ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 60 ของประเทศอินเดียบริโภคอาหารจำพวกมังสวิรัติ ดังนั้นสินค้าประเภทอาหารมังสวิรัติต่างๆไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้และอาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งต้องกินอาหารมังสวิรัติเหมือนเจ้าของผู้เลี้ยงจึงมีโอกาสสูงและไปได้ดี ส่วนสินค้าอื่นๆ เช่น สินค้าเกษตรแปรรูป ก็น่าสนใจเข้ามาทำตลาดในอินเดีย เนื่องจากเทคโนโลยีการเกษตรของอินเดียยังไม่ทันสมัย ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการด้านเครื่องจักรกลทางการเกษตรของไทยจึงเป็นที่สนใจของคนอินเดียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเครื่องสีข้าว เนื่องจากกำลังการผลิตมากกว่าเครื่องของอินเดียถึง 3 เท่าตัว อีกทั้งราคาก็ไม่แพง จึงมีผู้สั่งซื้อเข้าไปใช้ในอินเดียเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
สำหรับสินค้าของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ชนิดผู้ซื้อประกอบเองก็กำลังเป็นที่ต้องการสูงเนื่องจากอุปสงค์ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลักทุกภูมิภาคของประเทศกำลังได้รับความนิยมแบบก้าวกระโดด ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงเพราะคนกลุ่มนี้จะมีรสนิยมการออกแบบของตกแต่งบ้านที่ทันสมัยแต่ราคาไม่แพงแบบของไทยซึ่งยังเป็นที่ต้องการของเศรษฐีใหม่ในอินเดีย
ตามที่ได้กล่าวไว้ในบทความตอนที่แล้วว่ากลุ่มธุรกิจบริการของอินเดียเป็นที่นิยมเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรหันมาให้ความสนใจให้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากปัจจุบันกลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับของไทยๆไม่ว่าจะเป็นสปาและ ร้านอาหารไทย รวมทั้งการรักษาพยาบาลก็กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรม รีสอร์ทและร้านเสริมสวยในอินเดียมักจะมีสปาไทยไว้บริการลูกค้าด้วย สำหรับร้านอาหารไทยนั้น ควรสนับสนุนให้มีการร่วมทุนในลักษณะแฟรนไชส์ สำหรับธุรกิจการรักษาพยาบาลก็ควรประชาสัมพันธ์ให้คนอินเดียได้ทราบว่าแม้แต่คนดูไบยังมารักษาพยาบาลในไทย เนื่องจากชาวอินเดียที่มีฐานะดีมักจะเดินทางไปพักผ่อนและช๊อบปิ้งที่เมืองดูไบ รวมทั้งมักจะเลียนแบบรูปแบบการใช้ชีวิตของชาวดูไบ ซึ่งหากชี้ประเด็นนี้ ก็จะมีคนอินเดียมาใช้บริการรักษาพยาบาลในไทยมากขึ้น นอกจากนั้นก็ควรโฆษณาร้าน duty free ของไทย ด้วยว่าราคาเท่ากับหรือถูกกว่าที่ดูไบ เพื่อให้คนอินเดียหันมาช๊อปปิ้งและมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น
สคร.นิวเดลี
ที่มา: http://www.depthai.go.th