1.1. การหารือกับ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครคุนหมิง (Mr. Qiu He) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ฝ่ายจีนยินดีให้การสนับสนุนโครงการการลงทุนจากฝ่ายไทย เช่น การเช่าพื้นที่เพื่อจัดเป็น “Thai Product City” ณ ศูนย์ค้าส่งสินค้าโหล่วซื่อวาน (Luosiwan) ซึ่งทางเลขาธิการพรรคฯ ได้ให้เกียรติร่วมกับ รมช. พณ .ในพิธีเปิดสัปดาห์สินค้าไทย และจุดจำหน่ายสินค้าในโครงการพระราชดำริบริเวณพื้นที่ “Thai Product City” ณ ชั้น 5 อาคารศูนย์ค้าส่งสินค้าโหล่วซื่อวาน (Luosiwan) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2553
จีนยินดีสนับสนุนโครงการใหม่ๆ ที่นักธุรกิจไทยจะเข้ามาลงทุนในนครคุนหมิง ซึ่งปัจจุบันกลุ่มนักธุรกิจไทยได้เสนอโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
1. โครงการ Thai — China Square (เป็นการร่วมทุนระหว่างนักธัรกิจไทยและจีน) โดยจะสร้างเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม ศูนย์สันทนาการบันเทิงในนครคุนหมิงแห่งใหม่ (ศูนย์กลางเมืองใหม่ ตั้งอยู่ในเขตเฉินก้ง ห่างจากที่ตั้งเมืองเก่าประมาณ 20 กิโลเมตร) ซึ่งรัฐบาลคุนหมิงกำหนดที่จะย้ายเมืองไปอยู่ ณ เมืองใหม่ดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้
2. โครงการที่สองที่ได้เสนอไปยังรัฐบาลนครคุนหมิง คือ โครงการสร้างศูนย์ค้าส่งและแปรรูปผลไม้ Asean-China โดยนักธุรกิจไทยได้ขอให้รัฐบาลนครคุนหมิงจัดหาพื้นที่บริเวณใกล้กับสนามบินนครคุนหมิงแห่งใหม่ ซึ่งมีกำหนดสร้างแล้วเสร็จในปี 2012
1.2 การหารือกับรองผู้ว่าการมณฑลยูนนาน (Mr. Gu Chaoxi) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ฝ่ายจีนขอให้มีการเร่งรัดการใช้ประโยชน์จากเส้นทางถนนนครคุนหมิง-กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ โดยทั้งไทยและจีนยังไม่ได้ยินยอมให้รถยนต์สามารถขับผ่านแดนได้อย่างอิสระปราศจากเงื่อนไข รวมทั้งได้เสนอให้มีการแลกเปลี่ยนป้ายรถยนต์จำนวน 100 คันระหว่างกัน โดยรถยนต์ดังกล่าวสามารถวิ่งผ่านแดนได้อย่างอิสระ
ฝ่ายจีนเสนอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทยภาคเหนือกับมณฑลยูนนานซึ่งเคยจัดการประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง แต่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองของไทยในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้การประชุมดังกล่าวต้องสะดุดหยุดลง
รมช.พณ. ได้แจ้งว่าจะรับข้อเสนอของฝ่ายจีนไปเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งข้อเสนอทั้ง 2 ประเด็น ถือเป็นผลประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่ายที่จะขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม ไทยได้ขอให้จีนได้พิจารณาในเรื่องการขอฉลากสินค้าอาหารนำเข้าของไทยโดยผู้ประกอบการไทยหลายรายยังติดปัญหาที่ต้องใช้เวลาในการขอฉลากสินค้าเป็นเวลานานเกินกว่า 6 เดือน ในชั้นนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาเวลาในการอนุมัติใช้ฉลากสินค้าให้เร็วยิ่งขึ้น
การตรวจปล่อยสินค้าไทย (ผลไม้) ผ่านชายแดน ณ ด่านโมฮั่น เมืองสิบสองปันนา โดยเร็วเพื่อมิให้สินค้าเน่าเสียเกิดความเสียหาย
ฝ่ายไทยขอข้อมูลเกี่ยวกับท่อน้ำมันและก๊าชธรรมชาติ ซึ่งจีนได้สร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมาจากพม่ามายังมณฑลยูนนานด้านตะวันตกโดยพื้นที่แถบนี้เป็นพื้นที่ที่จะมีความสำคัญที่จะมีการพัฒนามากขึ้นในอนาคต ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจไทยที่สนใจได้มีโอกาสลงทุนในเส้นทางการขนส่งดังกล่าว
การพิจารณายื่นขอโควต้าข้าวจากปักกิ่ง ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคยูนนานและพื้นที่แถบตะวันตกมีความนิยมข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการจีนต้องสั่งซื้อสินค้าข้าวหอมมะลิมาจากมณฑลกวางตุ้ง เพื่อจำหน่ายในยูนนานหรือจีนด้านตะวันตก จึงขอให้พิจารณาการขอโควต้าข้าวจากปักกิ่งเพื่อให้มณฑลยูนนานสามารถนำเข้าข้าวได้ด้วย และจะเป็นประโยชน์ต่อผู้นำเข้าและผู้บริโภคของจีน
รมช.พณ. เสนอให้มีการจัดการประชุมในลักษณะ Business Forum ระหว่าง 4 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน (มณฑลยูนนาน) สปป. ลาว และพม่า เพื่อหารือร่วมกันในเรื่องการค้าชายแดน และการลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน โดยฝ่ายไทยขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพก่อน และสาธารณรัฐประชาชนจีน (มณฑลยูนนาน) เป็นเจ้าภาพในปีถัดไป
2.1. รมช.พณ. และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครคุนหมิง (Mr. Qiu He) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมต่างๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2553 ดังนี้
สัปดาห์สินค้าไทย บริเวณ ลานจอดรถของศูนย์การค้าส่งโหล่วซื่อวาน (Luosiwan) ซึ่งมีสินค้าไทยจำหน่ายในงานจำนวน 53 คูหา อาทิ ข้าวหอมมะลิ ผลไม้ไทย สินค้าอาหาร สินค้าหัตถกรรมภาคเหนือ และของใช้ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น
Thai Product City ตั้งอยู่บริเวณอาคารบี ชั้น 5 มีพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร ณ ศูนย์การค้าส่งโหล่วซื่อวาน (Luosiwan) จำหน่ายสินค้าไทยหลากหลายประเภท เช่น เสื้อผ้า สิ่งทอ อาหาร เครื่องใช้ ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ
จุดจำหน่ายสินค้าในโครงการพระราชดำริของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) บนพื้นที่ 300 ตารางเมตรบริเวณ Thai Product City โดยจุดจำหน่ายสินค้าฯ ดังกล่าว ถือเป็น จุดจำหน่ายสินค้าแรกในต่างประเทศของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของตกแต่งบ้านประเภทไม้ ผ้าทอ เครื่องแก้วเป่า เซรามิค ฯลฯ
2.2. รมช.พณ. เป็นประธานในพิธีเปิดงานการเจรจาธุรกิจโลจิสติกส์ไทย-จีน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2553 ณ ห้องประชุมโรงแรม King World ในนครคุนหมิง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเครือข่ายธุรกิจบริการโลจิสติกส์ระหว่างไทยและจีน โดยมีนักธุรกิจทั้งชาวไทยและจีน เข้าร่วมงานการเจรจา (Business Matching) รวม 60 ราย (โครงการนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานยุทธศาสตร์การพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ และ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ)
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง
ที่มา: http://www.depthai.go.th