระป๋องว่า บริษัท Bumble Bee Food ซึ่งเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องที่เป็นที่รู้จักดี และมีสำนักงานใหญ่ที่ San Diego กำลังจ้าง J.P.Morgan Securities สำรวจลู่ทางในการหาทางเลือกของยุทธศาสตร์บริษัทฯ และเป็นไปได้ว่าทางเลือกหนึ่งคือ การขายบริษัทและทรัพย์สิน หรือการควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น
เมื่อปี 2008 บริษัทลงทุนของเอกชนได้ซื้อ Bumble Bee ด้วยราคา 600 ล้านเหรียญฯ หลังจากนั้น Bumble Bee ซึ่งแต่เดิมเริ่มกิจการที่ Astoria รัฐ Oregon ได้ย้ายมาอยู่ที่ San Diego หลังจากบริษัทได้ซื้อกิจการ Sun Harbour Industry Cannery ไว้แล้วตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970
คู่แข่งปลาทูน่ากระป่องของ Bumble Bee คือ Chicken of the Sea International (Thai Union -บริษัทไทย) ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ San Diego เช่นกัน
เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวพยายามจะเจาะข่าวจาก Bumble Bee แต่ผู้แทนบริษัทปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ
บริษัท Tri Marine International กำลังเจรจาต่อรองกับ รัฐบาลของ American Samoa และบริษัท Chicken of the Sea เพื่อซื้อโรงงานปลาทูน่ากระป๋องของ Chicken of the Sea ใน American Samoa ซึ่งปิดกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว ทำให้คนงานตกงานไปถึงกว่า 2,000 คน หากการเจรจาสำเร็จ จะทำให้โรงงานกระป๋องแห่งนี้เปิดดำเนินการอีกครั้ง
โรงงานของ Chicken of the Sea แห่งนี้ปิดกิจการเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากกฎหมายเรื่องค่าจ้างแรงงาน ขั้นต่ำ (2007 Mininum Wage Law) ซึ่งกำหนดให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นจนถึงค่าจ้างขั้นต่ำของสหรัฐฯคือ 7.25 เหรียญฯ/ชั่วโมง ในปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 4.76 เหรีญญฯ/ชั่วโมง และถูกกำหนดให้เพิ่มขึ้น 0.50 เหรียญฯ/ชั่วโมง ในวันที่ 30 กันยายน ศกนี้ และจะต้องเพิ่มไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึง 7.25 เหรียญฯ/ชั่วโมง ในปี 2014 วันศุกร์ที่ผ่านมา (30 กรกฎาคม) ผู้ว่าฯ Togiola Tulafono ได้แถลงข่าวร่วมกับบริษัท Tri Marine เรื่องความพยายามของ Tri Marine International ที่จะเข้าเป็นเจ้าของโรงงานนี้ ขึ้นอยู่กับว่า บริษัทจะสามารถรับประกันสัญญาเช่าระยะยาวและหลักประกันอื่นๆให้รัฐบาล American Samoa ได้มากน้อยแค่ไหน
Tri Marine มีเรือประมงอยู่ใน American Samoa และกำลังพัฒนาแผนการที่จะเปิดดำเนินงานแปรรูปปลา โดยใช้โรงงานเดิม Sampac ซึ่งคาดกันว่า Tri Marine จะจ่ายค่าสินทรัพย์ถาวรของโรงงานให้แก่ Chicken of the Sea ไม่ถึง 5 ล้านเหรียญฯ
Mr. Joe Hambry กรรมการผู้จัดการของ Tri Marine แถลงว่า ขณะนี้ยังมีรายละเอียดอีกมากในขั้นสุดท้าย ซึ่งบริษัทหวังว่าจะตกลงกันได้ในไม่ช้า เพื่อจะได้เปิดโรงงาน และบริษัทจะไม่ทำเหมือนที่ Chicken of the Sea เคยทำมาในอดีต ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจแบบไม่ยั่งยืน แต่บริษัทจะดำเนินการแตกต่างออกไป และจะทำให้มากกว่าที่ Chicken of the Sea เคยทำมา
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
ที่มา: http://www.depthai.go.th