ตลาดข้าวไทยในแคนาดาฝั่งตะวันออก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 15, 2010 12:18 —กรมส่งเสริมการส่งออก

1. ตลาดข้าวในแคนาดาฝั่งตะวันออก

1.1 การผลิตข้าวของแคนาดา

  • ประเทศแคนาดามีการผลิตข้าวน้อยมาก โดยข้าวที่ผลิตได้เป็นพันธุ์ที่เรียกวา Wild Rice ซึ่งถือกันว่าเป็นอาหารชนิดั่พิเศษที่มีราคาแพง มีไฟเบอร์สูง และปลูกได้ในประเทศเมืองหนาวเท่านัน ทัง้นี้ มีปริมาณการผลิตปีละ 1.5 - 2 พันตัน นอกจากนี ยังมีข้าวสาลีที่แคนาดาสามารถผลิตได้ปีละประมาณ 13.3 ล้านตัน ข้าวหอมมะลิ หรือข้าวขาวชนิดอื่นๆ ไม่สามารถเพาะปลูกได้ในแคนาดา
  • นโยบายข้าวของแคนาดา

แคนาดามีอากาศที่หนาวเย็น บางพืนที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี ทำให้มีพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกข้าวคอนข้างจำกัด และผลผลิตข้าวภายในประเทศมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอสำหรับการบริโภค แคนาดาจึงจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าข้าวจากทัวโลก ซึ่งเป็นการนำเข้าโดยภาคเอกชนเท่านัน ภาครัฐไมได้เข้ามาเกยวข้องในเรื่องของเกบสต็อกสินค้าข้าวในประเทศ และไม่มีนโยบายการควบคุมหรือจำกดการผลิตและการนำเข้า นอกจากนี้ ประชากรของประเทศส่วนใหญไม่ได้บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก

1.2 การบริโภค กลุมผู้บริโภคข้าวเป็นหลักในแคนาดา ได้แก่กลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชีย และชาวตะวันตกในเมืองสำคัญๆ ของประเทศ โดยกลุมผู่บริโภคข้าวที่ใหญที่สุดในแคนาดา คือ จีน รองลงมาได้แกผู้บริโภคจากกลุมประเทศเอเชียใต้ อินเดีย ศรีลังกา แนวโน้มการบริโภคข้าวในแคนาดาเพิมสูงขึน เนื่องจากการหลังไหลของชาวเอเซียที่ย้ายถินฐานมายังแคนาดาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายเปิดรับคนตางชาติขอ้งแคนาดา ( Immigration Policy) และมุมมองของชาวแคนาดาที่มีตอสินค้าข้าววาเป็นสินค้าที่มีคุณคาทางโภชนาการที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกบ ขนมปัง พาสต้า (ที่ผลิตจากข้าวสาลี)

  • ประเภทของข้าวที่บริโภคในประเทศ แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่
  • ข้าวหอมมะลิ (Hom Mali Rice) ที่มีเมล็ดความยาวระดับกลาง มีกลิ่นหอม ที่มีกลุ่มผู้บริโภคหลักได้แก่ ชาวแคนาดาเชื้อสายเอเซีย จีน ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว กมพูชา ฯลฯ
  • ข้าวนึ่ง (Parboiled Rice) ข้าวขาวที่ได้ผ่านกระบวนการทำข้าวนึ่งและขัดเอารำออกแล้ว ที่ง่ายสะดวกในการปรุงอาหาร ที่มีกลุ่มผู้บริโภคหลักได้แก ชาวแคนาดาคอเคเซียนผิวขาว (Caucasian) ที่เป็นตลาดหลักในแคนาดา (Mainstream Market)
  • ข้าวขาวสั้น (Short Grain Rice) ที่มีลักษณะเหมือนข้าวเหนียว ที่มีเมล็ดสันและใช้ตะเกียบในการบริโภค โดยกลุ่มบริโภคได้แกชาวเอเซียเชื้อสาย ญี่ปุ่น เกาหลี
  • ข้าวขาว (Long Grain Rice) ที่มีลักษณะคล้ายข้าวหอมมะลิ แต่ไม่มีกลิ่นหอม ที่ส่วนให่ญนำเข้าจากสหรัฐฯ ที่มีกลุ่มผู้บริโภคหลักได้แก่ชาวแคนาดาเชื้อสายเอเซีย
  • ข้าวบาสมาติ (Basmati Rice) มีลักษณะขาว ยาว และรวน ที่มีกลุ่มผู้บริโภคหลักได้แก ชาวแคนาดาเชื้อสาย เอเซียใต้ อินเดีย ปากสถาน บังคลาเทศ ฯลฯ
  • ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวธัญพืช ข้าวอินทรีย์ โดยเป็นข้าวประเภทที่มีคุณคาทางโภชนาการ ราคาสูง โดยกลุ่มผู้บริโภคหลัก ได้แก่ ชาวแคนาดาผิวขาว รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้สูง ที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ
  • ปริมาณการบริโภค แคนาดามีประชากรรวม 34 ล้านคน (เมษายน 2553 1) บริโภคข้าวในปี 2552 ประมาณ 383,018,000 กโลกรัม (สามร้อยแปดสิบสามล้านหนึ่งหมื่นแปดพันกโลกรัม) หรือประมาณ 11.60 กโลกรัมตอคน
  • รสนิยมในการบริโภค แบ่งตามกลุ่มผู้บริโภคหลัก 2 ดังนี้ (1)กลุ่มผ้บริโภคชาวแคนาดาเชื้อสายเอเชียและชาวเอเซีย กลุ่มผู้บริโภคกลุมนีมีอัตราการบริโภคตอคนคอนข้างสูง จึงนิยมซือข้าวหอมมะลิที่บรรจุถุงขนาดใหญ คือขนาด 18 ปอนด์ (8.17 กโลกรัม), 20 ปอนด์ (9.07 กโลกรัม) , 40 ปอนด์ (18.18 กโลกรัม) และ ข้าวเหนียว ข้าวซ้อมมือ ขนาด 4.40 ปอนด์ (2 กโลกรัม) บรรจุในถุงพลาสติกหรือกระสอบป่าน ซึ่งผู้บริโภคกลุมนีจะเน้นถึงคุณภาพและราคาเป็นหลัก โดยข้าวหอมมะลิของไทยจัดได้วาเป็นข้าวยอดนิยมเป็นสุดยอดของข้าวที่ดีและมีความนุมนวล มีกลิ่นหอม ผู้บริโภคจะสังเกตคำว่า Jasmine Rice, Thailand เป็นหลัก โดยเครื่องหมายการค้าจะเป็นลำดับรอง และเปรียบเทียบราคาในแตละยี่ห้อเป็นปัจจัยสำคัญ

เกณฑ์การพิจารณาคุณภาพข้าวของผู้ซือกลุมนี จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาดังนี

  • ผู้บริโภคชาวเอเซียจะชอบข้าวขาว 100% มากกวาข้าวที่ปนข้าวพันธุ์อื่นๆ หรือมีสวน่ผสมปนน้อยที่สุด
  • คุณภาพของข้าวต้องไมมีสิงอื่นเจือปน ได้แก่ แมลง หญ้าเมล็ดพืช ข้าวเปลือก ฝุ่นสกปรกและกรวดหิน
  • เมล็ดข้าวมีขนาดยาว รูปทรงสม่ำเสมอแบบเดียวกน ไมแตกหัก
  • ข้าวหอมมะลิจะต้องมีกลินหอมที่สามารถทดสอบได้ มีกลินที่แตกตางจากข้าวธรรมดา (2)กล่มผ้บริโภคูชาวแคนาดาเชื้อสายคอเคเซียน (Mainstream Market) กลุมผู้บริโภคกลุมนี ได้แกกลุมชาว่แคนาดาผิวขาว ชาวตะวันตกผิวขาวซึ่งเป็นกลุมชนสวนใหญ และตลาดคอนข้างใหญ กลุมผู้บริโภคกลุมนีชอบข้าวชนิด Long grain ขนาดบรรจุไมใหญนักประมาณ 350 กรัม - 2 กโลกรัม เป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุด พฤติกรรมผู้บริโภคในกลุมนี จะเน้นถึงสุขภาพเป็นสำคัญ จึงบริโภคข้าวแบบตางๆ เชนข้าวเมล็ดยาว ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวป่า (wild rice) ไม่นิยมที่จะบริโภคข้าวเปล่าๆ แตมักจะผสมรสชาติอื่นๆ ได้แก เนยและซอสปรุงรสต่างๆ ชาวคอเคเซียนหรือกลุม่ชนผิวขาวมีพฤติกรรมต้องการความรวดเร็วและทันสมัย จึงชอบอาหารที่เตรียมแบบงายๆ และรวดเร็ว ยังไมนิยมหุงข้าว แบบคนเอเซียหรือใช้หม้อหุงข้าว แต่จะประกอบอาหารโดยใช้ หม้อหรือถาดสำหรับเตาอบ และเตาไมโครเวฟ ข้าวที่นิยมจึงเป็นข้าวพร้อมบริโภค ที่ไม่ต้องมีการต้องทำความสะอาด(ซาวข้าว) ก่อนการปรุงอาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์ข้าวของ Uncle Ben's Minute Rice มีขนาดบรรจุพร้อมบริโภคจะมีขนาด 130-250 กรัม บางกลองจะมีสวนผสมรสชาติตางๆ เรียกวา "special rice" โดยใช้เวลาปรุงสันมาก ประมาณ 5-20 นาที เครื่องหมายการค้าเป็นสิงสำคัญเพราะผู้บริโภคจะเน้นถึง คุณภาพและตามด้วยราคา ถ้าพอใจยี่ห้อใดก็จะประทับใจและเชื่อถือยี่ห้อนัน และมีความจงรักภักดีตอ่ยี่ห้อที่เชื่อถือโดยตลอด
การนำเข้า/ส่งออก
  • สินค้าข้าวที่บริโภคในแคนาดาเกอบทังหมดนำเข้าจากตางประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ ไทย อินเดีย ปากสถาน อิตาลี เป็นหลัก โดยในปี 2552 มีมูลค่าการนำเข้า 301.408 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.54% จากในปี 2551 ที่มีมูลค่า 293.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • การนำเข้าข้าวจากไทย ปี 2552 ปริมาณ 79,849 ตัน มูลค่า 73.02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ครองส่วนแบ่งตลาด24.23% (คิดจากมูลคาการนำเข้า) 22.13 % (คิดจากปริมาณการนำเข้า) นำเข้าระหวางมกราคม-มิถุนายน 2553 มีปริมาณ 41,914 ตัน มูลคา 42.73 ล้านเหรียญสหรัฐ ครองสว่นแบ่งตลาด 28.22% (คิดจากมูลคาการนำเข้า) 23.60% (คิดจากปริมาณการนำเข้า)

การจัดจำหน่ายในประเทศ

ช่องทางการจัดจำหน่าย

ชองทางการจัดจำหนายในแคนาดา จะผ่านผู้นำเข้ารายใหญรายสำคัญในประเทศโดยสวนใหญ จะมีการนำเข้าตลอดทั้งปี (มีการนำเข้าทกสัปดาห์ โดยไม่นิยมสต็อกสินค้าหรือสั่งสินค้าครั้งละมากๆ ) โดยไมมี การแยกประเภทข้าวใหม่ (New Crop) หรือข้าวเกา (Old Crop) ท้งนี้ร้านอาหารไทย/จีน ส่วนใหญ่นิยมซื้อข้าวเก่า เนื่องจากเป็นข้าวที่หุงขึนหม้อและเม็ดสวยเหมาะกบการไปปรุงอาหารข้าวผัด (ผู้นำเข้าจะสัง่นำเข้าข้าวเกาในเดือน มิ.ย. - ก.ค. ของแตละปี่) ทั้งนี้ช่องทางการจัดจำหน่ายในแคนาดา 2 ประเภท ได้แก่

*ผู้นำเข้า -> ผู้ค้าสง -> ผู้ค้าปลีก -> ผู้บริโภค

*ผู้นำเข้า -> ค้าปลีก (ห้างสรรพสินค้า Chain Store อาทิ Loblaw, Wal-Mart) -> ผู้บริโภค

*ผู้นำเข้าแคนาดาส่วนใหญ่ต้องการทำการค้ากบผู้ส่งออกเดิมที่รักษาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และการส่งมอบสินค้าตรงเวลาที่กำหนด ไม่นิยมซื้อขายกับผู้ส่งออกรายใหม่

กฏระเบียบการนำเข้าและการส่งออก
  • ไมมีกฎระเบียบพิเศษเฉพาะและไมมีข้อจำกดในการนำเข้า
  • หลักเกณฑ์เรื่องบรรจุภัณฑ์และข้อความกากบ สวนประกอบและความปลอดภัย เป็นไปตามั่ข้อกาหนด ของกฎระเบียบวาด้วยอาหารและยา กฎระเบียบวาด้วยการบรรจุและข้อความกากบ สามารถค้นหาข้อมูลเพิมเติมได้ที่ http://www.hc-sc.gc.ca/fn-an/label-etiquet/index-eng.php
  • ในกรณีที่นำเข้ามาเพื่อจำหนายปลีก ต้องมีฉลากภาษาอังกฤษและฝรังเศสกากบ พร้อมกบ ข้อมูลโภชนาการ http://www.hc-sc.gc.ca/fn-an/label-etiquet/nutrition/reg/index-eng.php ราคาจำหน่ายในประเทศ (สำรวจ ณ วันที่ 1 ก.ย. 2553)

แคนาดาฝั่งตะวันตก

  • ข้าว Indian Basmati: ขนาดถุง 10 lb - ราคา ประมาณ 9-10 เหรียญแคนาดา
  • ข้าวหอมมะลิไทย: ขนาดถุง 40 lb - ราคาประมาณ 30 เหรียญฯ
  • ข้าว Long Grain (White) ไทย: ขนาดถุง 40 lb - ราคาประมาณ 19 เหรียญฯ
  • ข้าว Long Grain (White) เวียดนาม: ขนาดถุง 40 lb - ราคาประมาณ 18 เหรียญฯ

แคนาดาฝั่งตะวันออก

  • ข้าว Indian Basmati: ราคา ประมาณ 1.99 เหรียญฯ/ปอนด์
  • ข้าวหอมมะลิไทย: ราคาประมาณ 0.72-0.99 เหรียญฯ/ปอนด์
  • ข้าวขาวสหรัฐฯ: ราคาประมาณ 0.66-0.88 เหรียญฯ/ปอนด์
กฏระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้าวและผลิตภัณฑ์
  • กฏระเบียบ การระบุข้อมูล Food Allergies and Intolerances ควบคุมโดยหนวยงาน Health Canada สามารถค้นหาข้อมูลได้ที่ http://www.hc-sc.gc.ca/fn-an/securit/allerg/index-eng.php *กฏระเบียบสินค้าเกษตรอินทรีย์ (Organic Product) ควบคุมโดยหนวยงาน CFIA (Canadian Food Inspection Agency) สามารถค้นหาข้อมูลได้ที่ http://www.inspection.gc.ca/english/fssa/orgbio/orgbioe.shtml พันธกรณีผกพันระหว่างไทย-แคนาดา
  • ไมมี ปัญหา/ อปุสรรคของการจำหน่ายข้าวไทย
  • ข้าวไทยมีราคาสูงกวาคูแขง่จากสหรัฐอเมริกา
  • มีการปลอมปนข้าวไทย ทำให้ความเชื่อถือในคุณภาพของข้าวไทยลดลง
  • ผู้สงออกไทยบางรายไมทำการค้าแบบยังยืน อาทิ ไมรักษาคุณภาพข้าว ไมรักษาสัญญาสงมอบข้าว
  • ตราสินค้าข้าวของไทยยังไมได้รับการยอมรับ และรู้จักกันแพร่หลาย
กลยุทธ์การตลาดข้าวไทยในแคนาดา
  • การใช้แบรนด์ของผู้ส่งออกไทย ข้าวหอมมะลิไทยที่จำหน่ายในแคนาดา ส่วนใหญ่จะใช้ตรายี่ห้อ ของผู้นำเข้า อาทิ Oxhead, Rose Brand หรือ Golden Phoenix โดยเป็นตราสัญลักษณ์ ที่ผู้นำเข้าเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน หากข้าวไทยมีราคาสูงขึ่นหรือผลผลิตน้อย ผู้นำเข้าต้องการลดต้นทุน จึงอาจจะเปลี่ยนไปนำเข้าจากประเทศคูแขง่โดยยังคงใช้แบรนด์สินค้าเดิม ผู้ส่งออกไทยจึงควรหันมาส่งออกสินค้าข้าวภายใต้ตราสินค้าของตนเอง เพื่อครองส่วนแบ่งตลาดของข้าวไทยไว้การทำตลาดเชิงรกร่วมกับผ้นำเข้า (Marketing Leader/Partnering )โดยผู้สงออกไทยทำตลาดสินค้าเชิงรุก (อาทิ การจัดทำ In-Store Promotion, การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อตาง ๆ ) รวมกบผู้นำเข้า/ห้างร้าน Chain Store เพื่อสร้างความต้องการบริโภคข้าว (Demand Pull) ขยายและครองส่วนแบ่งตลาดอย่างยั่งยืน การพัฒนาหีบห่อบรรจภัณฑ์ ผู้สงออกไทยควรพัฒนาการบรรจุหีบหอให้สอดคล้องกบรสนิยมของผู้บริโภคในตลาดหลัก (Mainstream Market) ที่เป็นชาวแคนาดาเชือสาย Caucasian ไมนิยมซือข้าวในถุงขนาดใหญ แต่นิยมซือข้าวถุงขนาด 500 กรัม, 1,000 กรัม หรือขนาดที่ใช้ปรุงหุงเป็นครั้งๆ (ไม่นิยมเก็บข้าวสาร เนื่องจากมีการบริโภคไม่บ่อยครั้งต่อสัปดาห์) และข้าวไม่ใช่อาหารหลัก แต่เป็นอาหารเครื่องเคียง (Side dishes) เช่นเดียวกับ มันฝรั่งต้ม สลัดผัก เป็นต้น
  • การเพิ่มมูลค่าสินค้าข้าว โดยการพัฒนาสินค้าข้าวใหม่ (Innovative Product) อาทิ ข้าวที่ผสมของข้าวซ้อมมือ (Thai Hom Mali with Brown Rice) ข้าวที่พร้อมรับประทาน (Ready to Eat Rice) ข้าวที่สามารถหุงได้โดยไมโครเวฟ (ที่ไม่ต้องใช้หม้อหุงข้าว) ข้าวที่ผสมธัญพืช ขนมระหว่างที่ทำจากข้าว เส้นสปาเกตตี เส้นมักโรนี เป็นต้น
  • การส่งออกข้าวที่มีมาตรฐานข้าวหลากหลาย ข้าวหอมมะลิไทยที่จำหนายในแคนาดา สวนใหญจะมีมาตรฐานเดียว ซึ่งทำให้เกดข้อิจำกดเรื่องของราคา และความหลากหลาย โดยผู้สงออกไทยอาจสงออกข้าวหอมมะลิที่มีหลายเกรด ข้าวประเภทข้าวขาวยาว (Long Grain) หรือ ข้าวนึ่ง (Parboil Rice) ซึ่งเป็นสินค้าที่ศักยภาพในแคนาดา
  • การเข้มงวดการใช้ตรารับรองคณภาพข้าวหอมมะลิของกรมการค้าต่างประเทศ ควรมีการเข้มงวดการใช้ตรารับรองคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยที่ประทับบนถุงข้าวสงออก เพื่อป้องกนการปลอมแปลงการใช้ตราประทับสำหรับข้าวที่ไมได้มาตรฐาน
  • การจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก ได้แก่การจัดกจกรรม In-Store Promotion ในห้างเครือขาย การประชาสัมพันธ์ผานสื่อตางๆ การจัดทำ Business Matching การจัดคณะผู้แทนการค้าไปเยือนงานแสดงสินค้า
  • การให้ความร้แก่ผ้บริโภคู (Raise Consumer Awareness) ตลาดข้าวแคนาดาเป็นตลาดที่ออนไหวตอราคาสินค้าโดยดูจากคุณภาพสินค้าเป็นหลักด้วย การให้ความรู้ตอผู้บริโภคถึงวิธีการหุง คุณภาพข้าว ความแตกตางของข้าวไทยตอคูแขง จะสามารถขยายตลาดสงออกข้าวได่
  • การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผ้นำเข้าข้าวแคนาดา โดยการรักษาคุณภพา การรักษาสัญญา (Commitment) การสร้างความเชื่อถือไว้วางใจ (reliability) การพัฒนาคุณภาพและผลิตภัณฑ์ใหม (Adaptability) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยสามารถครองตลาด และขยายตลาดสงออกได้อยางยังยืน่

สำนักงานสงเสริมการค้าระหวางประเทศ ณ นคร โตรอนโต

ที่มา: http://www.depthai.go.th


แท็ก ข้าวไทย   Rice  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ