อาหารไทย นับได้ว่าเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก ถ้าจะพูดถึงร้านอาหารไทยในนครหางโจว นับว่ายังมีไม่มากนัก มีร้านที่เปิดดำเนินกิจการจำนวน 2 ร้าน ดำเนินธุรกิจโดยชาวฮ่องกง และเมื่อต้นปี 2553 นครหางโจวก็มีร้านอาหารไทยแท้ร้านแรกที่ลงทุนกิจการโดยคนไทยชื่อร้าน “ใบโพธิ์ทอง”
ร้านใบโพธิ์ทอง ก่อตั้งมาจากความร่วมมือของนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจจีน ที่พยายามจะสร้างร้านให้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาคเอกชนไทยและเอกชนจีน โดยการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองหางโจวกับภาครัฐบาลไทย ผลักดันให้เกิดขึ้น โดยมีตัวแทนคนไทยที่เป็นผู้ลงทุนคือ นายวินิจ เมธาวิธิต จดทะเบียนดำเนินธุรกิจร้านอาหารในนามนิติบุคคล ผู้บริหารเป็นคนไทยร่วมกับคนจีน ใช้ทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเบื้องต้นลงทุนไปแล้ว 550,000 เหรียญสหรัฐฯ
ร้านใบโพธิ์ ตั้งอยู่เลขที่ 29 ถนนหูปิ่น อยู่ติดกับถนนชิงเหอฝัง ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงของนครหางโจว เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11:00-14:00 น. และ 17:00-23:00 น. มีเนื้อที่ 372 ตารางเมตร ภายในร้านรองรับลูกค้าได้ 170 ที่นั่ง มีห้องวีไอพี จำนวน 5 ห้อง มีพนักงานคนไทยและคนจีนทั้งหมด 32 คน บรรยากาศตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย ๆ รวมถึงของตกแต่ง งานไม้แกะสลัก โคมไฟ กรอบรูปต่างๆ นำเข้าจากประเทศไทยทั้งหมด
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มระดับกลางถึงระดับสูง มีทั้งชาวจีนและต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาจัดเลี้ยงมากขึ้น
เน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ในเรื่องของอาหารมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้รสชาดถูกปากคนจีน เพราะชาวจีนไม่นิยมทานอาหารรสจัดจึงต้องลดรสเผ็ด เปรี้ยว ลงบ้างแต่ยังคงความเป็นไทยเพื่อให้ลูกค้าได้ซึมซับถึงรสชาดของอาหารไทย การปรุงอาหารโดยแม่ครัวคนไทย ใช้สมุนไพรไทย อาทิ ข่า ตะไคร้ ขมิ้น มะกรูด เพื่อรสชาดที่กลมกล่อมรวมถึงได้คุณค่าทางอาหารจากสมุนไพรต่าง ๆ นอกจากในเรื่องของอาหารแล้ว สถานที่และบรรยากาศการตกแต่งภายใน ก็มีส่วนสำคัญที่จะสะท้อนให้เห็นเป็นไทยที่ลูกค้าหาดูและสัมผัสไม่ได้จากร้านอื่นๆที่เจ้าของเป็นคนจีน รวมถึงการบริการของพนักงานที่มีความยิ้มแย้มแจ่มใส
จากผลการประกอบการที่ผ่านมา ถือว่าร้านประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของลูกค้าเป็นอย่างมากเพราะร้านใบโพธิ์ทองมีการวางตำแหน่งของร้านให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารที่มีความแตกต่างจากคู่แข่ง ,สถานที่สะอาด บรรยากาศเป็นแบบไทยแท้ รวมถึงการบริการที่ดีแบบไทย ตลอดจนสภาพแวดล้อมภายในร้านที่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ ๆเพื่อให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ส่งผลให้ร้านมียอดขายที่น่าพอใจและคุ้มทุนเร็วกว่าที่ตั้งไว้ ดังนั้นในปี 2554 ทางร้านมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขาในเมืองใหญ่ของมณฑลเจ้อเจียง และนอกจากนี้ยังมีแผนเปิดร้านขายขนมไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์ของไทยต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ ใบโพธิ์ทอง
ถึงแม้ว่าร้านจะถือว่าประสบความสำเร็จในด้านต่างๆดังที่กล่าวมาแต่ปัญหาจากลูกค้าคือราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร ต้องสั่งนำเข้ามาไทย ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่จำเป็นประมาณ 20 % แต่ปัจจุบันทางร้านเริ่มมีการปรับเปลี่ยนการบริหารงานเพื่อให้ค่าใช้จ่ายลดลง และพยายามชี้จุดเด่นของร้านในเรื่องของอาหารและวัฒนธรรมไทยแท้เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความคุ้มค่าในการเข้ามาบริโภค
จีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ปัจจุบันคนจีนนิยมทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารไทยถือว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกในการบริโภคเพราะคนจีนมีความเชื่อมั่นและยอมรับในคุณภาพ รสชาดอาหารแบบไทย ๆ อีกทั้งชาวจีนให้ความสำคัญเรื่องอาหารเพื่อคุณภาพ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของอาหารไทย
จะเห็นได้ว่าร้านอาหารไทยมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเพราะร้านอาหารไทยในจีนยังมีไม่มากนัก ยิ่งเป็นร้านที่ลงทุนโดยคนไทยถือว่าน้อยมาก ดังนั้นถ้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการที่จะช่วยกันประชาสัมพันธ์อาหารและวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้ในการประกอบธุรกิจรวมถึงการจัดหาแหล่งสนับสนุนด้านเงินทุน เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสก้าวมาในตลาดจีนมากขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th