การทดสอบความปลอดภัยอาหารทะเลในอ่าวเม็กซิโก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 20, 2010 16:43 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เมื่อประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้อนุญาติให้มีการเปิดการตกปลาจับกุ้งและสัตว์ทะเลในน่านน้ำอ่าวเม็กซิโก ที่ได้รับผลเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมจากการรั่วไหลของน้ำมันในท้องทะเลในช่วงเดือนเมษายน - กรกฎาคม 2553 แต่กลุ่มชาวประมงบางกลุ่ม นักวิทยาศาสตร์อิสระ และกลุ่มผู้บริโภคหลายกลุ่ม ยังต่อต้านการเปิดการทำประมงอย่างรวดเร็วโดยขาดการศึกษาต่อผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ กลุ่มที่ต่อต้านดังกล่าว ได้เรียกร้องให้มีความรัดกุมในกระบวนการทดสอบเพื่อวัดความปลอดภัยของอาหารทะเล โดยเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบทุกรายการและได้ขอให้มีการจัดสรรเงินทุนเพื่อการวิจัยมากขึ้น ชาวประมงในพื้นที่รอบอ่าวเม็กซิโกต่างคาดกันว่ายังคงต้องให้เวลาอีกระยะเวลานานกว่าความมั่นใจเกี่ยวกับสินค้าทะเลจากการประมงจากอ่าวเม็กซิโก จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการรั่งไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้คลี่คลายลงแล้ว และกระบวนการทดสอบต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2553 ได้ชี้ผลว่า สินค้าประมงที่จับได้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานของอาหารทะเลปกติ

สถาบันบริหารน่านน้ำและภาวะแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration- NOAA) ได้ร่วมมือกับสถาบันอาหารและยา (FDA) สถาบันป้องกันสิ่งแวดล้อม (Evironmental Protection Agency) และเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้และสัตว์ป่าของรัฐต่างๆ รอบๆ อ่าวเม็กซิโก เพื่อทำการทดสอบความปลอดภัยด้านอาหารของสัตว์น้ำที่จับได้ในพื้นที่อ่าว เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การระเบิดบ่อขุดน้ำมัน ณ Deep Horizon

การทดสอบความปลอดภัยของอาหารทะเลสำหรับสินค้าประมง ต้องผ่านกระบวนการทดสอบสองขั้นตอน เมื่อไม่พบเห็นน้ำมันลอยบนผิวน้ำ ขึ้นแรกเป็นการทดสอบอย่างง่าย ๆ โดยพนักงานตรวจสอบ ที่ตระเวนสุ่มจัดตัวอย่างในหมู่ชาวประมง และในโรงงานที่เตรียมอาหารทะเลทั้งหลาย จะดมตัวอย่างอาหารทะเลที่จับได้เป็นร้อย ๆ ตัวอย่างสำรับพื้นที่น้ำในอ่าวพื้นที่หนึ่ง หากปลา กุ้ง หรือสัตว์ประมงที่จับได้ มีกลิ่นน้ำมันหรือกลิ่นของสารเคมีที่ ได้ฉีดกระจ่ายลงไปในอ่าวเพื่อการสลายน้ำมัน ติดตามตัวอย่างดมกลิ่นได้อย่างชัดเจนเขตพื้นที่น้ำที่จับตัวอย่างปลานั้น ๆ จะไม่ได้รับการอนุมัติให้เปิดน่านน้ำเพื่อการประมง ในกรณีตัวอย่างที่พนักงานตรวจดมแล้วไม่พบว่ามีกลิ่นน้ำมันหรือสารเคมีติดตัวอย่าง

พนักงานตรวจสอบต้อง จัดตัวอย่างใส่ขวดบรรจุในกล่องน้ำแข็งแห็งส่งไปทำการทดสอบด้านเคมีในศูนย์ทดสอบของ NOAA ที่อยู่ที่เมืองนคร Seattle อีกขั้นหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า ในจำนวน 1,700 กลุ่มตัวอย่างที่ได้ทดสอบทั้งหมด มีเพียงตัวอย่างเดียวที่ไม่ผ่านการทดสอบ ซึ่งเป็นการทดสอบที่ได้ทำในช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา ในพื้นที่อ่าว Orange Beach รัฐ Alabama จึงได้มีการอนุมัติเปิดน่านน้ำในอ่าวเม็กซิโกเพื่อการประมงในพื้นที่ประมาณร้อยละ 70 ของอ่าว ทั้งนี้ ผลผลิตการประมงของอ่าวเม็กซิโกมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 20 ของการผลิตสินค้าอาหารประมงภายในของสหรัฐฯ

การทดสอบความปลอดภัยด้านอาหารของสินค้าอาหารทะเล โดยกระบวนการทางเคมี จะเป็นการทดสอบหาสารที่เรียกว่า polycyclic aromatic hydrocarbons หรือ PAH ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในอาหารโดยทั่วไปที่เพาะปลูกในพื้นที่ ๆ ได้รับมลภาวะสูงหรือจากการย่างเผาของอาหารในอุณหภูมิที่สูง PAH เป็นสารที่เกิดได้จากมลภาวะจากน้ำมัน จากควันรถยนต์ จากการย่างเผา แม้กระทั่งจากควันบุหรี่ หรือจากการรมควัน มาตรฐานระดับ PAH ที่ถือว่าเป็นอันตรายต่อการบริโภค คือระดับ 12 หรือ 35 ส่วนของ benzo(a)pyrene ต่อพันล้าน (ppb) สัดส่วนของ benzo(a)pyrene ที่ได้ค้นพบในพื้นที่แถวรัฐ Florida มีแค่ 1 ppb ส่วนการทดสอบความปลอดภัยด้านอาหารของสินค้าอาหารทะเล จากสารที่ใช้ละลายน้ำมันยังอยู่ระหว่างการพัฒนา และได้รับการวิจารณ์จากผู้ที่คัดค้านการเปิดประมงอย่างรวดเร็ว

สาเหตุที่ปลาที่ว่ายน้ำในพื้นอ่าวที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมัน ไม่แสดงผล PAH สูง เป็นเพราะว่า ปลาจำพวกที่นำมาเป็นอาหารทะเล เช่น ปลาเก๋า ปลาทูน่า และปลากระพง มีกระบวนการเผาผลาน (metabolize) PAH ได้อย่าวรวดเร็ว จึงมักจะมีการอนุมัติให้เปิดการจับปลาในพื้นที่น้ำทะเลที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมัน ได้ก่อนสัตว์น้ำประมงอื่น ๆ การเผาผลาน PAH ของกุ้งจะอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะนี้ ได้มีการอนุมัติให้จับกุ้งได้แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดการอนุมัติการจับปูและหอยนางรม ที่มีอัตราการแปรสภาพ PAH ที่ช้าที่สุด

ข่าวล่าสุด

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 ได้รับทราบว่าการระเบิดแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโก ห่างจากชายฝั่งทะเลของรัฐหลุยเซียร์น่า Louisiana ประมาณ 100 ไมล์ ชื่อแท่นขุดน้ำมัน Vermilion Oil Platform 380 ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการประมงในน่านน้ำอ่าวเม็กซิโกและลดความเชื่อมันต่อผู้บริโภคของสหรัฐฯ จากแหล่งน้ำในอ่าวเม็กซิโกในระยะยาว ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อการส่งออกอาหารทะเลของไทยในสหรัฐฯ ในปี 2553 เนื่องจากคู่แข่งอย่างเม็กซิโกทำการประมงในน่านน้ำในอ่าวเม็กซิดกส่งออกไปยังประเทศสหรัฐฯ ในปริมาณมาก

ข้อมูลอ้างอิง

http://news.yahoo.com/s/ap/20100816/ap_on_he_me/us_med_healthbeat_seafood_

http://www.usatoday.com/news/nation/2010-08-23-shriming-season-gulf-mexico_N.htm

http://news.yahoo.com/s/ap/us_gulf_rig_explosion

ภาพของสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเม็กซิโก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ