ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีระบบการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ มีท่าเรือขนส่งสินค้าที่มีระบบลอจิสติกส์รองรับระดับโลก แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มกำลังจะถูกคู่แข่ง เมืองเซิ้นเจินแซงหน้า ในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา จำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือฮ่องกงเปรียบเทียบกับจำนวนที่ผ่านเซิ้นเจิน พบว่าจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ผ่านท่าเรือเซิ้นเจิน มีถึง 2.13 ล้านตู้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 40.3 เมื่อเทียบกับเดือนกค.ของปีที่แล้ว ในขณะที่ฮ่องกง มีตู้คอนเทนเนอร์ผ่าน 2.06 ล้านตู้ ขยายตัว ร้อยละ 9.7 ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นอยู่เช่นนี้ ฮ่องกง จะถูกเซิ้นเจินแย่งชิงตำแหน่งการเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่อันดับ 3 ของโลก
การขนส่งสินค้าทางคอนเนอร์ผ่านท่าเรือในเมืองเซิ้นเจิน ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกเดือน แม้ว่าในภาพรวมทั้งปี อาจยังมีจำนวนตู้คอนเทนเนอร์น้อยกว่าฮ่องกง แต่แนวโน้มยังเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดของฮ่องกง
เซิ้นเจิน กำลังจะอาจกลายเป็นเมืองที่สองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เบียดแซงฮ่องกง จากเดิมที่เซี้ยงไฮ้เคยแซงหน้าฮ่องกง ตั้งแต่ปี 2007 และปัจจุบันเซี้ยงไฮ้ถือเป็นท่าขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์ที่มีสินค้าผ่านมากที่สุดในโลก โดยมี สิงคโปร์ ตามมาเป็นอันดับสอง
Mr. Willy Lin Sun-mo ประธานสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือของฮ่องกง ให้ความเห็นว่า ระบบการขนส่งสินค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ มีการพัฒนาเป็นลำดับ ทำให้การส่งตรงจีนหรือผ่านฮ่องกง เริ่มไม่มีความแตกต่าง ดังนั้นต้นทุนค่าขนส่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาส่งสินค้า และหากฮ่องกงยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเซิ้นเจิน บริษัทขนส่งต่างๆ ก็จะส่งตรงจีน และจะไม่ใช้ฮ่องกงอีกต่อไป นอกจากนี้ ผลจากข้อตกลงเขตการค้าเสรี อาเซียน-จีน ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้มีสินค้าส่งผ่านระหว่างประเทศในอาเซียนกับจีนมากขึ้น โดยผ่านตรงเข้าเซิ้นเจินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่เคยผ่านฮ่องกง เนื่องจากหากผ่านฮ่องกงเพื่อเข้าไปในจีน จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐบาลจีนที่มาตั้งในฮ่องกง China Inspection Company Limited (CIC) ในอัตรา 200-300 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตู้ ขณะที่หากส่งตรงเซิ้นเจินไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้
สำหรับการเพิ่มของจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ผ่านท่าเรือเซิ้นเจินในเดือนกค. ส่วนใหญ่จะมาจากท่าเรือเซิ้นเจินฝั่งตะวันตก ซึ่งจะเป็นการค้ากับสหภาพยุโรปเป็นหลัก ในขณะที่ท่าเรือฝั่งตะวันออกจะเป็นการค้ากับสหรัฐอเมริกา จากสถิติดังกล่าวแสดงว่าการค้าระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปดีกว่าที่คาดไว้ ภาพรวมของ จำนวนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าที่ผ่านท่าเรือในจีนทั้งหมด ในเดือนกรกฎาคม ขยายตัว ร้อยละ 23 สูงกว่าที่คาดไว้ ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือจะขยายตัวในอัตราน้อยลง เนื่องจาก ยอดสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศจะลดความร้อนแรงลง จากความต้องการของผู้บริโภคในตลาดหลักเช่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปยังไม่ขยายตัวเต็มที่ ประกอบกับผู้ขายก็มีสินค้าเก็บไว้ในสต๊อกค์เพียงพอแล้ว
ส่วนสินค้าจากประเทศไทย เดิมกว่าร้อยละ 80 ของสินค้าโดยเฉพาะผลไม้ ที่ส่งขายจีน แถบเมืองลุ่มแม่น้ำเพริล์ จะส่งผ่านฮ่องกง เข้ากวางโจวเพื่อกระจายต่อ แต่ปัจจุบันส่งตรงจีนแถบเซิ้นเจินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่จะมีสินค้าที่มีราคาแพง เน้นคุณภาพสูง และตรงเวลาในการส่งมอบ ที่ยังนิยมส่งผ่านฮ่องกง ปัจจุบันได้มีความพยายามของทางการฮ่องกง ในการเจรจาเพื่อลงนามในความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทย และประเทศอาเซียน (Closer Economic Partnership Agreement: CEPA) เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่
สคร. ณ เมืองฮ่องกง
ที่มา: http://www.depthai.go.th