1) ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด จะขัดหรือไม่ก็ตาม (HS 100630): 41.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+33.84%)
2) ปลายข้าว (HS 100640) : 0.494 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+58.12%)
3) ข้าวกล้อง (HS 100620) : 0.264 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+67.46%)
4) ข้าวเปลือก (HS 100610) : แคนาดาไม่มีการนำเข้าจากไทย
การผลิต/การบริโภค
- จากรายงาน Food Statistics ของหน่วยงานรัฐฯ Statistic Canada ระบุว่าในปี 2552 นั้น ชาวแคนาดา (Average Canadian) บริโภคข้าวประมาณ 7.1 กก. ต่อปี (+1.3%)
- กลุ่มผู้บริโภคข้าวเป็นหลักในแคนาดา ได้แก่กลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชีย และชาวตะวันตก(ประเทศแคนาดามีประชากร ประมาณ 33 ล้านคน)
- ประเทศแคนาดามีการผลิตข้าว Wild Rice มีราคาแพง มีไฟเบอร์สูง ทั้งนี้ แคนาดาไม่มีการผลิตข้าวหอมมะลิ หรือข้าวขาวอื่นแต่อย่างใด
การนำเข้า/ส่งออก
นำเข้า (HS 1006)
- จากทั่วโลก: เดือน ม.ค.-มิ.ย. 2553 มูลค่า 151.419 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+5.62%)
- จากไทย : เดือน ม.ค.-มิ.ย. 2553 มูลค่า 42.790 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+34.34%)
ส่งออก (HS 1006)
- ไปยังทั่วโลก : เดือน ม.ค.-มิ.ย. 2553 มูลค่า 2.348 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-57.17%)
- ไปยังไทย : เดือน ม.ค.-มิ.ย. 2553 มูลค่า 0.024 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+/- 0%)
- ผ่านผู้นำเข้า และค้าส่งไปยัง Chain Store หรือร้านค้าปลีก เพื่อจำหน่ายต่อไปยังผู้บริโภค
- ผ่านผู้นำเข้าสินค้า Asian Grocery ที่มีห้างร้าน และเครือข่าย
- ห้างร้านสำหรับกระจายสินค้าเป็นของตัวเอง
กลุ่มผู้บริโภคข้าวเป็นหลักในแคนาดา ได้แก่กลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชีย และชาวตะวันตกในเมืองสำคัญๆ ของประเทศ โดยกลุ่มผู้บริโภคข้าวที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา คือ จีน รองลงมาได้แก่ผู้บริโภคจากกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ทั้งนี้ ประเทศแคนาดามีชาวเอเชียที่โอนสัญชาติเข้ามาอาศัยในประเทศแคนาดามากขึ้นทุกปี ส่งผลให้การบริโภคข้าวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในแคนาดามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่ผู้บริโภคชาวเอเชียนิยมอาศัยในบริเวณเขตเมืองสำคัญๆ ของประเทศ ส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ข้าวเป็นไปได้ช้า เนื่องจากชาวแคนาดา (ชาว Caucasian) ในเมืองรอบนอกไม่มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมการบริโภคข้าวอย่างถูกต้องได้
สรุปราคาข้าว ณ ส.ค. 2553 ในนครแวนคูเวอร์
- ข้าว Indian Basmati: ขนาดถุง 10 lb - ราคา ประมาณ 8.95- 9.95 เหรียญแคนาดา
- ข้าวหอมมะลิไทย: ขนาดถุง 40 lb - ราคาประมาณ 30.95 เหรียญแคนาดา/ ขนาดถุง 8 กก. ราคา 13.95 เหรียญแคนาดา
- ข้าว Long Grain (White) ไทย: ขนาดถุง 40 lb - ราคาประมาณ 18.95 เหรียญแคนาดา
- ข้าว Long Grain (White) เวียดนาม: ขนาดถุง 40 lb - ราคาประมาณ 17.95 เหรียญแคนาดา
- ตามสถิติการนำเข้า ม.ค.-มิ.ย. 2553 (% จากสัดส่วนนำเข้าทั้งหมด) สหรัฐฯ (52.01%) ไทย (28.22%) อินเดีย (13.76%) ปากีสถาน (3.35%) อิตาลี (0.95%) เวียดนาม (0.40%) ออสเตรเลีย (0.28%)
- ในภาพรวมนั้นไม่มีการกีดกันทั้งภาษี หรือ NTB เนื่องจากเป็นสินค้าที่ประเทศแคนาดาไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ
- Consumer Packaging and Labeling Act : กฎระบียบเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านบรรจุภัณฑ์ และป้ายสินค้า ตลอดจนภาษา และเครื่องหมายการค้าต่างๆ ที่ใช้ ผู้สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฏระเบียบดังกล่าว ได้ที่ http://laws.justice.gc.ca/en/showdoc/cs/C-38///en?page=1
- Canadian Food and Drug Act/Regulation : กฎระบียบเกี่ยวกับสินค้าอาหารและยา ซึ่งมีจุดประสงค์หลักในการคุ้มครองผู้บริโภคชาวแคนาดา ทั้งนี้ กฏระเบียบดังกล่าว มีการระบุค่าของสารเคมี/ สารปรุงแต่ง/ สี/ และสารกันเสียประเภทต่างๆ สำหรับสินค้านำเข้าไว้อย่างละเอียด โดยหน่วยงาน Health Canada และ CFIA จะทำการปรับค่ากำหนดของสารต่างๆ เป็นระยะๆ ผู้สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฏระเบียบดังกล่าว ได้ที่
http://laws.justice.gc.ca/en/F-27
http://laws.justice.gc.ca/en/F27/C.R.C.-c.870
- ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่มี คุณสมบัติเฉพาะตัวมีกลิ่นหอม คุณภาพดี
- ข้าวหอมมะลิมีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคแคนาดาที่รับประทานข้าวเป็นอาหารหลักโดยเฉพาะชาวเอเซีย
- ข้าวหอมมะลิไทยแพร่หลายในแคนาดาเป็นเวลาช้านาน
- ประเทศไทยมีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับว่าเป็นทั้งผู้ผลิต และบริโภคข้าวเป็นหลัก
- ประเภทข้าวที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคแคนาดานั้น ข้าวไทยถือว่าเป็นข้าวที่มีราคาค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับ ข้าวญี่ปุ่น ข้าวบาสมาติ ข้าวเกาหลี หรือข้าว Risotto
-การบรรจุและรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยซึ่งเน้นผู้บริโภคกลุ่มเดิมมากกว่ารูปแบบที่ทันสมัยและแปลกตา -ราคาข้าวโดยเฉลี่ยของไทยสูงกว่าราคาข้าวจากสหรัฐอเมริกา -ลูกค้ากลุ่มใหม่ไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เนื่องจากไม่ทราบวิธีหุง (แม้กระทั่งการหุงจากหม้อหุงข้าวไฟฟ้า) และที่บรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่ก็ไม่มีแสดงวิธีการหุงและบริโภคกำกับไว้ อย่างเช่นบรรจุภัณฑ์ของสินค้าข้าวจากสหรัฐอเมริกา
-การโฆษณาประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดแคนาดายังมีไม่มากและไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร
- ประเทศแคนาดามีชาวเอเชียที่โอนสัญชาติเข้ามาอาศัยในประเทศแคนาดามากขึ้นทุกปี ส่งผลให้การบริโภคข้าวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในแคนาดามากยิ่งขึ้น
- คนแคนาดาคุ้นเคยกับอาหารไทยพอสมควร รวมทั้งภัตตาคารและร้านอาหารไทยได้รับความนิยมดีในแคนาดา -ผู้นำเข้าข้าวไทย โดยมากมักมีการวางแผนการตลาดเชิงรุก และมีการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในแคนาดาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และพยายามเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ทุกระดับรายได้ โดยใช้กลยุทธสร้างแบรนด์เนมหลากหลายแตกต่างกัน -ผู้นำเข้าข้าวไทยส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการเก่าแก่และมีความคุ้นเคยดี กับผู้ส่งออกไทยในลักษณะพันธมิตรทางการค้า
- ภูมิอากาศของประเทศแคนาดาไม่เหมาะสมกับการเพาะปลูกข้าว จึงต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ
- ไม่มีการกีดกันทั้งภาษี หรือ NTB เนื่องจากเป็นสินค้าที่ประเทศแคนาดาไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ
- ท่าเรื่อ Port of Vancouver เป็นท่าเรือ ที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากเป็นท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ มีกำลัง Storage Capacity มหาศาล และเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายหลัก ตลอดจนเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างทวีป (Intercontinental Railway) ทั้ง 3 สาย ทั้งนี้ Port Of Vancouver ยังเป็นจุดที่ เชื่อมเอเชียแปซิฟิก กับทวีบอเมริกาเหนือที่ใกล้ที่สุด โดยการขนส่งทางทะเลนั้นใช้เวลาเพียง 24 วัน (เร็วกว่าขนส่ง เอเชียแปซิฟิก-อเมริกา ถึง 2-3 วัน) ท่าเรือน้ำลึกอื่นๆ ในประเทศได้แก่ Port of Alberni, Port of Prince Rupert และ Crofton
- จากสถิติการค้าล่าสุด ระหว่าง มค-มิ.ย. 2553 (ณ ส.ค. 2553) นั้น แคนาดานำเข้าข้าวจากประเทศแม็กซิโกขยายตัวมากถึงร้อยละ 11,628.01 และจากฟิลิบปินส์ขยายตัวมากถึงร้อยละ 10,901.22 ในขณะที่นำเข้าจากไทยขยายตัวเพียงร้อยละ 34.24
- การที่ผู้บริโภคชาวเอเชียนิยมอาศัยในบริเวณเขตเมืองสำคัญๆ ของประเทศ ส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ข้าวเป็นไปได้ช้า เนื่องจากชาวแคนาดา (ชาว Caucasian) ในเมืองรอบนอกไม่มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมการบริโภคข้าวอย่างถูกต้องได้
- ผู้บริโภคชาวแคนาดาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่เป็นชาว Caucasian ยังไม่คุ้นเคยกับการบริโภคข้าวมากนัก
- สหรัฐมีการวิจัยด้านพันธุ์ข้าวอย่างต่อเนื่อง (อาทิ ข้าว Jazzmen) ซึ่งมีการพัฒนาคุณภาพและเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ
- ปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุด ทั้งด้านส่งออกและนำเข้า ทำให้การที่สหรัฐฯ มุ่งเน้นการผลิตข้าวเพื่อส่งออก มีผลเป็นทวีคูณ ด้านการแย่งส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวไทย (ปัจจุบันแคนาดานำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่ง และไทยเป็นอันดับสอง)
- จากผลกระทบเศรษฐกิจโลก และวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ประชาชนแคนาดาจึงมีระดับ Consumer Spending ลดลง โดยลดการจับจ่ายซื้ออาหารราคาแพงและลดระดับการทานอาหารนอกบ้าน
เนื่องด้วยสินค้าในแต่ละ 10 หมวดสำคัญสามารถตีความได้กว้าง ครอบคลุมได้หลายพิกัดสินค้า (ตาม Harmonized System Code) ดังนั้น เพื่อความชัดเจน เที่ยงตรงของการรายงานข้อมูล สคร. มีเกณฑ์การคัดเลือกพิกัดสินค้าเพื่อการวิเคราะห์สถานการณ์รายหมวดสินค้าสำคัญ ดังนี้
1. พิกัดสินค้าดังกล่าว ประเทศแคนาดามีการนำเข้าจากไทยในปัจจุบันจริง
2. พิกัดสินค้าดังกล่าว มีมูลค่านำเข้าสูง ในหมวดสินค้านั้นๆ เพื่อสามารถแสดงถึงภาพรวมภาวะการค้าระหว่างไทยแคนาดาได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้นในกรณีสินค้าข้าว สคร. พิจารณาใช้พิกัดสินค้า 1006
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์
ที่มา: http://www.depthai.go.th