ประเทศอินเดียเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ [บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน - BRIC] มีจุดเด่นที่เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีแนวโน้มจะแซงประเทศจีนในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอนเนื่องจากประเทศอินเดียไม่มีนโยบายกำหนดให้แต่ละครอบครัวมีบุตรได้ 1 คนเหมือนประเทศจีน ดังนั้น ประชากรอินเดียที่อายุต่ำกว่า 40 ปี มีมากถึงร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งประชากรอายุน้อยที่มีจำนวนมากนี้ กำลังจะเพิ่มสัดส่วนของชนชั้นกลางของประเทศ และเพิ่มอุปสงค์การอุปโภคบริโภคของครัวเรือน
ทำไมตลาดอินเดียน่าสนใจเข้ามาลงทุน นอกจากที่กล่าวมาในบทความตอนที่แล้วว่าประชากรที่มีฐานะและกำลังซื้อสูงของอินเดียมีมากถึงร้อยละ 30 จำนวนแรงงานของประเทศฯนี้ก็มหาศาลและที่สำคัญก็คือมีค่าแรงที่ถูกเมื่อเทียบกับประเทศไทย เช่น การเข้ามา ลงทุนของบริษัทฯต่างชาติซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่รัฐหารยะนะ(ติดกับกรุงนิวเดลีไปทางทิศเหนือ) ค่าแรงงานฝีมือจะอยู่ที่ประมาณ 6 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 190 บาทต่อวัน ส่วนค่าแรงงานไร้ฝีมือจะอยู่ที่ประมาณ 3 เหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 90 บาทต่อวัน
ค่าแรงงานโดยทั่วไปที่ไม่สูงของประเทศอินเดียเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนให้ความสนใจกับการลงทุนในกลุ่มธุรกิจบริการเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่ากลุ่มธุรกิจบริการจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 55.6 ของ GDP รองลงมาเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีสัดส่วนของ GDP อยู่ที่ร้อยละ 26.6 และกลุ่มเกษตรกรรม มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 17.8ของ GDP
เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก ประเทศอินเดียจึงเน้นการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศมากกว่าผลิตเพื่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม อินเดียก็ยังหวังพึ่งการลงทุนจากต่างชาติ โดยใช้จุดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ต้นทุนแรงงานราคาถูก และตลาดผู้บริโภคในประเทศจำนวนมหึมา รวมถึงการเชื่อมโยงติดต่อการค้ากับนักธุรกิจชาวอินเดียโพ้นทะเลที่กระจัดกระจายค้าขายและลงทุนอยู่ทั่วภูมิภาคของโลก
สคร.นิวเดลี
ที่มา: http://www.depthai.go.th