ชาหลากรส เครื่องดื่มยอดฮิต ติดตลาดนครเฉิงตูในปี 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 22, 2010 14:15 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ธุรกิจเครื่องดื่มในจีนถือเป็นธุรกิจที่มีตลาดรองรับขนาดใหญ่ มีการแข่งขันดุเดือด ต่างค่ายต่างแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดมูลค่ามหาศาล ทุ่มงบโฆษณาไม่อั้น ทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2552 จีนมีการผลิตเครื่องดื่มทั้งสิ้นมากกว่า 77 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึงร้อยละ 28 และในเดือน มิ.ย. 2553 พบว่า ตลาดเครื่องดื่มเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 10.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีการผลิตเครื่องดื่มประเภท Soft Drink ทั้งสิ้นกว่า 8.79 ล้านตัน และจากตัวเลขสถิติของเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2553 พบว่า มีการผลิตเครื่องดื่มกว่า 44.18 ล้านตัน เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 17.8 เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน คาดการณ์ว่าในปี 2553 ทั้งปี ตลาดเครื่องดื่มของจีนจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 30 เลยทีเดียว

ประเภทเครื่องดื่มในตลาดจีนมีมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำผัก - ผลไม้ ชา เครื่องดื่มเกลือแร่ บำรุงกำลัง น้ำแร่ และน้ำดื่มบริสุทธิ์ ซึ่งเครื่องดื่มแต่ละประเภทมีหลากหลายตราสินค้าให้เลือกสรร อาทิเช่น Coke, Pepsi, Unif, Wang Lao Ji, Kang Shi Fu, Lan Jian, Yi Bao, Nong Fu Shan Quan เป็นต้น

การสำรวจ "ตลาดเครื่องดื่มในนครเฉิงตูปี 2553" มีบริษัท Chengdu Sunbird Consulting & Marketing เป็นผู้ดำเนินการ ใช้พนักงานสำรวจจำนวน 50 คน ทำการสอบถามและสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างชาวเฉิงตูอายุระหว่าง 12 - 65 ปี จำนวน 210 ราย ผลสำรวจครอบคลุม 4 รายการ ตั้งแต่พฤติกรรมการเลือกซื้อ (ทั้งประเภทสินค้า ความถี่ในการซื้อ สถานที่ซื้อ ปัจจัยพิจารณาในการเลือกซื้อ และบรรจุภัณฑ์) การรับรู้ถึงตราสินค้าของผู้บริโภคในตลาด ช่องทางการรับรู้ข่าวสารของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงความคิดเห็นต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคในตลาดมากยิ่งขึ้น

ชาวเฉิงตูชอบดื่มชา

ในประเทศจีนนั้น เครื่องดื่มประเภทอัดลมเข้าสู่ตลาดเป็นประเภทแรก ๆ แต่กลุ่มผู้บริโภคหลัก คือ กลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ จำเป็นต้องมีรสชาติใหม่ ๆ ออกมากระตุ้นยอดขายและดึงดูดใจ ไม่เหมือนกับเครื่องดื่มประเภทชาและน้ำผลไม้ ที่แม้ว่าจะทยอยเข้าสู่ตลาดทีหลัง แต่กลับกลายเป็นเครื่องดื่มยึดครองแบ่งตลาดได้รวดเร็วที่สุด เครื่องดื่มชาเริ่มเข้าสู่ตลาดเมื่อประมาณปี 2536 และในปี 2544 มูลค่าตลาดชาเริ่มเข้าสู่ยุคการเจริญเติบโต จนกระทั่งปี 2550 เครื่องดื่มชามียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 99,800 ล้านลัง โดยในจำนวนนี้เป็นเครื่องดื่มชาดำร้อยละ 47 และชาเขียวร้อยละ 42 ยอดขายเครื่องดื่มชามีอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 30 ต่อปี ยึดครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มในจีนที่ร้อยละ 20 ทั้งนี้ เนื่องจากจีนมีวัฒนธรรมการดื่มชามายาวนาน ประกอบกับกระแสรักสุขภาพ ทำให้เครื่องดื่มประเภทชาง่ายต่อการสร้างการรับรู้แก่กลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ซึ่งผู้ผลิตเครื่องดื่มหลายค่ายต่างหันมาผลิตเครื่องดื่มชากันมากขึ้น เช่น บริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลมอย่าง Coca - Cola (China) หรือแม้แต่ผู้ผลิตน้ำดื่มน้ำแร่อย่าง Nong Fu Shan Quan ก็หันมาลงเล่นตลาดเครื่องดื่มชาด้วย ซึ่งผู้ผลิตเครื่องดื่มชาทั้งหลาย ต่างก็มีการพัฒนาสินค้า ส่งชาประเภทต่าง ๆ รสชาติใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ อูหลง เถี่ยะกวนอิน ชาเขียว ชาดำ หรือชารสมะนาว ชารสบลูเบอร์รี่

ผลการสำรวจเครื่องดื่มที่ชาวเฉิงตูนิยมเลือกดื่มบ่อยที่สุด ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม พบว่า กลุ่มแรกชอบดื่มเครื่องดื่มประเภทชาและน้ำแร่บ่อยที่สุด (ผู้บริโภคอายุต่ำกว่า 35 ปี ดื่มชาเป็นประจำ และผู้บริโภคอายุ 35 ปีขึ้นไปนิยมดื่มน้ำแร่) กลุ่มที่สอง คือ น้ำอัดลมและน้ำผลไม้ กลุ่มที่สาม คือ เครื่องดื่มประเภทนม, นมเปรี้ยว และเครื่องดื่มให้พลังงาน และกลุ่มสุดท้าย คือ กาแฟ

หากพิจารณาวัยของชาวเฉิงตูผู้นิยมดื่มเครื่องดื่มชา จะกระจุกตัวอยู่ที่ช่วงอายุ 12 - 35 ปีเป็นหลัก โดยผู้บริโภคอายุ 12 - 17 ปี นิยมดื่มชาคิดเป็นร้อยละ 87.8 ของเครื่องดื่มทั้งหมดที่เลือกบริโภค กลุ่มอายุ 18 - 35 ปี ชอบดื่มชาคิดเป็นร้อยละ 88.1 ของเครื่องดื่มทั้งหมดที่เลือกบริโภค

"ใคร" คือผู้นิยมบริโภคเครื่องดื่ม

จากการสำรวจพบว่า ชาวเฉิงตูบริโภคเครื่องดื่มเฉลี่ยสัปดาห์ละ 4 ขวด (กล่อง, กระป๋อง) โดยช่วงอายุ 12 - 17 ปี เป็นกลุ่มที่บริโภคบ่อยที่สุด คือ เฉลี่ยสัปดาห์ละ 4.7 ขวด (กล่อง, กระป๋อง) นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าเพศชายมีความถี่ในการบริโภคเครื่องดื่มมากกว่าเพศหญิง โดยบริโภคสัปดาห์ละ 4.2 ขวด (กล่อง, กระป๋อง) และ 3.5 ขวด (กล่อง, กระป๋อง) ตามลำดับ ทั้งนี้ สถานที่ที่ชาวเฉิงตูนิยมซื้อเครื่องดื่ม คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต

ปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องดื่ม

สำหรับปัจจัยในการเลือกบริโภคเครื่องดื่มนั้น จากการสำรวจล่าสุดชาวเฉิงตูให้ความสำคัญกับวันเดือนปีที่ผลิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่น ๆ โดยผู้บริโภคจะเลือกดูวันผลิตเป็นอันดับแรก คิดเป็นร้อยละ 78.6 รองลงมา คือ รสชาติ คิดเป็นร้อยละ 61.4 และตราสินค้า คิดเป็นร้อยละ 46.2 ตามลำดับ

ผู้ประกอบการทั้งหลายต่างเห็นถึงศักยภาพตลาดเครื่องดื่มของนครเฉิงตู ทำให้ช่วง 2-3 ปีมานี้ บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยี่ห้อต่าง ๆ ต่างเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตในเขตนครเฉิงตูและบริเวณใกล้เคียง อาทิ Coca-Cola, Pepsi Cola Kang Shi Fu, Wa Ha Ha, Hui Yuan, Nong Fu Shan Quan เป็นต้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการขนส่งและผู้บริโภคจะได้บริโภคสินค้าที่สดใหม่ด้วย

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ