ข้อมูลตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในสหราชอาณาจักร

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 15, 2010 11:57 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. การผลิตและความต้องการในประเทศ

สหราชอาณาจักรมีบริษัทผู้ผลิตอาหารสาหรับสุนัขรายใหญ่ที่เป็นบริษัทในเครือของบริษัทข้ามชาติ 2 ราย คือ

  • Mars UK Limited: บริษัทในเครือของ Mars ของสหรัฐฯ มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง 3 แห่งในสหราชอาณาจักร canning and pouch 1 โรง dry pet food 1 โรง complementary petcare 1 โรง ผลิตอาหารสุนัขภายใต้เครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงต่างๆ ได้แก่ Cesar; Pedigree; Royal Canin เป็นต้น
  • Purina Pet Care: บริษัทในเครือของ Nestle S.A. ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ในสหราชอาณาจักรรองจาก Mars Petcare มีโรงงาน 4 แห่งในสหราชอาณาจักรผลิตอาหารสุนัขภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เช่น Purina; Proplan; Bakers; Beta

ตัวเลขจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในสหราชอาณาจักร (Pet Food Manufacturers' Association-pfma) ระบุตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2009 มีมูลค่ากว่า 2 พันล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า โดยประมาณร้อยละ 47 ของครัวเรือนชาวอังกฤษเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ซึ่งปลา แมว และสุนัข ยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม และชาวอังกฤษมีแนวโน้มซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพสูง เกรดพรีเมี่ยม เน้นด้าน healthy และ nutrition เป็นหลัก ทั้งนี้ ตลาดอาหารสุนัขมีมูลค่าสูงเป็นอันดับหนึ่งของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

ตลาดอาหารสาหรับสุนัขแบบสาเร็จรูป (prepared dog food)มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านปอนด์ โดยอาหารสุนัขแบบแห้ง (dry) มีมูลค่าสูงสุดที่ 449 ล้านปอนด์ รองลงมา คือ อาหารสุนัขแบบเปียก (wet) ที่ 325 ล้านปอนด์ และขนมขบเคี้ยวต่างๆ (dog treat) ที่ 214 ล้านปอนด์ ทั้งนี้ ประมาณร้อยละ 60 ของอาหารที่สุนัขบริโภคเป็นอาหารสาเร็จรูป

ตลาดอาหารสาหรับแมวแบบสำเร็จรูป มีมูลค่า 866 ล้านปอนด์ โดยอาหารแมวแบบเปียกประเภท single-serve food มีมูลค่าสูงสุดที่ 476 ล้านปอนด์ ตามด้วยอาหารแมวแบบแห้ง 196 ล้านปอนด์ และอาหารแมวแบบเปียกประเภท multi-serve food 158 ล้านปอนด์ ทั้งนี้ ประมาณร้อยละ 65 ของอาหารที่แมวบริโภคเป็นอาหารสาเร็จรูป

Pet Food Manufacturers'Association (PFMA) เป็นสมาคมที่เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของสหราชอาณาจักร ปัจจุบันมีสมาชิก 60 บริษัท คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 90 ของตลาดสหราชอาณาจักร รายชื่อสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในสหราชอาณาจักร สามารถค้นหาได้จาก website ของ PFMA ที่http://www.pfma.org.uk/ โดย click ที่ about us จากนั้น click ที่ our members โดยแต่ละสมาชิกของสมาคมฯ มีการ sourcing วัตถุดิบ/ส่วนประกอบ (ingredients) ของอาหารสัตว์จากแหล่งต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

2. การนำเข้า

สถิติล่าสุด ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 สหราชอาณาจักรมีการนำเข้าอาหารสัตว์จากทั่วโลกมูลค่า 482.14 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.89 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้น สหรัฐฯ ไทย และจีน การนำเข้าจากทุกประเทศมีอัตราการขยายตัวเป็นบวก ยกเว้นบางประเทศที่มีการนำเข้าลดลง เป็นที่สังเกตว่า สหราชอาณาจักรมีการ diversify แหล่งนำเข้า โดยมีการนำเข้าจากสหรัฐฯ สาธารณรัฐเชค และจีน เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะสาธารณรัฐเชค การนำเข้าการไทยอยู่ในอันดับ 8 ด้วยมูลค่า 14.40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.62 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ปัจจุบัน ผู้นำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่จากประเทศไทย ประกอบด้วยเครือซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ในสหราชอาณาจักร ได้แก่ Asda Stores Limited; Costco Wholesale UK Limited; Sainsbury's Supermarkets Limited นอกจากนี้ ยังมีผู้ค้าส่งรายใหญ่และร้าน pet shop ขนาดใหญ่ ได้แก่ Pedigree Wholesale Limited ; MARS UK Limited; Crown Pet Foods Ltd (Royal Canin); Pets At Home Limited; Almo Nuture UK Ltd เป็นต้น

3. กฎระเบียบด้านการนำเข้า

สินค้าอาหารสัตว์นาเข้าต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องจานวนมาก ได้แก่

3.1 Regulation (EC) No 1774/2002/EC มีข้อกาหนดในการนาเข้าสินค้าอาหารสัตว์ ดังนี้

3.1.1 มาตรา 6(1) (a) ถึง (j) กำหนด animal by-products ที่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมขบเคี้ยวของสุนัข

3.1.2 สินค้าอาหารสัตว์นำเข้าจะต้องผลิตจากประเทศที่สามที่ได้รับความเห็นชอบจากสหภาพยุโรป (approved third country) ดังมีบัญชีรายชื่อประเทศปรากฏใน Part 1 ของ Annex II ของ Council Decision 79/542/EEC นอกจากนี้ ต้องผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองจาก competent authority ของประเทศผู้ส่งออก

3.1.3 สินค้าที่ส่งออกในแต่ละ consignment ต้องมีใบรับรองด้านสุขอนามัย (animal health certificate) ที่ออกโดยหน่วยงานที่เป็น competent authority ในประเทศผู้ส่งออก ตาม Chapter 3A ของ Annex X ของ Regulation (EC) No 668/2004 ซึ่งในกรณีของประเทศไทย คือ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

3.1.4 กระบวนการในการผลิตสินค้าอาหารสัตว์ต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดใน Annex VIII, Chapter II ของ Regulation (EC) No 1774/2002

3.2 Feeding Stuff Regulations 2005 มีข้อกาหนดที่สาคัญ ดังนี้

3.2.1 ข้อกาหนดเกี่ยวกับการปิดฉลาก (labelling) ที่ให้ผู้ผลิตต้องระบุข้อมูลที่ถูกต้อง ครอบคลุม และชัดเจน

3.2.2 ข้อกาหนดเกี่ยวกับส่วนผสม additives ที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารสัตว์เลี้ยง

3.2.3 ห้ามการปนเปื้อน (contaminants) ของสารดังต่อไปนี้ aflatoxin; lead; mercury; arsenic; pesticides สูงกว่าระดับที่กาหนดไว้

4. สรุปแนวโน้มลู่ทางตลาด

4.1 สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่นิยมสัตว์เลี้ยง และให้ความสาคัญกับสวัสดิภาพและสุขภาพอนามัยสัตว์ ปัจจุบัน แม้ว่าสหราชอาณาจักรจะมีการผลิตอาหารสุนัขและแมวเพื่อส่งออกก็ตาม แต่สหราชอาณาจักรมีการนาเข้าสินค้าอาหารสุนัขและแมวมากกว่าส่งออก โดยมีการนาเข้าในปริมาณและมูลค่าสูง การนำเข้าจากประเทศไทยซึ่งเคยอยู่ในอันดับที่ 15 เมื่อปี 2547 ได้ปรับขึ้นมาเป็นอับดับที่ 7 ในปี 2552 ภายในเวลาเพียง 5 ปี ชี้ให้เห็นว่า อาหารสุนัข/แมวจากประเทศไทยเป็นสินค้าที่มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ดีในตลาดนี้ซึ่งยังเป็นตลาดที่เน้นอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ ลู่ทางการขยายตลาดควรเน้นอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดคุณภาพสูง และเสริมสุขภาพอนามัย (healthy diet) ของสัตว์เลี้ยง รวมทั้งอาหารสัตว์เลี้ยงประเภทของขบเคี้ยวกินเล่น อนึ่ง เนื่องจากสหราชอาณาจักรเพิ่งหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่าและมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ประกอบกับมีผู้ตกงานจานวนมาก ทาให้ผู้บริโภคยังจาเป็นต้องประหยัด และให้ความสาคัญกับราคาในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า การนำเข้าจากแหล่งสินค้าอาหารสัตว์ราคาถูก คือ จีน และสาธารณรัฐเชค มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก

4.2 อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกควรจะต้องให้ความสาคัญและศึกษากฎระเบียบการนำเข้าให้ชัดเจน เนื่องจาก สหราชอาณาจักรในฐานะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรปซึ่งมีอยู่จานวนมากและเข้มงวด และควรเน้นด้านคุณภาพสินค้า และการสร้างเครื่องหมายการค้าของตนเอง เนื่องจากหากผู้บริโภคมีความมั่นใจในแบรนด์แล้ว ผู้ประกอบการไทยจะได้ฐานลูกค้าประจา

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ