กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ (Surachai Sutthitham, President of The Swine Raisers Association of Thailand) กล่าวว่า ในนามของผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ที่เข้าใจสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์อย่างลึกซึ้ง โดยได้ย้ำว่าราคาสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์มีขึ้นมีลง ซึ่งปัญหาเนื้อหมูที่มีราคาสูงในปัจจุบันก็เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ต่อเนื่องตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ และที่เห็นได้ชัดว่าท่านนายกรัฐมนตรีเข้าถึงและรู้จริงกับปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงผู้บริโภคก็คือการแนะนำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อชิ้นส่วนอื่นของหมูที่ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนเนื้อแดง เช่น กระดูกหมู ราคาเพียงกิโลกรัมละ 22 บาท มาปรุงเมนูกระดูกหมูต้มฟัก รับประทานกันทั้งครอบครัว หรือเลือกซื้อหมูสามชั้น ซึ่งมีราคาถูกกว่าหมูเนื้อแดง เป็นต้น
“ผมต้องขอชื่นชมและขอขอบคุณท่านนายกสมัครที่เข้าใจพวกเราเกษตรกรคนเลี้ยงหมู และขอให้กำลังใจท่านในการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูในระยะยาว เพราะการกำหนดเพดานราคาที่กระทรวงพาณิชย์พูดถึงจะมีผลในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องล้มหายตายจากกันหมด และการที่หมูมีราคาสูงขึ้นก็มีที่มาที่ไป คือวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาแพง รวมถึงปริมาณหมูที่น้อยลงจากการแก้ปัญหาราคาหมูตกต่ำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทาน ไม่ได้ขึ้นราคาตามใจชอบของผู้เลี้ยง”
นายสุรชัยยังกล่าวอีกว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู มีอาชีพเดียวในการเลี้ยงชีพดำรงชีวิต ซึ่งหากไร้ซึ่งความเข้าใจจากภาครัฐแล้ว จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องหมดไปจากประเทศไทย ขณะที่ผู้บริโภคมีทางเลือก ในการบริโภคอาหารโปรตีนอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อสินค้าโปรตีนชนิดใดมีราคาแพงขึ้น ก็สามารถหมุนเวียนเปลี่ยนไปเลือกบริโภคโปรตีนชนิดอื่นทดแทน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เต้าหู้ ฯลฯ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์เช่นนี้แล้ว ก็ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีกำลังใจ และเกิดความเชื่อมั่นในคณะรัฐมนตรีของนายกสมัครว่าจะไม่ทอดทิ้งเกษตรกร และจะสามารถแก้ไขปัญหาราคาหมูที่ขึ้นๆลงๆ เป็นวัฏจักรได้อย่างยั่งยืน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นายสุรชัย สุทธิธรรม
โทร 081-577-3666
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ (Surachai Sutthitham, President of The Swine Raisers Association of Thailand) กล่าวว่า ในนามของผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ที่เข้าใจสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์อย่างลึกซึ้ง โดยได้ย้ำว่าราคาสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์มีขึ้นมีลง ซึ่งปัญหาเนื้อหมูที่มีราคาสูงในปัจจุบันก็เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ต่อเนื่องตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ และที่เห็นได้ชัดว่าท่านนายกรัฐมนตรีเข้าถึงและรู้จริงกับปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงผู้บริโภคก็คือการแนะนำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อชิ้นส่วนอื่นของหมูที่ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนเนื้อแดง เช่น กระดูกหมู ราคาเพียงกิโลกรัมละ 22 บาท มาปรุงเมนูกระดูกหมูต้มฟัก รับประทานกันทั้งครอบครัว หรือเลือกซื้อหมูสามชั้น ซึ่งมีราคาถูกกว่าหมูเนื้อแดง เป็นต้น
“ผมต้องขอชื่นชมและขอขอบคุณท่านนายกสมัครที่เข้าใจพวกเราเกษตรกรคนเลี้ยงหมู และขอให้กำลังใจท่านในการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูในระยะยาว เพราะการกำหนดเพดานราคาที่กระทรวงพาณิชย์พูดถึงจะมีผลในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องล้มหายตายจากกันหมด และการที่หมูมีราคาสูงขึ้นก็มีที่มาที่ไป คือวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาแพง รวมถึงปริมาณหมูที่น้อยลงจากการแก้ปัญหาราคาหมูตกต่ำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทาน ไม่ได้ขึ้นราคาตามใจชอบของผู้เลี้ยง”
นายสุรชัยยังกล่าวอีกว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู มีอาชีพเดียวในการเลี้ยงชีพดำรงชีวิต ซึ่งหากไร้ซึ่งความเข้าใจจากภาครัฐแล้ว จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องหมดไปจากประเทศไทย ขณะที่ผู้บริโภคมีทางเลือก ในการบริโภคอาหารโปรตีนอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อสินค้าโปรตีนชนิดใดมีราคาแพงขึ้น ก็สามารถหมุนเวียนเปลี่ยนไปเลือกบริโภคโปรตีนชนิดอื่นทดแทน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เต้าหู้ ฯลฯ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าเกษตร-ปศุสัตว์เช่นนี้แล้ว ก็ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีกำลังใจ และเกิดความเชื่อมั่นในคณะรัฐมนตรีของนายกสมัครว่าจะไม่ทอดทิ้งเกษตรกร และจะสามารถแก้ไขปัญหาราคาหมูที่ขึ้นๆลงๆ เป็นวัฏจักรได้อย่างยั่งยืน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นายสุรชัย สุทธิธรรม
โทร 081-577-3666