ก่อสร้างมากความต้องการประตูหน้าต่างโต

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 21, 2010 16:50 —กรมส่งเสริมการส่งออก

จากการคาดการณ์ของบุคคลในวงการอุตสาหกรรมการก่อสร้างจีน คาดว่าปี 2553 นี้ ธุรกิจตกแต่งบ้านจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 20 เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการในการออกแบบและตกแต่งที่สวยงาม โดดเด่น แสดงถึงความมีรสนิยมกันมากขึ้น ซึ่งการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างและตกแต่งนั้น ดึงให้ตลาดอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ อุตสาหกรรมเคมี โลหะ ไม้แปรรูป สุขภัณฑ์เซรามิกส์ สิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า แรงงาน ฯลฯ เติบโตตามไปด้วย

สมาคมวัสดุก่อสร้างและตกแต่งแถลงว่า ปริมาณความต้องการสินค้าประตูและหน้าต่างในตลาดจีนมีสูงถึง 500 กว่าล้านตารางเมตรต่อปี เทียบได้กับปริมาณการใช้สอยจริงของตลาดยุโรปถึง 4 เท่า ในอนาคตคาดว่าปริมาณความต้องการสินค้าประตูหน้าต่างจะเติบโตถึงร้อยละ 11 ต่อปี โดยประมาณการว่าเมื่อถึงปี 2554 มูลค่าการผลิตประตูหน้าต่างจะสูงถึง 1.95 แสนล้านหยวน ซึ่งประเทศจีนกำลังจะเป็นตลาดที่ผลิตและใช้ประตูหน้าต่างมากที่สุดในโลก

จากสถิติ ในแต่ละปีมีการก่อสร้างในเขตเมืองทั้งสิ้น 500 ล้านตารางเมตร ในเขตชนบท 600 กว่าล้านตารางเมตร เป็นการก่อสร้างสาธารณะอีก 700 กว่าล้านตารางเมตร ซึ่งในจำนวนนี้ใช้ประตูคิดเป็นร้อยละ 10 และหน้าต่างคิดเป็นร้อยละ 20 รวมความต้องการประตูและหน้าต่างมีถึง 500 กว่าล้านตารางเมตรต่อปี นอกจากนี้คาดว่าประตูหน้าต่างที่ผลิตจากพลาสติกจะได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าวัสดุอื่น ๆ เช่น โลหะ หรือไม้ โดยเมื่อถึงปี 2554 คาดว่าประตูหน้าต่างประเภทพลาสติกจะมีการเติบโตถึงร้อยละ 13.9 ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบไปแล้ว แม้ว่าขณะนี้ความต้องการประตูและหน้าต่างที่ผลิตจากโลหะจะน้อยลง แต่เมื่อถึงปี 2554 ความต้องการประตูหน้าต่างโลหะน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งในประเทศจีนนั้น พื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมการผลิตประตูโลหะกระจุกตัวอยู่ในมณฑลเจ้อเจียง เจียงซู เหลียวหนิง เสฉวน ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นแหล่งผลิตประตูโลหะที่สำคัญ คิดเป็นร้อยละ 70 ของทั้งประเทศเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ผลพวงจากงาน World Expo 2010 ที่เซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้ใน 2 ปีข้างหน้า เซี่ยงไฮ้จะมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ใหม่แล้วเสร็จอีกกว่า 2 ล้านตารางเมตร ทำให้ความต้องการประตูหน้าต่าง และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ