รมว.พาณิชย์รับคณะมาเก๊าเพื่อหารือพบปะหารือและเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในสาขาธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และเกษตรอุตสาหกรรม พร้อมดันมาเก๊าเป็นประตูการค้าในการกระจายสินค้าไทยไปยังประเทศที่ใช้ภาษาโปรตุเกส
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งคณะผู้บริหารระดับสูงของกรมส่งเสริมการส่งออก ได้ให้เกียรติต้อนรับ Mr. Jackson Chang ประธาน Macao Trade and Investment Promotion Institute (IPIM) และคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะและพบปะหารือกับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในสาขาธุรกิจต่างๆ เช่น สินค้าการเกษตร ธุรกิจบริการ สปาและเวชภัณฑ์
นางพรทิวา เผยว่า การเข้าพบดังกล่าวเพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางการค้าการลงทุนระหว่างไทย-มาเก๊า โดยเห็นพ้องว่าแม้ในปัจจุบัน การค้าระหว่างไทย-มาเก๊าจะมีมูลค่าเพียง 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่มาเก๊ามีศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงมากตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา ประกอบกับมาเก๊ามีความได้เปรียบในด้านทำเลที่ตั้งในฐานะประตูการค้าผ่านเมืองจูไห่ไปยังมณฑลตอนใต้และตะวันตกของจีน นอกเหนือจากนี้ ไทยยังสามารถใช้มาเก๊าเป็นประตูการค้าในการกระจายสินค้าไทยไปยังประเทศที่ใช้ภาษาโปรตุเกส เช่น บราซิล โปรตุเกส ได้อีกด้วย โดยจะใช้โอกาสในการเข้าร่วมงาน Macao International Trade and Investment Fair (MIF) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21- 24 ตุลาคม 2553 เพื่อผลักดันการค้าการลงทุนสองฝ่ายให้ขยายตัวเติบโตต่อเนื่อง
“ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2553 ไทยส่งออกสินค้าไปมาเก๊า 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าวมูลค่า 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เครื่องใช้สำหรับเดินทางมูลค่า 0.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทองแดงและสิ่งทำด้วยทองแดงมูลค่า 0.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์ข้าวมูลค่า 0.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปลามีชีวิตและพันธุ์ปลา มูลค่า 0.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปัจจุบัน มูลค่าการค้าระหว่างไทยมาเก๊า แม้ว่าจะมีมูลค่าไม่สูงมากนัก แต่ไทยก็เห็นถึงศึกยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีของมาเก๊า รวมทั้งสามารถใช้มาเก๊าเป็นประตูการค้าสู่จีน และประเทศที่พูดภาษาโปรตุเกสได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน มาเก๊าสามารถใช้ไทยเป็นประตูสู่ประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทิศทางการค้าของทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือพัฒนาให้เติบโตขึ้นได้ในอนาคต” นางพรทิวา กล่าวเพิ่มเติม
ไทยมีศักยภาพด้านการส่งออกสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เกษตรอุตสาหกรรม ทั้งสินค้าข้าว ผลไม้สด โดยปัจจุบัน ข้าวหอมมะลิไทย ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ทั้งในมาเก๊าและฮ่องกง ประมาณ ร้อยละ 80-90 เป็นการนำเข้าจากไทย มาเก๊านำเข้ามูลค่าเฉลี่ยปีละ 5-6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่มา: http://www.depthai.go.th