ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ผู้ส่งออกชาวจีนใน 4 มณฑล/เมือง ได้แก่ กรุงปักกิ่ง มณฑลกวางตุ้ง(รวมเมืองเซินเจิ้น) มณฑลซานตง (รวมเมืองชิงเต่า) และมณฑลเจียงซู สามารถนำเงินได้จากการส่งออกไปฝากไว้ที่ต่างประเทศ ซึ่งจะทดลองใช้เป็นเวลา 1 ปี
สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศแห่งชาติจีน ได้ออกประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกใน 4 มณฑล/เมือง เป็นเมืองนำร่องในการนำเงินจากการส่งออกฝากไว้ที่ต่างประเทศ โดยมีข้อกำหนดให้ผู้ส่งออกที่ เป็นธุรกิจนำเข้าส่งออกการค้าหรือธุรกิจบริการที่ถูกกฎหมาย และจะต้องได้รับอนุมัติหรือขึ้นทะเบียนกับสำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศ
นโยบายดังกล่าว เป็นการส่งเสริมให้มีการใช้เงินหยวนเป็นเงินตราในการค้าขายระหว่างประเทศและเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจจีนในการบริหารเงินทุนที่ได้รับจากการค้าขาย ให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในต่างประเทศ และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในต่างประเทศดังจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนมีมากเกินไป ทำให้เกิดความลำบากในการบริหารด้านการเงินมหภาค และยังช่วยผ่อนคลายภาวะเงินเฟ้อในประเทศจีน
นโยบายของจีนที่ผ่อนคลายให้นักธุรกิจจีนสามารถนำเงินได้จากการส่งออกไปฝากไว้ที่ต่างประเทศ อาจมีผลกระทบต่อตลาดเงินในประเทศที่จีนได้นำเงินไปฝากไว้ เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าหรือเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งไทยก็คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวและผลกระทบของการนำร่องนโยบายนี้อย่างใกล้ชิด
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ที่มา: http://www.depthai.go.th